แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 164

“ขอบน้ำใจพ่อบ้านตระกูลหราวนัก เพียงแต่เรื่องในวันนี้คงมิรบกวนท่านดอก” ลั่วเสี่ยวปิงปฏิเสธข้อเสนอที่จะช่วยของพ่อบ้านตระกูลหราวอย่างอ้อมค้อม

เดิมคิดว่าพ่อบ้านตระกูลหราวจะไม่พอใจ แต่ไม่คิดว่าพ่อบ้านตระกูลหราวจะแค่ยิ้มบอกว่า “หากแม่นางลั่วต้องการเมื่อใด มาพบนายท่านของเราได้ทุกเมื่อเลย”

สำหรับคำพูดนี้ ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้รับคำอะไร และไม่รู้จะรับคำยังไง เลยได้แต่ยิ้มให้

เวลานี้ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้เลยว่า ปฏิกิริยาโต้ตอบของนางทำให้เขามองแม่นางลั่วสูงกว่าที่คาดคิดไว้หลายส่วน

เพราะมิว่าผู้ใดก็อยากเกาะติดตระกูลหราว หากแม่นางลั่วตรงหน้าคนนี้กลับมิได้มีความคิดเยี่ยงนี้เลย จนเขาเองยังอดแปลกใจไม่ได้ และมิน่าล่ะที่นายท่านยินดีจะให้เกียรติกับนาง

การปฏิเสธของลั่วเสี่ยวปิงเดิมทำให้ลั่วเหอซิ่งถอนหายใจโล่งอก แต่ประโยคหลังของพ่อบ้านตระกูลหราวทำให้ลั่วเหอซิ่งแอบแค้นใจ

มีคนตระกูลหราวอยู่ ดูท่าวันนี้เขาคงไม่ได้อะไรละ

พอคิดได้เยี่ยงนี้ ลั่วเหอซิ่งหันไปบอกคนตระกูลลั่วด้วยสีหน้าปั้นยาก “ในเมื่อนางมิได้เกี่ยวข้องอันใดกับบ้านเราแล้ว ไม่กินงานเลี้ยงก็ได้ ไปกันเถอะ”

ระหว่างพูด ลั่วเหอซิ่งสะบัดแขนเสื้อและเดินไปทางประตู

เพียงแต่ในยามที่เดินผ่านลั่วเสี่ยวปิง เขามองลั่วเสี่ยวปิงด้วยสายตามาดร้าย

พอเห็นหลานรักไป ถึงท่านย่าลั่วจะไม่อยากยอมแพ้ แต่นางเชื่อฟังคำพูดหลานรักมาตลอด ดังนั้นเลยมิได้ปกปิด

“ไปไปไป งานเลี้ยงของคนเนรคุณเราไม่กินหรอก”

ท่านย่าลั่วส่งเสียงแล้ว คนอื่นของตระกูลลั่วล้วนมีสีหน้าต่างๆกันไป ใครก็ไม่อยากออกไปตอนนี้ เพราะมีกลิ่นหอมของเนื้อเต็มห้องอยู่เนี่ย?

พอเห็นคนอื่นในตระกูลลั่วมีสีหน้าแบบนี้ ท่านย่าลั่วมีหรือจะไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไร ดังนั้นเลยเอ่ยปากเสียงเย็นว่า “หากไม่ไปก็อยู่ที่นี่มิต้องกลับไปแล้วกัน”

หลานรักนางยังไม่ได้กินเลย เจ้าพวกเด็กไม่ได้เรื่องนี่กลับอยากกิน? ไม่ต้องคิดเลย

นั่นไง พอท่านย่าลั่วพูดแบบนี้ แต่ละคนซึมไปตามๆกัน สายตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่ก็ไม่มีใครกล้าคัดค้านท่านย่าลั่ว เพราะพวกเขาไม่อยากถูกขับไล่จากตระกูลลั่วเดิมเพียงแค่เนื้อคำเดียว

ท่านย่าลั่วพอใจกับผลลัพธ์อย่างนี้มาก แต่ตอนนี้ลั่วว่างซิ่งกลับอาละวาดขึ้นมา “แง ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป ข้าจะกินเนื้อ ข้าจะกินเนื้อ...”

ร้องอาละวาดไปพลาง ลั่วว่างซิ่งยังนอนลงพื้นเต้นแร้งเต้นกาอาละวาดไปด้วย ท่าทางคือยังไงก็จะอยู่กินเนื้อที่นี่ ไม่นานบนเสื้อลั่วว่างซิ่งเดิมทีไม่ค่อยสะอาดนักก็มีรอยสกปรกมากขึ้น

จ้าวซื่อเห็นแม่สามีตนมองมา ก็เข้าไปดึงมือลั่วว่างซิ่ง พลางด่ากราดว่า “ว่างซิ่ง เลิกร้องไห้ได้แล้ว จะว่ายังไงที่นี่ก็เป็นงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของพี่สาวเจ้า พี่สาวเจ้าไม่มีทางไม่ให้เจ้าไม่กินเนื้อดอก”

คราวนี้จ้าวซื่อหน้าหนาเอาโล่เต็มที่ บอกว่าตัดขาดสัมพันธ์กันแล้วแท้ๆ แต่เวลานี้กลับพูดปาวๆว่าลั่วว่างซิ่งเป็นน้องชายของลั่วเสี่ยวปิง

ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น พอจ้าวซื่อพูดแบบนี้ คงต้องไปหยิบเนื้อมาชามหนึ่งให้ลั่วว่างซิ่งเอากลับไปเพื่อไม่ให้เสียหน้าแน่

แต่รออยู่ครู่หนึ่ง ลั่วเสี่ยวปิงกลับไม่มีท่าทีอะไร จ้าวซื่อมองไปทางลั่วเสี่ยวปิง และสบเข้ากับสายตาเย้ยหยันคล้ายจะยิ้มก็มิใช่ของลั่วเสี่ยวปิงเข้าพอดี

“กินกินกิน ไม่กลัวกินจนตัวแตกตาย ทำหน้าอยากกินเนื้อจนจะมุดเข้าไปในเนื้ออยู่แล้ว ยังไม่รีบกลับอีก?” เดิมท่านย่าลั่วไม่ได้พูดอะไร และอยากรอเนื้อเหมือนกัน เพราะเอากลับไปหลานรักนางก็จะได้กินด้วย

แต่ลั่วเสี่ยวปิงไม่ขยับตัว รอไปรอไปรอจนหน้านางแตกไม่เหลือดี เลยเริ่มด่ากราดขึ้นมา

จ้าวซื่อไม่กล้าชักช้าอีก ลากลั่วว่างซิ่งออกไป

และไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่ พอคนตระกูลลั่วเดินถึงหน้าประตู จางเฉินซื่อก็ตะโกนว่า “เริ่มทานได้”

คนตระกูลลั่วรู้สึกว่ากลิ่นหอมของเนื้อยิ่งลอยหนาขึ้น แต่ไม่มีใครกล้าหยุดเท้า ในใจแต่ละคนต่างมีแต่โอดครวญก่นด่า

คนตระกูลลั่วจะเป็นยังไง ลั่วเสี่ยวปิงไม่สน

รอจนคนตระกูลลั่วกลับไปแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจัดการเช็ดทำความสะอาดโต๊ะในเรือนหลักอีกรอบ จากนั้นถึงเชิญพวกโอวหยางฉี่หยู่และผู้ใหญ่บ้านจางเต๋อหวังขึ้นนั่งโต๊ะ

ตอนแรกจางเต๋อหวังจะปฏิเสธ เพราะถึงเขาจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน แต่คนบนโต๊ะนั่นหากมิใช่ร่ำรวยก็สูงศักดิ์ เขาจะมีสิทธิ์ไปนั่งได้อย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง