“มิกล้าสั่งการดอก เพียงแต่ไม่รู้ว่าแม่นางลั่วจะขายสูตรอาหารให้ข้าน้อยได้หรือไม่?” พ่อบ้านตระกูลหราวมีสีหน้าเกรงใจอยู่ตลอด
ได้ยินอย่างนั้น ลั่วเสี่ยวปิงตกใจมาก ส่วนโอวหยางฉี่หยู่กลับร้อนใจ
ไม่ร้อนใจได้รึ? จะมีคนมาแย่งแล้ว
ไม่ได้การละ!
โอวหยางฉี่หยู่ร้อนใจรีบก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าว เพียงแต่ตอนกำลังจะพูด พ่อบ้านตระกูลหราวเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง “ไม่ปิดบังเลย แม่นางลั่ว นายท่านของข้าชอบทานอาหารแปลกใหม่นัก ไม่รู้ว่าแม่นางลั่วจะพอตัดใจขายให้ได้หรือไม่?”
“แม่นางลั่ววางใจได้ เรื่องราคาเราตกลงกันได้” พ่อบ้านตระกูลหราวอธิบายเพิ่มเติม
พูดตามจริง วันนี้ลั่วเสี่ยวปิงทำพะโล้ออกมา และยังทำอาหารเสฉวนพวกนั้น เพื่อจะคุยการค้าใหญ่กับโอวหยางฉี่หยู่ ไม่ได้คิดเลยว่าพ่อบ้านตระกูลหราวจะแทรกเข้ามา
แต่ว่า....
หางตาลั่วเสี่ยวปิงเหลือบเห็นความร้อนใจในดวงตาของโอวหยางฉี่หยู่ เลยแสร้งทำไม่เห็นและหันไปยิ้มบอกพ่อบ้านตระกูลหราวว่า “อาหารพวกนี้ทำออกมาเพราะคิดจะขายอยู่แล้ว ในเมื่อพ่อบ้านตระกูลหราว....”
“ฮูหยิน!”
ไม่รอลั่วเสี่ยวปิงพูดจบ โอวหยางฉี่หยู่แทรกคำขึ้นตัดบทลั่วเสี่ยวปิงทันทีด้วยสีหน้าร้อนใจ
พอเห็นโอวหยางฉี่หยู่มองมาทางตน โอวหยางฉี่หยู่พูดขึ้นว่า “ขอบอกอย่างไม่ปิดบังเลย อาหารพวกนี้ฉีฮูหยินได้ตกลงร่วมมือกับข้าก่อนแล้ว”
โอวหยางฉี่หยู่พูดโกหกหน้าตาเฉย
ล้อเล่นน่า ตอนนี้ถ้าหน้าไม่หนาก็กินเนื้อไม่ได้ นี่ถ้าไม่ทำหน้าหนาเข้าไว้ เกิดลั่วเสี่ยปิงขายสูตรอาหารให้คนตระกูลหราวไปจะทำยังไง?
เบื้องหลังรากฐานของตระกูลหราว เขาไม่กล้าไปหาเรื่องด้วยหรอก เกิดสูตรอาหารตกไปอยู่ในมือคนตระกูลหราว เขาอยากกินอาหารอร่อยเยี่ยงนี้อีกดูท่าจะยากกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก
แต่หน้าหนาเป็นเรื่องหนึ่ง ตอนนี้โอวหยางฉี่หยู่กลับเหมือนวัวสันหลังหวะไม่กล้ามองลั่วเสี่ยวปิง
ลั่วเสี่ยวปิงมองดูท่าทางร้อนใจของโอวหยางฉี่หยู่แล้วยิ้มมุมปากน้อยๆ
แบบนี้การร่วมมือที่จะคุยวันนี้ดูท่าจะไม่ได้ยากขนาดนั้นแล้ว
ลั่วเสี่ยวปิงยิ้มน้อยๆ ส่งยิ้มให้โอวหยางฉี่หยู่ และพูดต่อว่า
“ในเมื่อพ่อบ้านตระกูลหราวสนใจอาหารนี้ เดิมข้าคิดจะขายสูตรอาหารให้พ่อบ้านตระกูลหราว เพียงแต่ข้ารับปากคุณชายโอวหยางอยู่ก่อนแล้ว ต้องขออภัยด้วยจริงๆ”
พ่อบ้านตระกูลหราวได้ยินอย่างนั้นหันมองโอวหยางฉี่หยู่หนึ่งที เจ้าของเบื้องหลังของหอฝูหม่าน
นายท่านเคยบอกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา คนที่สามารถทำให้นายท่านพูดถึงอย่างนี้ได้ต้องมิธรรมดาแน่ เขาเองก็ไม่คิดจะถกเถียงกับอีกฝ่าย
แต่ในฐานะพ่อบ้านตระกูลหราว เขาเข้าใจในการดูสีหน้าคนเป็นอย่างดี ท่าทางร้อนใจของคุณชายโอวหยางผู้นี้เมื่อครู่เขาเห็นกับตาเช่นกัน
พอคิดได้ดังนั้น พ่อบ้านตระกูลหราวเอ่ยขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็มิเรียกร้องแล้ว หากแม่นางลั่วมีสูตรอาหารอีก ขอให้คิดถึงตระกูลหราวเป็นคนแรกนะขอรับ”
พูดจบ พ่อบ้านตระกูลหราวมองโอวหยางฉี่หยู่อย่างมีเลศนัย และยกมือคารวะขออำลากับลั่วเสี่ยวปิง
ที่ด้านหน้ามีท่านป้าหลายคนกำลังเก็บกวาดสถานที่ ฉีเทียนเห้าพาเด็กสองคนไปโกดังเพื่อนับจำนวนของขวัญที่ได้รับในวันนี้ ลั่วเสี่ยวปิงกลับนั่งอยู่ในเรือนหลังกับโอวหยางฉี่หยู่สองคน
ทั้งสองนั่งเผชิญหน้ากัน ต่างมีถ้วยชาวางอยู่ใกล้มือ
โอวหยางฉี่หยู่ในตอนนี้แสดงความจำนงที่จะซื้อสูตรอาหารออกมาแล้ว และรอลั่วเสี่ยวปิงให้คำตอบอยู่
ถึงลั่วเสี่ยวปิงจะปิดปากเงียบอยู่นาน แต่โอวหยางฉี่หยู่กลับมั่นใจว่าเขาต้องชนะแน่
เพราะเมื่อครู่ลั่วเสี่ยวปิงปฏิเสธพ่อบ้านตระกูลหราวเพื่อเขาแล้วมิใช่รึ?
เพียงแต่ในตอนที่โอวหยางฉี่หยู่คิดว่าลั่วเสี่ยวปิงต้องรับปากแน่ ลั่วเสี่ยวปิงกลับบอกเขาว่า “สูตรอาหารในวันนี้ ข้าไม่ขาย”
“เช่นนั้นดี เรามาจัดการเซ็นสัญญา....หา? เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?” โอวหยางฉี่หยู่พูดไปครึ่งหนึ่งก็ได้สติกลับมาถึงคำที่ลั่วเสี่ยวปิงพูด เขาคิดว่าตนเองฟังผิดไป
“สูตรข้าไม่ขาย” ครั้งนี้ลั่วเสี่ยวปิงพูดออกมาอย่างง่ายดาย
“เพราะเหตุใด?” โอวหยางฉี่หยู่ไม่เข้าใจ
“ข้าไม่ขายสูตร แต่ร่วมหุ้นได้” ลั่วเสี่ยวปิงพูดเป้าหมายของตนเองออกมา “ข้าจะร่วมหุ้นด้วยสูตรอาหาร เจ้าให้ผลกำไรสี่ส่วนของหอฝูหม่านเมืองหลินอานกับข้า”
สี่ส่วนเป็นราคาที่นางออกปาก แต่นางคิดในใจไว้สองส่วน ที่เหลืออีกสองส่วนเอาไว้ต่อราคา
และกำไรสองส่วนอันที่จริงเยอะมากแล้ว เยอะมากจริงๆ
เพราะหอฝูหม่านเป็นร้านใหญ่ แค่ในเมืองหลินอานก็มีอยู่หลายสาขา
แต่สูตรของนางเป็นหนึ่งไม่มีสอง และสูตรในสมองของนางก็ไม่ได้มีแค่นี้ ดังนั้นเอากำไรสองส่วนนี่ นางมั่นใจมาก
จากนั้นเทียบกับความมั่นใจของลั่วเสี่ยวปิง โอวหยางฉี่หยู่กลับสีหน้าเคร่งขรึมลง สายตาที่มองลั่วเสี่ยวปิงมีแววเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ตั้งแต่แรกที่รู้จักลั่วเสี่ยวปิง เขาก็รู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่เลว สามารถทำความรู้จักให้ลึกซึ้งได้
ต่อให้ไม่มีคนผู้นั้นอยู่ เขาก็คิดเช่นนี้อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ดูแล้ว สตรีผู้นี้ก็แค่นี้เอง
อาศัยสูตรอาหารไม่กี่สูตรก็อยากได้กำไรสี่ส่วนของหอฝูหม่านทั้งสิบสาขาของเขา ดูจะโลภมากไปหน่อยกระมัง
เพียงแต่...นางเป็นผู้หญิงของคนผู้นั้น เขาก็ไม่กล้าจะฉีกหน้าเสียดื้อๆเลย
แต่กำไรสี่ส่วน....
โอวหยางฉี่หยู่สับสนอย่างหนัก ด้านหนึ่งคือไม่พอใจกับการเรียกราคาสูงมากของลั่วเสี่ยวปิง อีกด้านหนึ่งก็หวั่นเกรงฉีเทียนเห้า ไม่กล้าทำให้สถานการณ์ดูแย่ไปนัก
ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ว่าโอวหยางฉี่หยู่คิดอะไรอยู่ในใจ แต่กลับสัมผัสได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงของโอวหยางฉี่หยู่
นางรู้ว่าโอวหยางฉี่หยู่รู้สึกว่าตนขอมากไป เลยพูดต่อว่า “ที่ข้าสามารถให้ได้ไม่เพียงแค่สูตรอาหารในวันนี้ หากเจ้าเห็นด้วยในการร่วมมือกับข้า ข้ารับประกันว่าทุกเดือนจะออกสูตรใหม่สองสูตร”
พอโอวหยางฉี่หยู่ได้ยินลั่วเสี่ยวปิงพูดแบบนี้ ก็ตะลึงอึ้งทันที
ทุกเดือนจะออกสูตรใหม่สองสูตร? ไม่ได้ขอร่วมหุ้นแค่อาหารบนโต๊ะพวกนั้น?
งั้น หมายความว่า ทุกปีหอฝูหม่าจะมีอาหารใหม่นอย่างน้อยยี่สิบสี่รายการ?
หากเป็นเช่นนั้นจริง กำไรสี่ส่วนดูเหมือนจะไม่ใช่ไม่ได้....
“แน่นอน หากคุณชายโอวหยางไม่เห็นด้วยจะร่วมมือ ข้าก็สามารถหาผู้อื่นได้” เห็นโอวหยางฉี่หยู่นั่งนิ่งอยู่นานไม่พูดอะไร ลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้ว คิดว่าโอวหยางฉี่หยู่จะปฏิเสธ
“ไม่....” โอวหยางฉี่หยู่ได้สติกลับมา เขามองลั่วเสี่ยวปิงพลางถามอย่างสงสัยว่า “เจ้าสามารถออกสูตรอาหารใหม่อย่างน้อยสองสูตรได้ทุกเดือนจริงรึ?”
“มันยากตรงไหนกัน?” ลั่วเสี่ยวปิงย้อนถามกลับ
โอวหยางฉี่หยู่เงียบไป สักพักถึงเอ่ยปาก “ถ้าเช่นนั้น ข้าจะร่วมมือกับเจ้า แต่ขอเป็นกำไรสามส่วนก่อนได้หรือไม่?”
สี่ส่วนมันมากไปหน่อย เขาปวดใจ
ถึงเสน่ห์ดึงดูดของสูตรอาหารใหม่ยี่สิบสี่ชนิดในหนึ่งปีจะมีมากกว่า แต่ในฐานะพ่อค้า ถ้าไม่ต่อราคาสักหน่อยถึงจะเรียกว่าโง่จริง
พอได้ยินโอวหยางฉี่หยู่บอกว่าสามส่วน มากกว่าที่นางคาดหวังในใจนิดหน่อย ในใจลั่วเสี่ยวปิงลิงโลดนัก แต่ไม่ได้แสดงออกมา และแสร้งทำท่าครุ่นคิด
เดิมทีการตกลงการค้าก็เป็นแบบนี้เอง ไม่สามารถแสดงอารมณ์มากนักได้ ถ้าจำเป็นยังต้องแสดงละครอีกด้วย
พอเห็นลั่วเสี่ยวปิงไม่รับปากสักที โอวหยางฉี่หยู่เริ่มร้อนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
โชคดีที่ในตอนที่โอวหยางฉี่หยู่ร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็พยักหน้าตกลง
การร่วมมือก็สำเร็จลงดังนั้น ต่อมาก็เซ็นสัญญาละ
ทางนี้ลั่วเสี่ยวปิงและโอวหยางฉี่หยุ่ตกลงร่วมกันในสัญญาใหม่ แต่ทางบ้านเก่ากลับเกิดเรื่องขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง