แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 195

เมื่อรถม้ามาถึงปากหมู่บ้าน ลั่วเสี่ยวปิงเห็นมาแต่ไกลว่าหน้าประตูบ้านตัวเองนั้นล้อมรอบไปด้วยผู้คนมากมาย ส่วนลั่วหวางซื่อก็ยื่นมองบ้านหลังใหม่ตรงนอกกระท่อม แต่ไม่กล้าเข้าใกล้

เมื่อเห็นฉากนี้ ในใจของลั่วเสี่ยวปิงก็เกิดความกังวล และให้จางเอ้อหลางรีบขับรถม้าไป

เมื่อมาถึงบ้าน สิ่งที่ลั่วเสี่ยวปิงเห็นก็คือฟ่านต้าถงยกไม้ขึ้นจะตีหัวของจางเฉินซื่อ

ลั่วเสี่ยวปิงลืมตาโต และวิ่งเข้าไปช่วยโดยไม่คิดอะไรเลย

แต่ความเร็วของหนานซิงนั้นเร็วกว่า เพียงเห็นหนานซิงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และในขณะที่ทุกคนยังไม่ได้สติคืน ก็ก้าวหน้าขึ้นไปจับมือของฟ่านต้าถงที่กําลังจะตีลงมา จับมันไว้อย่างแน่นแล้วบิดแรงๆ ทันใดนั้นเสียงกระดูกหัก "กร๊อบ" และเสียงร้องตะโกนดังไปทั่วลาน

ทุกคนในที่อยู่ข้างๆ และฟ่านลี่ฮัว ต่างก็ตกตะลึงกับฉากที่เกิดอย่างฉับพลันตรงหน้านี้

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นว่าจางเฉินซื่อพ้นจากอันตราย ก็รู้สึกโล่งใจลง เดินเข้ามาจากประตู ใช้สายตาที่เย็นชากวาดผ่านฟ่านต้าถง และจ้องมองฟ่านลี่ฮัว

เมื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิง ฟ่านลี่ฮัวก็ทั้งกลัวทั้งเกลียด และในเวลาเดียวกันก็มีความร้อนตัวเล็กน้อย

โดยเฉพาะ เมื่อถูกสายตาอันเย็นชาของลั่วเสี่ยวปิงนั้นจ้องมอง ฟ่านลี่ฮัวเพียงรู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก และอธิบายโดยไม่รู้ตัวว่า "เสี่ยวปิง นี่……นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด……"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงเพียงหัวเราะเยาะ ไม่พูดอะไร แล้วหันมองไปที่หน้าประตู

เมื่อเห็นอย่างนี้ ในใจของฟ่านลี่ฮัวก็ตื่นเต้น ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนั้นก็เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

ในขณะนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็เอ่ยปากว่า "พี่มือปราบ เรื่องในวันนี้ท่านก็เห็นแล้ว ดังนั้นจึงต้องรบกวนพวกท่านช่วยจัดการหน่อยแล้ว"

มือปราบ!

ทุกคนตกตะลึงกัน

และเมื่อเสียงของลั่วเสี่ยวปิงเงียบลง มือปราบหลายคนก็ปรากฏตัวที่ประตูอย่างพร้อมเพรียงกัน

มือปราบกี่คนนี้ มาในตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะออกจากเมือง ได้รับคำสั่งจากกัวหงหยาง ไปส่งลั่วเสี่ยวปิงกลับหมู่บ้านโดยเฉพาะ

เมื่อเห็นมือปราบ สีหน้าของฟ่านลี่ฮัวก็ซีดลงทันที ปมในใจที่เคยถูกตีก่อนหน้านี้นั้นก็ปรากฏขึ้นในหัวสมองทันที เพียงรู้สึกว่าแผลที่ก้นที่ยังไม่หายดีนั้นเจ็บขึ้นอีกครั้ง

"พวกเจ้าบุกรุกบ้านของผู้คน แย่งทรัพย์สินของคนอื่น เก็บเข้าของและตามพวกข้าไปสอบปากคําที่ศาลซะ" มือปราบที่เป็นผู้นำนั้นก้าวไปข้างหน้า และมองไปที่ฟ่านต้าถงและคนอื่นๆอย่างเกรงใจ

ลั่วเสี่ยวปิงได้ช่วยฮูหยินนายอำเภอเอาไว้ และได้รับให้ความสำคัญให้ความสนใจให้เกียรติจากนายอำเภอ ในใจพวกเขารู้ดี หากไม่ใช่เป็นเพราะเช่นนี้ ใต้เท้าก็คงไม่ให้พวกเขาไปส่งนางกลับหมู่บ้านโดยส่วนตัวในยามที่ต้องการใช้คนอยู่พอดี

ตอนนี้แม่นางลั่วถูกรังแก พวกเขาก็ช่วยนางพอดี ก็ถือว่าทำดีต่อหน้าแม่นางลั่ว ต่อไปก็อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง ดังนั้นมือปราบจึงจะไปจับกุมตัวโดยไม่พูดอะไรเลย

ฟ่านต้าถงคนนี้มักจะรังแกคนที่อ่อนแอกว่าแต่กลัวคนที่แข็งแรงกว่า เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ก็เช่นเดียวกับหนูที่เห็นแมว ความเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้หายไปหมดทันที คนทั้งคนเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว "ท่านเจ้าหน้าที่ เข้าใจผิด ข้ามาเพื่อช่วย……"

"ช่วยก็จะขนเนื้อ ขนเมล็ดพืช ขนกระดาษและฝนหมึกของคนอื่นไปเหรอ?" ไม่รอฟ่านต้าถงได้พูด จางเฉินซื่อก็พูดประชดประชัน

คนตระกูลฟ่านและครอบครัวลูกคนโตของตระกูลลั่วที่ยืนอยู่หลังฟ่านต้าถงนั้น ของที่พวกเขาถือไว้ในมือนั้นก็คือเบคอนที่ลั่วเสี่ยวปิงดองเสร็จ เมล็ดพืชกับกระดาษและฝนหมึกของนาง เพราะพวกเขาได้ค้นบ้านของลั่วเสี่ยวปิงไปทั่วแล้ว และพวกเขาก็เห็นเพียงของสิ่งนี้เท่านั้นที่ยังถือว่ามีค่าหน่อย

สีหน้าของฟ่านต้าถงซีดลง ในใจเกลียดจางเฉินซื่อที่ทำลายแผนการของเขา แต่ก็ใช้สายตาที่ขอความช่วยเหลือหันไปมองฟ่านลี่ฮัว

ฟ่านลี่ฮัวไม่ได้มองฟ่านต้าถง แต่กลับขอร้องกับมือปราบทั้งหลายว่า "นายท่าน ข้าถูกใส่ร้าย ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของพี่ชายคนโตของข้าเอง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกข้าและคนอื่นๆเลย"

คําพูดนี้ของฟ่านลี่ฮัว ก็คือไม่ต้องการให้ตัวเองและลูกหลานเดือดร้อนไปด้วย เช่นนี้ถึงจะสามารถทำให้เกิดความสูญเสียที่น้อยที่สุด

มิฉะนั้น หากหลานชายของตัวเองนั้นก็ถูกจับตัวไปด้วย เกรงว่าพี่สะใภ้ของตนจะมาหาเรื่องนางแน่ ครอบครัวของนางเองก็จะไม่ได้อยู่เป็นสุขแน่เลย

ฟ่านต้าถงไม่รู้ความคิดของฟ่านลี่ฮัว แต่เดิมยังหวังให้น้องสาวของตัวเองช่วย แต่คิดไม่ถึงว่าน้องสาวไม่เพียงแต่ไม่ช่วย แถมยังใส่ร้ายตัวเองอีก ทำให้เขาโมโหจนจิกตา และด่าว่า“อีนังแพศยา แท้จริงแล้ว……”

"พี่ใหญ่ ข้าก็บอกแล้วว่าเสี่ยวปิงจะไม่เป็นไร จะกลับมา แต่พี่ก็ไม่ฟัง พี่ก็บอกว่ากลัวของที่นี่จะมีคนมาเอาไปและบอกจะเอากลับไปเพื่อช่วยเสี่ยวปิงดูแลมัน พี่ทำเช่นนี้มันจะทำให้เหล่าหลานชายต้องเดือดร้อนไปด้วนนะ" ไม่รอฟ่านต้าถงพูดอะไร ฟ่านลี่ฮัวก็มองดูฟ่านต้าถงด้วยความปวดใจ

เมื่อฟ่านต้าถงได้ยินว่าหลานชาย ก็เข้าใจความหมายของฟ่านลี่ฮัวทันที แม้ว่าสีหน้าจะดูแย่เหมือนเดิม แต่ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็อดไม่ได้ที่เชอะ "เอาโดยไม่ถามก็คือขโมย ป้าฟ่านสามารถนำพฤติกรรมของโจรว่าเป็นการช่วยดูแลแทน ช่างเก่งจริงๆเลย"

ถูกเยาะเย้ย สีหน้าของฟ่านลี่ฮัวก็ดูไม่ค่อยดีนัก แต่ก็เพียงแค่จ้องมองลั่วเสี่ยวปิงอย่างโหดร้าย

"เสี่ยวปิง ไม่ว่าจะอย่างไรพวกข้าก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของเจ้า เจ้าจำเป็นต้องทำให้เรื่องมันเกินไปด้วยเหรอ?" ฟ่านลี่ฮัวอดทน และในที่สุดก็อ่อนน้ำเสียงลง

"ข้าไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่เป็นโจร" ลั่วเสี่ยวปิงหักลั้งคำพูดของฟ่านลี่ฮัวทันที สีหน้าของฟ่านลี่ฮัวแย่ลงทันที

"และอีกอย่าง มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไหนกันที่มาขโมยของในบ้านของคนรุ่นหลัง?ป้าฟ่านอย่าทำประเพณีนิยมของหมู่บ้านพวกข้านั้นเสื่อมเสียไปเลยจะดีกว่า"

ลั่วเสี่ยวปิงพูดหลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญ ทําให้ชาวบ้านต่างหันไปจ้องมองฟ่านลี่ฮัวพร้อมกัน

ประเพณีนิยมของหมู่บ้านมีความสําคัญมากเพียงใด หากฟ่านลี่ฮัวทำให้ประเพณีนิยมของหมู่บ้านเสื่อมเสียไปจริง นั้นมันเกี่ยวพันถึงโชคของหมู่บ้านด้วยนะ

เมื่อถูกดวงตาหลายคู่จ้องมองด้วย ต่อให้ฟ่านลี่ฮัวอยากจะพูดอะไรอีกก็จำเป็นต้องทนเอาไว้

ฟ่านลี่ฮัวมองดูลั่วเสี่ยวปิงอย่างโกรธ แต่ขณะที่ในใจกำลังคิดอยู่ว่าเมื่อไหร่นางถึงจะได้จากไปนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็หันหัวมองมือปราบเหล่านั้นอีกครั้ง

ขณะที่ฟ่านลี่ฮัวนึกว่าลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะทำลายแผนการของนางนั้น ลั่วเสี่ยวปิงกลับพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า "ในเมื่อผู้ร้ายที่เป็นตัวการสำคัญมีเพียงผู้เดียว เช่นนั้นพี่ชายทั้งหลายก็จับกุมเขาเพียงผู้เดียวเถอะ แต่ต้องลำบากพวกพี่แล้ว"

ขณะที่พูด ลั่วเสี่ยวปิงก็ยื่นเงินให้กับเขา

มือปราบไม่อยากรับ ลั่วเสี่ยวปิงกลับยิ้มพูดว่า "ต่อไปไม่แน่ว่ายังจะต้องลำบากพวกท่านอีก รับเอาไว้เถอะ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวหน้าผู้นําของมือปราบก็ยื่นมือมารับอย่างไม่เกรงใจ "แม่นางลั่วเกรงใจยิ่งนัก งั้นคนพวกข้าพาไปแล้ว แต่เรื่องที่แม่นางลั่วช่วยชีวิตฮูหยินนายอำเภอของพวกข้านั้น นายอำเภอบอกแล้วว่า หากมีเวลา จะมากล่าวขอบคุณแม่นางลั่วแน่"

พูดเสร็จ มือปราบก็จับกุมตัวฟ่านต้าถงแล้วจากไป

ส่วนชาวบ้านก็ยืนอยู่ที่เดิม ย้อนคิดถึงสิ่งที่มือปราบพูดเมื่อกี้นั้น

เสี่ยวปิงช่วยชีวิตของฮูหยินนายอำเภอ?

พระเจ้า! ที่แท้เสี่ยวปิงไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไป แต่เป็นเพราะไปช่วยฮูหยินนายอำเภอ?

"ข้าว่าแล้ว หากโดนจับไปจริง จะมีรถม้าให้นั่งได้อย่างไรกัน?" ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้ ทันใดนั้นก็ได้รับเสียงตอบรับความเห็นด้วยของฝูงชนทันที

จากนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็ถูกผู้คนในหมู่บ้านไถ่ถามทุกข์สุข ฟ่านลี่ฮัวจิกตาใส่ลั่วเสี่ยวปิงอย่างโหดเหี้ยม และความโหดเหี้ยมในสายตานั้นก็จะล้นออกมาอยู่แล้ว

เมื่อลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกได้ ก็เห็นฟ่านลี่ฮัวจากไปพร้อมกับครอบครัวลูกคนโตของตระกูลลั่วและคนรุ่นหลังสกุลฟ่าน

เห็นเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ยิ้ม

คนของครอบครัวลูกคนโตของตระกูลลั่วนั้น สักวันนางจะจัดการพวกเขาแน่

แต่ไม่ใช่ตอนนี้

เพราะหากจัดการตอนนี้ ก็ถือว่าใจดีกับพวกเขามากเกินไปแล้ว นางต้องคิดแผนการที่รอบคอบ ดีที่สุดก็คือลำบากแค่ครั้งเดียว สบายไปตลอด

มิฉะนั้นต่อให้ตอนนี้ฟ่านลี่ฮัวพวกเขาจะถูกจับกุมตัวไป แต่พวกเขาก็ยังสามารถสร้างปัญหาอีกได้

เมื่อนึกถึงเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงถอนสายตา และเริ่มไถ่ถามทุกข์สุขกับชาวบ้านที่ห่วงใยนางจริงๆ

เวลาผ่านไปเร็วนัก ตอนนี้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ยังคงยุ่งอย่างมีความสุขเช่นเคย

ในขณะที่ยุ่งอยู่กับการตรวจสอบเรือนกระจก ยังต้องตรวจดูเรื่องการตกแต่งร้านค้าของในเมืองนั้นอีก

บ้านที่เพิ่งซื้อมาใหม่ที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้นั้น จะเปลี่ยนเป็นร้านอาหารแสนอร่อยยังมีที่ต้องเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงเยอะ

ส่วนเด็กทั้งสองคน ลั่วเสี่ยวปิงก็ให้หนานซิงช่วยดูแล

มีแรงงานที่มีวิทยายุทธยอดเยี่ยมให้ใช้ ทําไมนางต้องไม่ใช่ประโยชน์มันให้ดีด้วยละ?

หนานซิงที่ต้องตัดฟืน ตักน้ำ ดูแลเด็กและยังต้องสอนวิทยายุทธให้เด็กอีก หลังจากถามตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนว่าทําไมถึงได้ตกอยู่ในชะตากรรมของคนรับนั้น สุดท้านก็ยอมแพ้ที่จะดิ้นรนอีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่กินอาหารแสนอร่อยที่ลั่วเสี่ยวปิงทำนั้น หนานซิงก็ขยันทํางานมากขึ้น

ในอีกด้านหนึ่ง ฉีเทียนเห้าที่เพิ่งต่อสู้เสร็จสิ้น ก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง