แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 21

เมื่อคำพูดนี้ของเถ้าแก่โพล่งออกไป ฝีเท้าของลั่วเสี่ยวปิงหยุดชะงัก แต่นัยน์ตากลับเก็บซ่อนความประหลาดใจไว้ไม่อยู่ คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะง่ายดายถึงเพียงนี้

ลั่วเสี่ยวปิงก้มหน้ามองไปทางอานอานที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับเห็นอานอานกำลังเงยหน้ามองมาทางตัวเองพอดี

แม่ลูกทั้งสองคนสบตากัน เป็นธรรมดาที่ลั่วเสี่ยวปิงจะไม่เพิกเฉยต่อสายตาอันดีอกดีใจของอานอาน

ชั่วขณะนั้น ลั่วเสี่ยวปิงตกตะลึง

เด็กคนนี้ เด็กอัจฉริยะนะเนี่ย!

ลั่วเสี่ยวปิงเก็บความคิด แล้วหันไปมองเถ้าแก่ฉิน

ในเมื่อเถ้าแก่ฉินก็พูดแล้วว่าจ้าวจินซานไม่ได้เป็นผู้ดูแลของหอฝูหม่านแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็คงจะไม่ได้ไม่ขายสิ่งของในมือเป็นธรรมดา

ลั่วเสี่ยวปิงนำเห็ดสดมาทั้งหมดสามสิบชั่ง หกร้อยเหวินพอดี เห็ดตากแห้งสิบชั่ง จากราคาสามสิบห้าเหวินต่อหนั่งชั่ง ขายได้สามร้อยห้าสิบเหวิน บวกกับสูตรการทำอาหารสามอย่าง เถ้าแก่ฉินให้เงินทั้งหมดสิบตำลึง

เมื่อเห็นดังนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงให้ตำราอาหารของเห็ดตากแห้งอีกหนึ่งอย่างโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

และในขณะที่หยิบเห็ด เถ้าแก่ฉินสังเกตเห็นเมล็ดสนที่วางอยู่ด้านข้าง

เมล็ดสนในสมัยราชวงศ์ต้าชิ่งก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนกิน เพียงแต่โดยปกติแล้วจะมีที่เปิดปากน้อยมาก สิ้นเปลืองแรงในการกิน และยังมีกลิ่นน้ำมันสนอีก ปกติแล้วจะมีคนชอบน้อยมากเป็นที่สุด มีเพียงคนในครอบครัวร่ำรวยเท่านั้นที่จะนำมาทำขนมเมล็ดสน

แต่เมล็ดสนของลั่วเสี่ยวปิงได้ผ่านขั้นตอนพิเศษมาแล้ว ไม่เพียงไม่มีกลิ่นน้ำมันสน ทุกเมล็ดยังเปิดปากอีกด้วย หลังจากที่เถ้าแก่ฉินชิมแล้วก็ชื่นชอบมาก จึงได้ซื้อเมล็ดสนทั้งหมดของลั่วเสี่ยวปิงในคำเดียว

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้นำเมล็ดสนมามาก นำมาเพียงสิบชั่งเท่านั้น

จากราคาสามสิบเหวินต่อหนึ่งชั่ง ลั่วเสี่ยวปิงก็ได้รับเงินอีกสามร้อยเหวิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง