คำพูดของจางเสี่ยวหลิงจบลงอย่างกะทันหันด้วยการเคาะประตู
ลั่วเสี่ยวปิงเดินออกจากห้องครัว แล้วขมวดคิ้วมองไปที่ประตู
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู นางรู้สึกได้ว่าคนที่เคาะประตูมาพร้อมกับความรู้สึกอาฆาตพยาบาท
เป็นจริงอย่างที่คาดไว้ ลั่วเสี่ยวปิงมีความคิดนี้ และเสียงของหวังจินเสียก็ดังมาจากนอกประตู “นังเด็กบ้าจางเสี่ยวหลิงออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้นะ!”
เมื่อจางเสี่ยวหลิงได้ยินว่ามีคนมาหาตน แล้วยังเป็นพี่สะใภ้ที่เคยทะเลาะกันเมื่อหลายวันก่อน ทันใดนั้นนางก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมา แล้วมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงโดยไม่รู้ตัว ราวกับจะถามว่าควรทำอย่างไรดี
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความคิดของลั่วเสี่ยวปิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย นางเหมือนจะคาดเดาจุดประสงค์ของหวังจินเสียได้บางส่วน
“นายหญิง อยากให้ข้าน้อยไปเปิดประตูหรือไม่เจ้าคะ” เสียงของไป๋เสาที่อยู่ด้านข้างดังขึ้น
ลั่วเสี่ยวปิงส่ายหัว มองไปที่จางเสี่ยวหลิง และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เรื่องนี้ เจ้าต้องจัดการด้วยตัวเอง”
“แต่ว่า…” จางเสี่ยวหลิงสะดุ้งเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางกลัวหวังจินเสียอยู่บ้าง
ลั่วเสี่ยวปิงไม่ให้จางเสี่ยวหลิงถอยกลับ “เจ้าต้องรู้ว่าถ้าอีกหน่อยถ้าเจ้าเปิดร้าน ต้องเจอเรื่องราวอีกมากมาย ผู้คนทุกประเภท และเจ้าต้องจัดการกับคนพวกนี้ด้วยตัวเอง”
พูดจบแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็หยุดและพูดต่อ “ถึงเจ้าจะไม่เจอกับคนพวกนั้น แต่เจ้าหาเงินด้วยตัวเองแล้วคิดว่าพวกเขาจะตามหาเจ้าไหม? แน่นอน ถ้าเจ้าอยากใช้เงินที่เจ้าหามาด้วยตัวเองช่วยเหลือพวกเขา ก็ถือซะว่าข้าไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน”
ประโยคสุดท้ายถูกเพิ่มเข้ามา เพราะลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ว่าจางเสี่ยวหลิงจะเลือกทางเลือกแบบไหน
ถึงแม้ว่านางจะเลือกขีดเส้นความสัมพันธ์จากคนอย่างหวังจินเสีย แต่ถึงอย่างไรจางเสี่ยวหลิงก็ไม่เหมือนนาง นางเกิดและเติบโตมาในสมัยโบราณ
และสิ่งที่นางรู้ก็คือ คนในยุคนี้ ไม่ว่าครอบครัวพ่อแม่จะดีหรือเลวร้ายแค่ไหน โดยพื้นฐานแล้วสตรีก็จะเลือกเอาใจเข้าหาครอบครัวพ่อแม่ หวังว่าอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น ครอบครัวจะให้ความช่วยเหลือบ้าง
จริงอยู่ที่ตอนที่จางเสี่ยวหลิงเกิดเรื่องครอบครัวของนางจะไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ แล้วยังมาซ้ำเติม แต่ถึงอย่างไรหวังจินเสียก็เป็นพี่สะใภ้ แล้วยังมีพี่ชายของนางอีก จางเสี่ยวหลิงอาจจะกลับไปหาพวกเขาก็ได้
นี่เป็นการเลือกของสตรีส่วนมากในยุคนี้
นางไม่สามารถห้ามการตัดสินใจของจางเสี่ยวหลิงได้ แต่ถ้าจางเสี่ยวหลิงหาเงินด้วยตัวเองแล้ว แต่กลับเต็มใจให้พี่ชายและพี่สะใภ้คอยสูบเลือดสูบเนื้ออยู่ละก็ นางก็จะไม่สนใจอีกต่อไป
ท้ายที่สุดแล้วทุกคนต้องรับผิดชอบกับการเลือกของตนเอง
การที่นางให้โอกาสจางเสี่ยวหลิงเป็นตัวแทนจำหน่ายก็นับว่านางมีเมตตาคุณธรรมถึงที่สุดแล้ว
หลังจากฟังคำพูดของลั่วเสี่ยวปิงแล้วจางเสี่ยวหลิงก็เงียบไป
นางก้มหน้าลง ไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้เร่งเร้าขัดจังหวะ ทุกคนต้องตัดสินใจเลือกทางเดินสำหรับชีวิตตัวเอง และนางก็ควบคุมไม่ได้
แน่นอนว่าถึงจะมีวิธีควบคุม นางก็ไม่ทำ
ทุกคนต้องเลือกทางเดินเป็นของตัวเอง เปรี้ยวหวานขมเผ็ดอะไร ล้วนเป็นประสบการณ์ของตัวเอง จะเดินต่อไปหรือเปลี่ยนไปทางอื่น ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเลือกด้วยตัวเอง
“จางเสี่ยวหลิง ถ้าเจ้าไม่ออกมา เชื่อไหมว่าตระกูลจางของพวกเราจะไม่นับคนอย่างเจ้าอีก?” หวังจินเสียพูดข่มขู่อยู่นอกประตู “เจ้ามันไร้จิตสำนึก ข้ากับพี่ชายเจ้ากินแกลบกินรำอยู่ที่บ้าน เจ้ากลับดี หลบเสพสุขอยู่ในนั้น ดวงเฮงซวยของเจ้ายังเสพสุขอะไร ไม่รู้จักส่องกระจกดูเงาตัวเอง อยู่ข้างนอกขายหน้าไปหมดแล้ว”
คำพูดของหวังจินเสียยิ่งพูดก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ
“จางเสี่ยวหลิง เจ้าคิดให้ดีๆนะ ถ้าไม่มีข้ากับพี่ชายเจ้า ชีวิตนี้ของเจ้าคงจบไปนานแล้ว เจ้าจะคิดไปพึ่งใบบุญคนอื่นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเจ้าออกมาตอนนี้ ข้าจะถือว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ถึงตอนนั้นข้ากับพี่ชายเจ้าจะหาคนดีๆ ให้เจ้า ไม่อย่างนั้นก็อย่ามาโทษที่พวกเราไม่รับเจ้าแล้วกัน”
หวังจินเสียยังคงด่าทออยู่ด้านนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...