“ฮูหยิน…” ไป๋เสาอยากจะห้าม
เมื่อเหยียนขวนเห็นอย่างนั้น ก็ร้อนใจเล็กน้อยแต่ไม่รอให้เหยียนขวนได้พูดอะไร ลั่วเสี่ยวปิงก็ชิงพูดกับไป๋เสาก่อน “เจ้าไปรอข้าที่บ้านของลุงต้าฉวนก่อน”
ไป๋เสาต้องการจะพูดอย่างอื่นอีก แต่การฝึกฝนของนางตั้งแต่เด็กๆคือการเชื่อฟัง ดังนั้นไป๋เสาจึงต้องหันหลังกลับและจากไป
ในที่สุดเหยียนขวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเขาเห็นแผ่นหลังของไป๋เสาลับหายไปจากสายตาของเขา และแทบรอไม่ไหวที่จะพาลั่วเสี่ยวปิงไปที่ป่า
“เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรกันแน่?” การแสดงออกของลั่วเสี่ยวปิงอ่อนลงเล็กน้อย ถามเหยียนขวน
เมื่อเหยียนขวนเห็นอย่างนี้ ก็มองแววตาลั่วเสี่ยวปิงที่เปี่ยมรักลึกซึ้ง
แน่นอน ที่จริงเขาคิดว่าตัวเองในตอนนี้เขาดูสง่างามอิสระ แต่เขาลืมรอยฝ่ามือบนใบหน้าของเขาไป
“เสี่ยวปิง ข้าเองก็รู้ดีว่าไม่ควรมาหาเจ้าอีก แต่ข้ารู้สึกไม่คู่ควรแทนเจ้าจริงๆ” ใบหน้าของเหยียนขวนเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความเครียด
ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกว่าคนอย่างเหยียนขวนถ้าอยู่ในวงการบันเทิง เขาต้องเป็นพวกนักแสดงที่เก่งกาจอย่างแน่นอน
เพื่อให้เหยียนขวนทำการแสดงต่อไป และเพื่อที่จะรู้จุดประสงค์ของเขาในวันนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงไม่ได้พูดอะไรออกไป
“เสี่ยวปิง งานแต่งงานของเจ้าก็อีกแค่ไม่กี่วันแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่เคยปรากฏตัวเลย เจ้าไม่รู้จักผู้ชาย ผู้ชายก็เจ้าชู้กันทั้งนั้น เขาทำแบบนี้กับเจ้า นั่นก็แสดงว่าเขาไม่เคยให้ความสำคัญกับเจ้า ถึงตอนนั้นเจ้าจะกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งหมู่บ้าน เจ้าจะถูกเขาหลอกแบบนี้ต่อไปไม่ได้นะ”
หลังจากพูดจบเหยียนขวนก็หยุดพูดชั่วคราว แล้วมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงอย่างระมัดระวัง แล้วถามหยั่งเชิง “ถึงแม้เจ้าจะบอกกับคนอื่นว่าบ้านเป็นของเขา แต่ข้ารู้ว่าเจ้าพูดอย่างนี้ก็เพื่อรักษาหน้าของเขาแน่ จริงๆแล้วบ้านเป็นของเจ้าใช่ไหม?”
ทันทีที่เหยียนขวนพูดจบ เขาก็เห็นร่องรอยของความตื่นตระหนกในแววตาของลั่วเสี่ยวปิง เหยียน
ขวนก็พูดทันที “เสี่ยวปิง เขาหวังของของเจ้าคิดจะเกาะเจ้ากิน เจ้าจะถูกเขาหลอกไม่ได้เด็ดขาด”
มีคำกล่าวหนึ่งกล่าวได้ดี คิดกับคนอื่นอย่างไร นั่นก็แสดงว่าตัวเองก็เป็นคนแบบนั้น เหยียนขวนเองก็เป็นแบบนั้น
ถึงแม้ว่าในใจของลั่วเสี่ยวปิงจะรู้สึกละอายใจกับเหยียนขวน แต่นางก็ไม่ได้แสดงออกผ่านสีหน้า นางเพียงแต่ขมวดคิ้วและพูดอย่างทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง “อย่างนั้นข้าต้องทำอย่างไร?”
เมื่อได้ยิน เหยียนขวนก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถชักชวนลั่วเสี่ยวปิงได้ และโอกาสของเขาก็มาถึงแล้ว ดังนั้นเขาจึงกระแอมล้างลำคอ “ข้ารู้ว่าตอนนี้ข้าไม่มีสิทธิ์พอที่พูดเรื่องแต่งงานกับเจ้า แต่เพื่อช่วยให้เจ้าผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ข้ายินดีที่จะแต่งงานกับเจ้า”
ลั่วเสี่ยวปิง “...” รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ แต่ก็ยังจะพูดออกมา? ไม่รู้สึกขัดแย้งกับตัวเองบ้างหรือ?
ยังมี เพื่อช่วยให้นางผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก คำพูดสูงส่งสวยหรูแบบนี้ก็พูดออกมาได้? น่าขยะแขยงกว่าเมื่อก่อนที่พูดว่ายินดีแต่งงานกับนางเสียอีก
คิดว่าวันนี้เขาจะมีความก้าวหน้าอะไรเสียอีก ถึงได้ตามเขามาที่นี่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นการเสียเวลา
“เสี่ยวปิง ข้ารู้ว่าในใจของเจ้ายังมีข้าอยู่ เหตุผลที่เจ้าเฉยเมยกับข้าก็เพราะว่าเจ้ายังโกรธข้ากับเรื่องที่ผ่านมา ตอนนี้ข้าขอโทษเจ้านะ?” เมื่อเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงเงียบและไม่รับปาก เหยียนขวนพูดต่อ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็มองไปที่เหยียนขวน “ได้ งั้นเจ้าก็ขอโทษมา”
อย่างไรเจ้าของร่างเดิมก็ชอบเหยียนขวนจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ละทิ้งโอกาสรอดเพราะเขา
เหยียนขวนขาดคำขอโทษต่อเจ้าของร่างเดิมจริงๆ
เหยียนขวนตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าลั่วเสี่ยวปิงจะให้ตนขอโทษจริงๆ
แต่เหยียนขวนก็รู้สึกว่า ตราบใดที่สามารถแต่งงานกับลั่วเสี่ยวปิงได้ แค่ขอโทษทำไมเขาจะทำไม่ได้?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เหยียนขวนก็มีท่าทีจริงจัง “เสี่ยวปิง ข้าขอโทษ”
ลั่วเสี่ยวปิง “แต่ข้าไม่ยกโทษให้”
ขณะที่เหยียนขวนคิดว่าเขาจะบรรลุเป้าหมาย ลั่วเสี่ยวปิงก็พูดแบบนี้
เมื่อพูดจบ ลั่วเสี่ยวปิงก็หันหลังกลับและจากไป
ไม่ใช่ทุกการขอโทษแล้วที่จะได้รับการให้อภัย สิ่งที่เหยียนขวนทำต่อเจ้าของร่างเดิมนั้นทำให้นางถึงแก่ชีวิต ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่นางมีความคิดที่จะให้อภัยเขา
แน่นอน นี่ไม่ใช่เพราะเหยียนขวนทรยศ ท้ายที่สุดเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าของร่างเดิม คงไม่มีใครในยุคนี้อยากจะแต่งงานกับเจ้าของร่างเดิมภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...