แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 256

"หลีกไป!" สีหน้าของอู๋วิ่นเฉิงดูไม่ดีนัก

"พี่ คนสองคนนั้นยังหนุ่มเช่นนั้น จะมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีได้ที่ไหนกัน?ท่านอย่าถูกพวกเขาหลอกนะ เรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องจัดการทันทีในตอนนี้คือไปเชิญท่านซุนมาดู ไม่เช่นนั้นคงต้องเตะถ่วงอาการของพี่สาวจริงแน่" ใบหน้าของผู้หญิงที่ห้ามอู๋วิ่นเฉิงไว้นั้นเต็มไปด้วยความจริงใจ

บุคคลนี้ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นคนที่ประคองอู๋ฮูหยินใหญ่เมื่อกี้นั้นเอง

"หลีกไป!" อู๋วิ่นเฉิงพูดอย่างเย็นชา

ผู้หญิงคนนั้นไม่หลีก อู๋วิ่นเฉิงพูดอย่างโกรธว่า "ไฉเหมิ่งเยว่ เรื่องของข้าเจ้าไม่ต้องมายุ่ง เจ้าหลีกไปเดี๋ยวนี้"

"พี่——" ไฉเหมิ่งเยว่ทำหน้าน้อยใจ ในตาเต็มไปด้วยน้ำตา เหมือนผู้หญิงที่ทำตัวภายนอกดูซื่อใสบริสุทธิ์ แต่ที่จริง มีพฤติกรรมมัวหมอง คิดฟุ้งแต่เรื่องไม่ดีไม่งาม

"ไฉเหมิ่งเยว่ หากเจ้ายังไม่หลีกไปอีก ข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ" อู๋วิ่นเฉิงโกรธยิ่งนัก

"เจ้าจะไม่เกรงใจใคร?เจ้าเคยเห็นข้าอยู่ในสายตาบ้างไหม? อู๋ฮูหยินใหญ่ก้าวไปข้างหน้าอย่างโกรธจัด

"เหมิ่งเยว่ทําเช่นนี้ก็เพื่อดีต่อเจ้า มันผิดตรงไหนที่ให้เจ้าไปเชิญท่านหมอซุน?" เจ้าอย่าลืมละว่าท่านหมอซุนเป็นหมอที่ดีที่สุดในละแวกนี้แล้ว เจ้าทำลายความจริงใจของนางเช่นนี้ สมควรหรือไม่? สมควรแก่ลูกที่อยู่ในท้องนางหรือไม่?"

อู๋ฮูหยินใหญ่ยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ในขณะที่พูดยังเอามือตบไหล่ของอู๋วิ่นเฉิง

อู๋วิ่นเฉิงไม่ฟังคําพูดของอู๋ฮูหยินใหญ่เลย เพียงแค่มองดูไฉเหมิ่งเยว่อย่างเย็นชา "ลูกของเจ้าได้มาอย่างไร เจ้ารู้แก่ใจดี ส่วนเรื่องของจิ่นเหนียงมันไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า หากเจ้ามายุ่งอีก อย่าหาว่าข้าโหดร้ายละกัน"

ผู้พูดไม่คิดอะไร แต่ผู้ฟังกลับคิด

เมื่อไฉเหมิ่งเยว่ได้ยินคําพูดของอู๋วิ่นเฉิง หน้าของนางก็ซีดขาวเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว

อู๋วิ่นเฉิงฉวยโอกาสนี้วิ่งออกไป อู๋ฮูหยินใหญ่เห็นเช่นนี้ ก็ได้แต่ด่าว่าลูกสารเลว

"ไม่คิดว่ามาดูโรคให้ผู้ป่วย แต่กลับได้เห็นละครดีๆเยี่ยงนี้"

ในขณะนี้ ข้างกายลั่วเสี่ยวปิงก็มีเสียงประชดประชันเล็กน้อยของซุนมู่หยางดังมา

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้มองย้อนกลับไป ในใจก็รู้ว่าซุนมู่หยางคงสังเกตเห็นอะไรบางอย่างออกเช่นกัน

เห็นได้ชัดเจนว่าไฉเหมิ่งเยว่นั้นผิดปกติ

เมื่ออู๋วิ่นเฉิงพูดประโยคนั้นออกมา เห็นได้ชัดว่าในสายตาของนางนั้นมีความร้อนตัวเล็กน้อย

ดังนั้นเด็กคนนั้น……

สายตาของลั่วเสี่ยวปิงแว็ปผ่านจากท้องของไฉเหมิ่งเยว่ จากนั้นก็ละสายตาออก

ก่อนที่จิ่นเหนียงจะตื่นขึ้นมา นางไม่ได้เตรียมที่จะความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรกอีก

ทุกอย่างรอจิ่นเหนียงตื่นขึ้นมาก่อน และรู้เรื่องรายละเอียดทั้งหมดแล้วค่อยว่ากัน

หลังจากนั้นไม่นาน อู๋วิ่นเฉิงก็นำส่ำเส้งมา

ในยุคสมัยนี้ บางครั้งเลือดก็ถูกมองว่าเป็นสิ่งของไม่ดี ดังนั้นอู๋วิ่นเฉิงนำส่ำเส้งมา แน่นอนว่ามันก็ทําให้อู๋ฮูหยินใหญ่เกิดความไม่พอใจ

แต่น่าเสียดายที่อู๋วิ่นเฉิงไม่ฟังคำพูดของนางเลย

เห็นได้ชัดว่า เมื่อเทียบกับแม่แล้ว อู๋วิ่นเฉิงกลัวที่จะสูญเสียจิ่นเหนียงไปมากกว่า ซึ่งทําให้ลั่วเสี่ยวปิงยิ่งไม่เชื่อมากขึ้นว่าอู๋วิ่นเฉิงจะทำเรื่องที่ทำให้จิ่นเหนียงเสียใจ

เป็นดังที่ซุนมู่หยางกล่าว แม้ว่าชื่อของกู่คร่าชีวิตคนจะไม่น่าฟัง แต่ก็ถอนไม่ยากจริง

หลังจากที่อู๋วิ่นเฉิงนําส่ำเส้งมา ก็เห็นซุนมู่หยางหยิบมีดที่พกติดตัวออกมาแล้วผ่านิ้วสิบนิ้วของจิ่นเหนียง

เมื่อนิ้วสิบนิ้วมีเลือดไหลออกมา ซุนมู่หยางก็ให้อู๋วิ่นเฉิงยกส่ำเส้งมาวางไว้ล้างนิ้วสิบนิ้วของจิ่นเหนียงและสั่งด้วยเสียงที่เข้มงวดว่า "เดี๋ยวไม่ว่าจะเห็นอะไรก็ตาม ก็ยกส่ำเส้งให้ดีอย่าให้มันหก มิฉะนั้นหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้าไม่รับผิดชอบ"

เดิมทีอู๋วิ่นเฉิงก็ตื่นเต้นอยู่แล้ว พอซุนมู่หยางพูดเช่นนี้ ก็ทำให้อู๋วิ่นเฉิงยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีก

แต่ต่อให้จะตื่นเต้นเพียงใด อู๋วิ่นเฉิงก็ยังคงยกส่ำเส้งมาวางไว้ล้างนิ้วสิบนิ้วของจิ่นเหนียง

จากนั้น มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ภายในสิบนิ้วของจิ่นเหนียงนั้น กลับมีหนอนตัวยาวสีขาวดําวิ่งออกมาอย่างหนาแน่น

ฉากนี้ค่อนข้างขยะแขยงและน่ากลัว ทำให้อู๋วิ่นเฉิงกลัวจนถือกะละมังในมือไม่ความมั่นคงและเกือบหก

โชคดีที่ไป๋เสาที่อยู่ด้านข้างให้ความสนใจกับด้านนี้อยู่เสมอ และรีบจับกะละมังนั้นไว้อย่างมั่นคง

"ข้าบอกแต่แรกแล้วว่าให้เจ้าถือดีๆ หากถือไม่ดีอีก ชีวิตของนางเจ้าก็ไม่ต้องเอาแล้ว" เสียงของซุนมู่หยางเย็นชายิ่งนัก

ลั่วเสี่ยวปิงมองดูซุนมู่หยาง รู้สึกเพียงว่าซุนมู่หยางในตอนนี้นั้นตกต่างกับคนก่อนหน้านี้ราวกับคนละคนกันเลย

นี่ถึงจะเป็นตัวจริงของเขาสินะ?

ลั่วเสี่ยวปิงคิดแบบนี้แล้ว ดวงตาก็อดไม่ได้ที่จะหันมองไปทางกะละมัง ทันใดนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก

หนอนพิษกู่นี้น่าขยะแขยงจริงๆ เลย

หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป ในมือของจิ่นเหนียงก็ไม่มีหนอนพิษกู่คลานออกมาอีก และหนอนที่อยู่ในกะละมังที่อู๋วิ่นเฉิงถือไว้นั้นก็คลานไปมาราวกับว่าเลือดกำลังเครื่องไหวไปมา

ในเวลานี้ซุนมู่หยางก็หยิบขวดยาออกจากอ้อมแขนของเขา แล้วโรยลงบนกะละมัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง