แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 257

เมื่อเห็นว่าทั้งคู่หันมองมาทางตน ลั่วเสี่ยวปิงก็ถอนหายใจแล้วพูดกับอู๋วิ่นเฉิงว่า "เจ้ายื่นมือออกมา"

อู๋วิ่นเฉิงได้ยินเช่นนั้นก็ยื่นมือออกไป ลั่วเสี่ยวปิงนำมือวางไว้บนข้อมือของเขา และเมื่อปล่อยมือดวงตาของนางนั้นก็มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

"เป็นยังไงบ้าง?"

"เป็นยังไงบ้าง?"

ทั้งจิ่นเหนียงและอู๋วิ่นเฉิงต่างพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน ในสายตานั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

"เด็กนั้นไม่ใช่ลูกของเจ้า" ลั่วเสี่ยวปิงมั่นใจ

จิ่นเหนียงรู้สึกงุนงง แต่อู๋วิ่นเฉิงกลับอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันมองจิ่นเหนียงด้วยความดีใจ "จิ่นเหนียง เด็กนั้นไม่ใช่ลูกของข้า"

แต่จิ่นเหนียงกลับไม่ค่อยดีใจ ดวงตาที่มองดูลั่วเสี่ยวปิงนั้นเต็มไปด้วยความลังเล

"เป็นดั่งที่เจ้าคิด คนที่ไม่สามารถมีลูกได้คือเขา" ลั่วเสี่ยวปิงเอ่ยอย่างเฉยชา เมื่อเห็นว่าสีหน้าของทั้งสองคนเปลี่ยนไป ลั่วเสี่ยวปิงก็พูดอีกว่า "แต่สามารถรักษาได้"

เหตุผลที่นางต้องจับชีพจรของอู๋วิ่นเฉิง เป็นเพราะตอนทำการแมะให้จิ่นเหนียง นางก็รู้สึกถึงว่าร่างกายของจิ่นเหนียงนั้นไม่มีปัญหาอะไร

ในเมื่อร่างกายของจิ่นเหนียงไม่มีปัญหาอะไร ทั้งสองก็แต่งงานมาหลายปีแต่ก็ยังไม่มีลูก งั้นก็น่าจะเป็นปัญหาของอู๋วิ่นเฉิงแล้ว

ในเมื่อเป็นปัญหาของอู๋วิ่นเฉิง เช่นนั้นเด็กที่อยู่ในท้องของไฉเหมิ่งเยว่จึงน่าสงสัยแล้ว

เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่สามารถมีลูกได้ อู๋วิ่นเฉิงก็ตกตะลึง แต่เมื่อได้ยินลั่วเสี่ยวปิงบอกว่าสามารถรักษาได้ อู๋วิ่นเฉิงก็โล่งใจลง

แต่หากเป็นเช่นนี้ ไฉเหมิ่งเยว่ก็……

จิ่นเหนียงตื่นแล้ว สีหน้าของอู๋ฮูหยินใหญ่และไฉเหมิ่งเยว่นั้นต่างก็ดูแตกต่างกันไป และเมื่อเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรของพวกเขา ต่างก็จากไป

อู๋ฮูหยินใหญ่นั่งอยู่ในห้องตัวเอง ขมวดคิ้วอย่างแน่น ดูมีเรื่องหนักอกหนักใจยิ่งนัก

ในเวลานี้ อู๋วิ่นเฉิงก็เดินมาและหันมองอู๋ฮูหยินใหญ่

เมื่อเห็นลูกชายเข้ามา เดิมทีอู๋ฮูหยินใหญ่มีบางอย่างที่จะพูด แต่ในไม่ช้านางก็หันหน้าไปทางอื่น "ไอ้คนมีเมียแล้วลืมแม่ ทำไมไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนเมียเจ้าล่ะ?"

อู๋วิ่นเฉิง:“มีเสี่ยวปิงอยู่เป็นเพื่อนนางแล้ว”

อู๋วิ่นเฉิงไม่ได้พูดแบบนี้ยังดี พอพูดอู๋ฮูหยินใหญ่ก็โกรธยิ่งกว่าเดิม "นี่เจ้าคอยระวังข้าเหมือนคอยระวังโจรเลยเหรอ?ข้าเป็นแม่ของเจ้า ข้ายังจะทําร้ายลูกสะใภ้ของตัวเองได้หรือ? "

เหตุผลที่อู๋ฮูหยินใหญ่โกรธเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เพราะลั่วเสี่ยวปิง แต่เป็นเพราะก่อนหน้านนี้ที่จิ่นเหนียงเกิดเรื่องนั้น อู๋วิ่นเฉิงไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลย แต่กลับให้จางซิ่งฮวาคนนอกคนหนึ่งมาเฝ้าจิ่นเหนียง ราวกับว่านางจะทำอะไรไม่ดีกับจิ่นเหนียง

แต่เมื่อเทียบกับความโกรธของอู๋ฮูหยินใหญ่ อู๋วิ่นเฉิงก็ดูเหมือนสงบลงมาก

รออู๋ฮูหยินใหญ่หายโกรธหน่อย อู๋วิ่นเฉิงจึงเอ่ยปากว่า "แม่เป็นคนวางยาพิษให้จิ่นเหนียงใช่หรือไม่?"

อู๋ฮูหยินใหญ่ตกตะลึง จากนั้นก็โกรธจนเกือบเป็นลมไป บนใบหน้านั้นมีความตกตะลึง โกรธ และสับสนเล็กน้อย

นางทำผิดไปเหรอ?

เพราะไม่ชอบลูกชายใส่ใจผู้หญิงคนหนึ่งมากเช่นนั้น ดังนั้นแต่ก่อนนางจึงทำไม่ดีกับลูกสะใภ้ไว้เยอะมาก จนกระทั่งทำเอาทั้งสองมีบ้านแต่ไม่ยอมกลับและอาศัยอยู่ที่อื่นเป็นเวลานาน

แต่แม่คนไหนจะทนกับการที่ลูกชายของตัวเองนั้นเอาใจใส่ผู้หญิงคนหนึ่งจนลืมแม่?

ด้วยเหตุนี้ นางจึงต้องถูกลูกชายสงสัยว่าวางยาพิษให้ลูกสะใภ้ตัวเองเหรอ?

อู๋วิ่นเฉิงมองเห็นสีหน้าของอู๋ฮูหยินใหญ่อย่างชัดเจน ซึ่งก็ทําให้เขาโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง

เสี่ยวปิงบอกว่า พิษกู่นั้นหายาก และแม่ของเขาก็เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่วันๆอยู่แต่ในบ้านเป็นไปไม่ได้ที่จะไปเอามันมาได้ ในเรื่องนี้ต้องมีความลับอะไรซ้อนอยู่แน่เลย

แม้ว่าแม่ของเขาจะไม่ชอบจิ่นเหนียง แต่จิตใจของนางก็ไม่ได้ชั่วร้าย เขาไม่อยากให้แม่เป็นผู้ร้ายคนนั้น แต่ก็โชคดีที่ไม่ใช่

"พิษของจิ่นเหนียง มาจากน้ำซุปที่แม่ยกมาให้ " อู๋วิ่นเฉิงกล่าวด้วยเสียงที่ปกติ

เมื่ออู๋ฮูหยินใหญ่ได้ยินว่าเป็นเพราะซุปชามนั้น ก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ คนทั้งคนตกใจและอึ้งไปหมด

อู๋วิ่นเฉิง: "ข้าให้คนไปแจ้งศาลแล้ว"

"ไม่——" ทันใดนั้นอู๋ฮูหยินใหญ่ก็ลุกขึ้นยืน "ห้ามแจ้งศาล!"

อู๋วิ่นเฉิงเห็นอู๋ฮูหยินใหญ่ทำเช่นนี้ ก็เหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็แสร้งทําเป็นสงบ "ทำไมถึงแจ้งศาลไม่ได้?"

อู๋ฮูหยินใหญ่ละสายตาออก ไม่กล้าสบตากับอู๋วิ่นเฉิง "ข้า……ข้าบอกไม่ได้ก็คือไม่ได้"

อู๋วิ่นเฉิง: "ยกโทษให้ลูกที่ไม่สามารถคำตามคำสั่งได้ มีคนจะทําร้ายจิ่นเหนียง หากไม่แจ้งศาล หากมาทําร้ายจิ่นเหนียงอีกครั้งทำอย่างไร?"

อู๋ฮูหยินใหญ่: "นางไม่……"

"แม่ ท่านรู้ว่าเป็นใครใช่หรือไม่?" อู๋วิ่นเฉิงทำหน้าจริงจัง

อู๋ฮูหยินใหญ่ไม่กล้ามองอู๋วิ่นเฉิง และไม่ได้ตอบเขา

"เป็นไฉเหมิ่งเยว่!" อู๋วิ่นเฉิงพูดแทงใจดำ "แม่ ต่อให้เป็นนาง ข้าก็จำเป็นต้องแจ้งศาล"

"แต่ท้องของนางนั้นมีลูกของเจ้าอยู่ เป็นเชื้อสายของตระกูลอู๋เรา" อู๋ฮูหยินใหญ่น้ำตาคลอ

ให้นางเลือกอย่างไร?

นางไม่ได้เป็นคนต้มน้ำซุปชามนั้น แต่เป็นเหมิ่งเยว่ต้มเพื่อขอโทษจิ่นเหนียง และขอให้นางหาวิธีทำให้หล่อนดื่มให้ได้

นางจะรู้ได้อย่างไรว่าในซุปนั้นมีพิษ?

แม้……แม้ว่าในซุปจะมีพิษ แต่จิ่นเหนียงก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ?

ท้องของเหมิ่งเยว่นั้นมีเชื้อสายของตระกูลอู๋

"เฉิงเอ๋อร์ ถือว่าแม่ขอเจ้าละ อย่างแจ้งศาลเลย ให้เหมิ่งเยว่คลอดลูกออกมา เมื่อถึงตอนนั้นก็ให้จิ่นเหนียงเลี้ยงดูลูกคนนั้น เจ้าว่าดีไหม?"

ลูกชายแต่งงานมาสิบปี นางตั้งตารอหลานชายมาสิบปีแล้ว ตอนนี้อุตส่าห์มีแล้ว นางจะยอมให้เสียไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร?

ฟังคําพูดของแม่ตัวเองแล้ว แม้ในใจของอู๋วิ่นเฉิงนั้นจะรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นความจริงใจบนใบหน้าของแม่ของเขาแล้ว ในที่สุดก็ใจอ่อนลงเล็กน้อย ไม่ได้โทษนาง แต่เลือกที่จะบอกความจริงโดยตรงว่า "แม่ เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของข้า"

"เป็นไปไม่ได้!" อู๋ฮูหยินใหญ่ไม่เชื่อ

"เป็นเรื่องจริง ข้าไม่ได้แตะต้องตัวนางเลย" อู๋วิ่นเฉิงพูดแล้วก็พูดอีกว่า "จิ่นเหนียงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ มันเป็นปัญหาของข้า แต่ก่อนนี้เป็นเพราะข้าเห็นแก่หน้าจึงไม่ยอมไปหาหมอเท่านั้นเอง"

ถูกต้อง ในคำพูดของอู๋วิ่นเฉิงนั้นมีบางส่วนที่ไม่จริง

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเขาเองจะเป็นฝ่ายมีปัญหา ไม่เช่นนั้นเขาจะไปหาหมออย่างแน่นอน และไม่ปล่อยให้จิ่นเหนียงแบกรับความทรมานที่ไม่สามารถมีลูกได้เป็นเวลาหลายปี

เหตุผลที่พูดแบบนี้ ก็เพียงเพื่อทําให้คําพูดของเขาน่าเชื่อถือมากขึ้น

ส่วนเรื่องไฉเหมิ่งเยว่ ในความเป็นจริงในตอนแรกเขาก็ไม่แน่ใจว่าเขาได้แตะต้องตัวนางหรือไม่

วันหนึ่งของเมื่อสองเดือนก่อน จิ่นเหนียงกําลังยุ่งอยู่ในร้าน เขาก็กลับบ้านมาครั้งหนึ่ง

ตอนนั้นน้อยสาวและลุงก็มาในฐานะแขกที่บ้านพอดี และเขาก็ดื่มกับพวกเขาจนเมา

หากเป็นปกติ เขาก็จะไม่ทําอะไรเลยเมื่อเขาเมา แต่วันนั้นเมื่อเขาตื่นขึ้นมา น้อยสาวกลับปรากฏตัวอยู่บนเตียงเขา และร้องไห้อย่างน่าสงสาร

เพราะจริงๆแล้วน้อยสาวเคยแต่งงานมาก่อนหนึ่งครั้ง แต่ต่อมาก็หย่ากันแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์อะไร แน่นอนว่าไม่มีการเสียบริสุทธอยู่แล้ว

ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าตัวเองได้แตะต้องตัวน้อยสาวไปจริงหรือเปล่า แต่น้อยสาวก็บอกว่าไม่ให้เขารับผิดชอบ เขากลัวว่าจิ่นเหนียงรู้เรื่องนี้แล้วจะเสียใจ จึงเก็บเอาไว้ในใจอยู่เสมอ

จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ เรื่องที่น้อยสาวตั้งครรภ์นั้นถูกเปิดเผย

ตอนแรกเขาก็คิดว่าเป็นลูกของตัวเองจริง แต่ไม่ได้รู้สึกดีใจ เพราะเมื่อเทียบกับเด็ก และความรับผิดชอบต่อน้อยสาวแล้ว สิ่งที่เขาใส่ใจมากกว่าคือจิ่นเหนียง

เขากับจิ่นเหนียงเป็นคู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เด็กๆ แต่หลังๆครอบครัวของเขาเริ่มไม่ร่ำรวย และแม้กระทั่งบ้านเก่าก็เกือบถูกขายทิ้ง จิ่นเหนียงเป็นคนที่ต่อต้านแรงกดดัน แต่งงานกับเขาในเวลาที่เขาตกอับที่สุดแถมยังช่วยให้เขาผ่านพ้นความยากลําบากไปได้

ดังนั้น ต่อให้จะถูกกล่าวว่าเป็นชายสารเลว เขาก็ไม่อยากทำให้จิ่นเหนียงผิดหวังเพื่อรับผิดชอบต่อน้อยสาว ดังนั้นเรื่องถึงได้ล่าช้าจนถึงวันนี้

เมื่อรู้ว่าเด็กไม่ใช่ลูกของตัวเอง เขาจึงค่อยนึกออกว่าจริงๆแล้วในวันนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

หลังจากฟังคําพูดของอู๋วิ่นเฉิงแล้ว อู๋ฮูหยินใหญ่ก็ดูแก่ขึ้นสองสามปี และพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำหนึ่งเป็นเวลานาน

ในเวลานี้ ในลานตะวันตกของตระกูลอู๋นั้น ไฉเหมิ่งเยว่กลับรู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากเดินไปมาสองสามรอบ ไฉเหมิ่งเยว่ก็เริ่มเก็บข้าวของของตัวเอง

แต่เมื่อไฉเหมิ่งเยว่เอาสัมภาระของตัวเองและกำลังจะออกไปนั้น ก็พบว่าตัวเองถูกมือปราบล้อมรอบเอาไว้หมดแล้ว……

หลังจากออกมาจากตระกูลอู๋ ลั่วเสี่ยวปิงก็ไปหาซุนมู่หยางที่เหรินโซ่วถังตามที่นัดเอาไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าเหรินโซ่วถังกลับเกิดเรื่อง……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง