“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเพราะตระกูลจูของเรา ข้ารู้สึกละอายใจอย่างสุดซึ้ง จะกล้าคัดค้านได้ยังไง แล้วแต่ใต้เท้าจะพิจารณา” จูเหวินรุ่ยพูดได้ดีมาก แต่ในใจเวลานี้มืดมนแค่ไหนมีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รู้
กัวหงหยางจ้องมองจูเหวินรุ่ยด้วยดวงตาทรงอำนาจ ราวกับว่าเห็นอะไรบางอย่างจากใบหน้าของจูเหวินรุ่ย จูเหวินรุ่ยเองก็มองกัวหงหยางด้วยลักษณะที่ซื่อตรง แต่มือในแขนเสื้อกลับเหงื่อออก
เพราะท้ายที่สุดไม่ว่าตระกูลจูจะร้ายกาจเพียงใด มีคนอยู่ในราชสำนักยังไง ก็ไม่สามารถต่อสู้กับลูกเขยของขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่ที่มีลูกศิษย์มากมายได้
หลังจากเวลาผ่านไปนาน เมื่อจูเหวินรุ่ยกำลังจะรักษาสีหน้าเอื้อเฟื้อไม่ได้อีกต่อไป กัวหงหยางถึงได้พยักหน้าและพูดว่า “ไม่คัดค้านก็ดี”
หยุดไปครู่หนึ่งและถามอีกว่า “ส่วนเรื่องค่าชดเชยสำหรับคนที่ซื้อสินค้าปลอม พวกเจ้าตระกูลจูจะ...”
“เรื่องเกิดขึ้นเพราะตระกูลจู ตระกูลจูย่อมชดเชยให้พวกนางเป็นสองเท่า” จูเหวินรุ่ยยังคงพูดได้ดีมาก ในน้ำเสียงเจือความจริงใจ
กัวหงหยางมองจูเหวินรุ่ย และมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิง ราวกับใช้สายตาถามลั่วเสี่ยวปิงว่าพอใจกับผลลัพธ์เช่นนี้หรือไม่
ไม่รู้ทำไม กัวหงหยางรู้สึกว่าความคิดเห็นของลั่วเสี่ยวปิงอาจมีความสำคัญมาก
และโดยอัตโนมัติที่กัวหงหยางเหลือบมองฉีเทียนเห้าที่อยู่ข้างกายลั่วเสี่ยวปิงด้วย
ตั้งแต่วันนั้นที่เขาไปเป็นแขกในจวนฉีเทียนเห้า เมื่อใดก็ตามที่เขานึกถึงฉีเทียนเห้า ในใจก็เกิดความรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล
ทว่าหลังจากสบสายตาเย็นชาของฉีเทียนเห้า กัวหงหยางจึงละสายตาไปอย่างหงุดหงิด พอดีกับที่เห็นลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้าเล็กน้อย
ทั้งกัวหงหยางและลั่วเสี่ยวปิงต่างรู้ดีว่าตระกูลจูเป็นผู้บงการเบื้องหลังเหตุการณ์นี้ จูฉวนฝูเป็นเพียงคนที่ทำงานให้ผู้อื่น ท้ายที่สุดก็ตกเป็นแพะรับบาปไป
แต่การรู้เป็นเรื่องหนึ่ง การได้หลักฐานก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้ามีคนเต็มใจออกมารับผิด เรื่องนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปแบบนี้
ต่อให้เรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่านและสืบต่อไป เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ตระกูลจูก็ยังคงแค่ถูกตั้งข้อหาล้มเหลวเรื่องการควบคุมดูแลข้อหาเดียว
ในทางตรงกันข้าม ตอนนี้การบอกให้ตระกูลจูชดใช้เงินสองเท่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และยังเป็นการปลอบโยนต่อผู้ที่ซื้อของปลอมอีกด้วย
สามฝ่ายในเวลานี้ดูเหมือนจะได้ความสมดุลกันแล้ว กัวหงหยางมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงอีกครั้ง “คราวนี้เจ้าก็ตกเป็นเหยื่อด้วย และสูญเสียทางการเงินไปมาก ในเมื่อร้านเครื่องสำอางจูกี้ถูกยึดแล้ว เช่นนั้นก็ถือเป็นสิ่งชดเชยให้เจ้า”
ทันทีที่ได้ยินว่าชดเชยร้านค้าให้ตัวเอง ลั่วเสี่ยวปิงก็ดวงตาเป็นประกาย
แต่หลังจากที่เห็นเหยื่อพวกนั้น ลั่วเสี่ยวปิงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ครั้งนี้เหยื่อที่ได้รับความเสียหายทางร่างกายและจิตใจอย่างมหาศาลที่สุดคือพวกนาง ข้าคิดว่าร้านเครื่องสำอางควรมอบให้พวกนาง”
แม้ว่าใบหน้าของผู้หญิงเหล่านี้จะสามารถรักษาหายได้ แต่เหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อพวกนางจนไม่อาจขจัดได้ไปอีกระยะหนึ่งอย่างแน่นอน เอาร้านเครื่องสำอางมาชดใช้ค่าเสียหายทางจิตใจให้พวกนางก็ถือว่าเหมาะสม
ส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 300 ชุดที่นางสูญเสียไป...
ลั่วเสี่ยวปิงมองไปยังจูเหวินรุ่ย ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แน่นอนว่านางมีวิธีให้จูเหวินรุ่ยคายออกมา
ทันทีที่คิดแบบนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็อารมณ์ดี
โดยไม่คาดคิดเมื่อเหล่าผู้หญิงที่เสียโฉมได้ยินคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง ต่างก็คุกเข่าคำนับให้ลั่วเสี่ยวปิงด้วยความซาบซึ้งทันที
หนึ่งในนั้นพูดว่า “หมอเทวดาหญิงบอกแล้วว่าจะรักษาหน้าให้เราโดยไม่คิดเงิน ไหนเลยเราจะรับของที่ควรเป็นของหมอเทวดาหญิงได้”
และอีกคนก็เสริมด้วยว่า “ใช่ หมอเทวดาหญิง ร้านเครื่องสำอางนั่นเราไม่ต้องการ เราต้องการแค่หมอเทวดาหญิงรักษาใบหน้าของพวกเรา เราก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว”
คนอื่นๆ เห็นด้วย บอกว่าไม่ต้องการค่าชดเชย แค่ต้องการให้ลั่วเสี่ยวปิงรักษาใบหน้าพวกนางได้ก็พอ
เพียงแต่เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่มีการตอบสนองเป็นเวลานาน พวกนางก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...