แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 35

“เห็ดมีพิษโดยทั่วไปจะมีสีสดใส หัวเห็ดจะนูนเว้าไม่เรียบหรือมีกลิ่นเหม็นเมื่อแบะออก รูปร่างภายนอกแตกต่างกันไป มีความหนาเฉพาะส่วน ส่วนคอเรียวยาวหรือหนาแต่เปราะและแตกหักง่าย”

ลั่วเสี่ยวปิงพากลุ่มหนึ่งไปด้านหลังป่าสน แนะนำพวกเขาลักษณะพิเศษของเห็ดมีพิษให้กับพวกเขาก่อน

เพราะทุกคนล้วนรักชีวิต ดังนั้นจะต้องจดจำสิ่งของที่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตให้แม่นยำ เช่นนี้ก็จะไม่ไปเด็ดเห็ดที่มีพิษแล้ว

หลังจากบรรยายด้วยปากแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ยังเด็ดเห็ดพิษสองสามชนิดมาเป็นตัวอย่างด้วย คนของตระกูลจางก็มองดูเห็ดพิษเหล่านั้น สีหน้าท่าทางตื่นเต้นและจริงจัง

ลั่วเสี่ยวปิงพอใจกับสิ่งนี้มาก มีเพียงความหวาดกลัวอย่างเดียว จึงจะจำได้อย่างแม่นยำ

จากนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็สอนให้พวกเขาเด็ดชนิดของเห็ดที่นางต้องการใช้ทำอาหาร คราวนี้คนของตระกูลจางจริงจังมากขึ้น แทบจะใช้สมองเดียวเป็นสองสมอง

รอจนสอนได้พอประมาณแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจึงพูดกับจางเฉินซื่อว่า “ป้า ข้าไปดูรอบๆก่อน พวกท่านเด็ดกันเอง เก็บเสร็จแล้วก็แบกไปที่บ้านท่านก่อนก็ได้แล้ว”

บ้านกระท่อมมุงจากของนางไม่ปลอดภัยเกินไป หากว่าถูกคนเห็นชนิดของเห็ดจำนวนมากขนาดนั้น กลัวว่าจะดึงดูดความวุ่นวายที่ไม่จำเป็นมา วางไว้ในตระกูลจางกลับค่อนข้างเหมาะสม

สำหรับการที่ลั่วเสี่ยวปิงจะเอาเห็ดไปวางไว้ในบ้านตัวเองเรื่องนี้ จางเฉินซื่อก็ไม่สนใจ เพียงแต่ได้ยินว่าลั่วเสี่ยวปิงไปเดินๆดู บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความกังวลใจ

“เสี่ยวปิง ป้ารู้ว่าเจ้ามีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง แต่ในป่าเขานี้สัตว์ดุร้ายมากมาย เจ้าอยู่รอบๆก็พอแล้ว อย่าเข้าไปลึกเลย”

รู้ว่าจางเฉินซื่อเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองจริงๆ ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกอบอุ่นในใจ “ป้าวางใจได้ ข้าแค่วนอยู่รอบๆ ดูว่ายังมีของอะไรที่สามารถขายได้อีก จะไม่ไปตรงทางลึกๆ”

เมื่อจางเฉินซื่อได้ยิน รู้สึกปวดใจอย่างอดไม่ได้

นี่หากไม่ใช่ว่าการใช้ชีวิตลำบากจริงๆ เสี่ยวปิงจะไปเสี่ยงอันตรายนั่นทำไม?

พูดคำที่จะขัดขวางไม่ออก จางเฉินซื่อทำได้เพียงกำชับแล้วกำชับอีกให้ลั่วเสี่ยวปิงระวังตัว รีบกลับมา

เห็นท่าทางของจางเฉินซื่อที่เป็นห่วงตัวเองขนาดนี้ ลั่วเสี่ยวปิงซาบซึ้งมาก

ขณะอยู่ที่ยุคปัจจุบัน หลังจากที่คุณปู่เสียชีวิตแล้วก็ไม่มีคนเป็นห่วงตัวเองเช่นนี้อีกแล้ว

บอกลาตระกูลจาง ลั่วเสี่ยวปิงหมุนแล้วก็เดินไป

เพราะกลัวว่าจางเฉินซื่อจะเป็นห่วง ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงเดินอ้อมรอบนอกของภูเขาก่อน จนจางเฉินซื่อมองไม่เห็นแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจึงได้เดินไปยังภูเขาลึกๆนั่น

ก็ไม่ใช่ว่านางกล้าหาญเกินไปไม่กลัวสัตว์ดุร้าย แต่หากนางพบสัตว์ดุร้ายจริง นางสามารถหลบเข้าไปในสเพซได้

อย่างไรเสียก็ไม่ง่ายที่นางจะมีชีวิตได้อีกครั้ง ก็ยังต้องรักชีวิตให้มากๆ

ทันทีที่เขาเข้าไปในภูเขาลึก ลั่วเสี่ยวปิงก็เห็นยาสมุนไพรอยู่ทั่วทุกที่

แต่ว่าส่วนใหญ่ล้วนเป็นยาสมุนไพรธรรมดา ลั่วเสี่ยวปิงมีความสนใจไม่มากนัก จึงเด็ดยาสมุนไพรอย่างละหนึ่งต้นโยนทิ้งเข้าไปในสเพซ อย่างอื่นตั้งใจว่าค่อยกลับมาเด็ดอีกครั้ง

ตลอดทางที่ไปด้านหน้า ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่พบยาสมุนไพรล้ำค่าอะไร อดที่จะผิดหวังไม่ได้เล็กน้อย

และไม่รู้ว่าเดินไปด้านหน้าเวลานานแค่ไหน ลั่วเสี่ยวปิงก็ยังคงไม่พบวัสดุยาที่ค่อนข้างพิเศษ จึงตั้งใจจะเดินกลับและถือโอกาสเก็บยาสมุนไพรที่เห็นได้ทั่วไปติดมือกลับไปขาย ยุงตัวเล็กก็ยังเป็นเนื้อไม่ใช่หรือมีก็ดีกว่าไม่ดี?

ขณะที่กำลังจะหมุนตัว ระหว่างที่หางตาของลั่วเสี่ยวปิงเหลือบมองไป การหมุนตัวชะงักลงอย่างกะทันหัน

หยุดอยู่กับที่หนึ่งวินาที หลังจากมั่นใจว่าผลสีแดงนั้นที่อยู่ไม่ไกลมีการดำรงอยู่จริงๆ ลั่วเสี่ยวปิงจึงวิ่งพุ่งไปทางด้านนั้นอย่างรวดเร็ว

รอจนกระทั่งเข้าใกล้ มองดูส่วนเล็กๆที่เผยให้เห็นอยู่นอกดิน ดวงตาทั้งคู่ของลั่วเสี่ยวปิงก็เปล่งประกายสดใส

โสมเหรอ!

รวยแล้ว!

ลั่วเสี่ยวปิงถอนเมล็ดโสมสีแดงนั่นอย่างตื่นเต้นและระมัดระวัง จากนั้นก็ถือโอกาสโยนเข้าไปในสเพซ จากนั้นก็ได้หากิ่งไม้ด้านข้างที่มีขนาดเล็กใหญ่พอดีอันหนึ่ง แล้วจึงได้ขุดส่วนของรากของโสมนั่นอย่างระมัดระวัง

ยิ่งขุด รากของโสมที่เผยออกมาก็ยิ่งหนาและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ลั่วเสี่ยวปิงก็ตื่นเต้นจนแทบจะหยุดหายใจแล้ว

โสมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางสามเซนติเมตร อายุจะต้องไม่น้อยแน่ ขณะเดียวกันจะต้องมีราคาเป็นอย่างมากแน่ๆ

เมื่อคิดเช่นนี้ การขุดโสมของลั่วเสี่ยวปิงก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง