ชุยเหวินเฉิงตกใจมาก หลังจากยืนยันว่าข้างบนไม่มีชื่อของอานอาน ก็มองไปทางอานอานโดยจิตสำนึก
เห็นอานอานเก็บสายตากลับมา ไม่รู้ก้มหน้าคิดอะไรอยู่ ชุยเหวินเฉิงกำหมัดไว้อย่างแน่น
ในที่สุด ชุยเหวินเฉิงเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ มองไปที่อาจารย์หลายคนนั้น ตะโกนพูดว่า"ข้าสงสัยว่ารายชื่อของพวกเจ้ามีการโกง"
ชุยเหวินเฉิงตั้งใจพูดเสียงดัง ส่งผลให้คนที่ยังไม่ทันได้กลับล้วนได้ยินกันหมด และล้วนล้อมรอบขึ้นมา
อาจารย์ที่ประกาศรายชื่อมีทั้งหมดสามท่าน แซ่จ้าว เฉียน ซุน ตามลำดับ
จ้าวฟูจื่อได้ยินเช่นนี้ก็ถามชุยเหวินเฉิง"เจ้าชื่ออะไร?"
หลังจากชุยเหวินเฉิงพูดชื่อของตัวเองแล้ว จ้าวฟูจื่อก็มองไปที่รายชื่อ และรู้สึกสงสัย"เจ้าอยู่ในรายชื่อ เหตุใดยังมาพูดว่าพวกเราโกง?"
จริงๆชุยเหวินเฉิงก็กลัวมาก แต่เพื่ออานอาน ก็พยายามสงบสติ
มือชี้ไปที่อานอานที่เงียบอยู่ข้างๆ ชุยเหวินเฉิงพูดว่า"ความรู้ของข้าเทียบกับคุณ......น้องชายของข้าไม่ได้ เหตุใดข้าผ่าน แต่น้องชายของข้าถึงไม่ผ่าน"
จ้าวฟูจื่อได้ยินเช่นนี้ มองอานอานที่อยู่ข้างๆ ถามว่า"เจ้าชื่ออะไร?"
"ฉีเจ๋อซวน"อานอานพูดชื่อเต็มของตัวเองออกมา
จ้าวฟูจื่ออาวุโสสุดในอาจารย์หลายท่านนี้ และยังเป็นหนึ่งในอาจารย์ที่ตรวจข้อสอบรอบที่สอง พอได้ยินชื่อนี้ ก็ขมวดคิ้วครุ่นคิดขึ้นมา
ส่วนซุนฟูจื่อไม่ทันรอให้จ้าวฟูจื่อครุ่นคิดออกมาได้ก็พูดอย่างโกรธ"เด็กคนนี้มาจากไหนเนี่ย?อายุน้อยเช่นนี้ก็กล้าพูดโม้แบบนี้หรือ?ถ้าพูดมั่วซั่วเสื่อมเสียชื่อเสียงของสถาบันการศึกษาของเราอีก ข้าจะรายงานให้ผู้อำนวยการ ตัดสิทธิ์เข้ารอบสามของเจ้า"
จ้าวฟูจื่อได้ยินเช่นนี้ ขมวดคิ้วมองไปทางซุนฟูจื่อ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไร
อานอานมองซุนฟูจื่อและขมวดคิ้ว"ขออนุญาตถามอาจารย์ขอรับ อะไรคือพูดโม้ขอรับ?"
เสียงอ่อนเยาว์ แต่ใจเย็นมาก ทำให้คนจำนวนมากล้วนถูกเขาดึงดูดความสนใจ
ซุนฟูจื่อไม่พอใจยิ่งนัก"อาจารย์พูดอยู่ เด็กเล็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดแทรก?อายุยังน้อยอยู่เลยก็ฉลาดแกมโกงแบบนี้ แนะนำให้เจ้าอยากเรียนหนังสือต่อเถอะ ไม่เช่นนั้นสุดท้ายก็ส่งผลเสียต่อตัวเจ้าเอง"
ซุนฟูจื่อพูดแบบแรงมาก ถ้าเป็นเด็กคนอื่น บัดนี้คงโดนว่าจนร้องไห้เสียก่อน และจากนี้ไปก็คงสูญเสียความมั่นใจในการเรียนอีก และจะไม่เรียนอีกต่อไป
ใบหน้าของอานอานไม่มีความแปรปรวนใดๆ เพียงจ้องไปที่ซุนฟูจื่อคนนั้น
อาจารย์คนนี้เขาจำได้ว่าเป็นคนที่เก็บข้อสอบ
แม่บอกว่า ถ้าคนร้อนตัว ก็จะพูดเสียงดัง แถมยังจะกะพริบตาบ่อย อาจารย์คนนี้พูดเสียงดังมาก และกะพริบตาบ่อยด้วย
อานอานนึกถึงสำนวนสุภาษิตที่ว่า : วัวสันหลังหวะ
ตอนนี้ซุนฟูจื่อเสมือนวัวสันหลังหวะจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อเห็นสายตาของอานอานมองมาที่ตัวเอง เขาก็มีความรู้สึกว่าเขารู้เรื่องทุกอย่าง
มีช่วงวินาทีหนึ่ง เขายังสงสัยว่าตัวเองไม่ได้เผชิญกับเด็กอายุแค่หกขวบ แต่เผชิญกับคนใหญ่คนโตผู้มีความสามารถ
แต่อานอานไม่ได้มองซุนฟูจื่อนานมาก กลับมองไปทางจ้าวฟูจื่อ"ขอสอบถามขอรับ อะไรคือพูดโม้ อะไรคือฉลาดแกมโกง?และอาจารย์ในสถาบันการศึกษาล้วนแนะนำให้นักเรียนอย่าเรียนต่อด้วยวิธีนี้หรือขอรับ"
ตามคำโบราณที่ว่า'ถ้าพูดโม้แล้วไม่รู้จักอาย จะเป็นคนที่ทำอะไรล้วนไม่ได้เรื่อง'
ส่วนฉลาดแกมโกง หมายถึงใช้ความฉลาดในทางคดโกง
ชุยเหวินเฉิงบอกว่าอานอานเก่งกว่าเขา ไม่ได้โม้เลย
ส่วนอานอานถามซุนฟูจื่อว่าอะไรคือพูดโม่ มันก็ไม่เชิงว่าเป็นฉลาดแกมโกง
เมื่อนึกถึงที่นี่ สายตาที่จ้าวฟูจื่อมองซุนฟูจื่อก็มีความไม่สบายใจอยู่ด้วย
เวลานี้ แม้กระทั่งเขายังรู้สึกว่าซุนฟูจื่อถึงเป็นคนที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของสถาบันการศึกษา ไม่เช่นนั้นเหตุใดถึงพูดคำพูดที่น่าเกลียดแบบนั้นต่อเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านการเรียนล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...