รถม้าจอดอยู่ที่ทางโค้ง ลั่วเสี่ยวปิงลงจากรถอย่างเร็ว
และในขณะนี้ ที่ไม่ไกลจากรถม้า ลั่วฝูซิงยืนอยู่ตรงนั้นพอดี บนร่างเล็กๆกำลังแบกฟืนอยู่
เห็นรถม้าจอดลง ลั่วฝูซิงก็หยุดลง แต่เมื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิงเดินลงจากรถม้า ก็ถอยหลังเล็กน้อย สภาพเหมือนอยากหลบซ่อน แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้หลบ เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น มองดูลั่วเสี่ยวปิงกำลังเข้าใกล้ตัวเอง
“พี่เสี่ยวปิง” ลั่วฝูซิงเรียกลั่วเสี่ยวปิงอย่างเชื่อฟังน่าเอ็นดู
มองดูลั่วฝูซิงแบบนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็อั้นสายตาอ่อนโยนลงไม่ได้ “ฝูซิง ทำไมเจ้าไม่ไปเรียนหนังสือ?”
เธอรู้เรื่องที่ลั่วเสี่ยวจู๋ได้ส่งลั่วฝูซิงไปเรียนหนังสือ
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนตระกูลลั่ว โดยเฉพาะลั่วเสี่ยวจู๋ แต่ว่าลั่วฝูซิงเด็กคนนี้กลับไม่เหมือนคนในตระกูลลั่วเลย
เด็กคนนี้ มีหัวใจที่ซื่อตรง มิหนำซ้ำยังมีความรักและเคารพต่อเธอ ทำให้เธอไม่อาจไม่สนใจเขา
มีความรู้สึกว่า หากตัวเองไม่สนใจเขา เหมือนจะทำร้ายเขาแบบนั้น
ลั่วฝูซิงได้ยิน ก็หลบสายตาเล็กน้อย พูดว่า “พี่เสี่ยวปิง ข้าไม่เหมาะที่จะเรียนหนังสือ จึงกลับมาแล้ว”
มองดูสภาพของลั่วฝูซิงที่ไม่กล้ามองสายตาตัวเอง ลั่วเสี่ยวปิงก็อดถอนหายใจไม่ได้
ความจริง เธอรู้สาเหตุที่ลั่วฝูซิงไม่เรียนหนังสือ วันนั้นบ้านสี่เกิดเรื่องทะเลาะวิวาท องครักษ์ได้มารายงานกับเธอ
นี่ก็คือเหตุผลที่เธอจอดรถลงมา
ไม่พูดเรื่องอื่น เพียงแค่จุดที่เด็กคนนี้ทัศนคติเที่ยงตรง เธอก็อยากช่วยเขาสักครั้ง
ดังนั้น ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดถึงเรื่องลั่วฝูซิงเหมาะหรือไม่เหมาะกับการเรียนหนังสือ แต่ถามว่า “แล้วเจ้าอยากเรียนหนังสือหรือไม่?”
ลั่วฝูซิงกำลังจะส่ายหน้า ลั่วเสี่ยวปิงก็ถามอีก “มองสายตาข้าแล้วบอกข้า”
ลั่วฝูซิงมองสายตาลั่วเสี่ยวปิงตามคำพูดเธอ แต่ว่าสายตาสองคู่สบตากัน ลั่วฝูซิงพบว่าตัวเองไม่อาจพูดว่าไม่อยากได้เลย
สุดท้ายลั่วฝูซิงก้มหัวลง “ข้าอยาก......แต่พี่เสี่ยวปิง เรียนหนังสือแพงเกินไป ข้าอยากไปเป็นคนฝึกงาน”
เพิ่งพูดจบ ลั่วฝูชิงก็รู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งจับหัวของเขา เบาๆ อ่อนโยน ทำให้ลั่วฝูซิงตะลึงเล็กน้อย อดเงยหน้ามองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ แววตามีความดีใจเล็กน้อย
เขาชอบที่ถูกพี่เสี่ยวปิงจับหัว
ลั่วเสี่ยวปิงถาม “ถ้าหาก เจ้ามีโอกาสได้เรียนโดยไม่ต้องเสียเงิน เจ้าจะเรียนต่อหรือไม่?”
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยิน ครุ่นคิดแล้ว พยักหน้า แล้วก็ส่ายหัว
“พี่เสี่ยวปิง ถึงแม้จะเรียนโดยไม่เสียเงิน แต่ว่ากระดาษพู่กันเหล่านี้ก็แพงมาก ข้าไม่อยากเพิ่มภาระให้ที่บ้าน”
หลังจากพี่สาวจากไป พ่อแม่ที่บ้านก็ถอนใจทุกวัน
พี่ชายปีนี้สิบห้า พ่อแม่เริ่มร้อนรนเรื่องแต่งงานของพี่ชายแล้ว
เขาไม่สามารถทำให้การแต่งงานพี่ชายล่าช้าเพราะการเรียนหนังสือของตัวเอง
มองดูท่าทางรู้เหตุรู้ผลของลั่วฝูซิง ลั่วเสี่ยวปิงถอนหายใจอีกครั้ง
ยุคนี้ เพราะความลำบาก ดังนั้นเด็กจึงรู้เหตุผลเข้าใจครอบครัวค่อนข้างเร็ว
ถ้าหากอยู่ในยุคปัจจุบัน เด็กที่โตประมาณลั่วฝูซิงยังเล่นอย่างไร้ความกังวลอยู่เลย
คิดไปแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ถามต่อ “ถ้าหากเจ้ามีหนทางหาเงิน เจ้าจะเรียนต่อหรือไม่?”
ได้ยินแล้ว ลั่วฝูซิงก็สีหน้างุนงง
เขาจะมีวิธีหาเงินได้หรือ?
ลั่วเสี่ยวปิงไม่รอให้ลั่วฝูซิงถาม ก็พูดว่า “เห็ดของจ้าฝั่งโน้นผลิตได้ไม่พอขาย ถ้าหากข้าเสนอถุงเชื้อเห็ด พวกเจ้าช่วยข้าเพาะเห็ด แล้วเอาเห็ดมาขายให้ข้า เจ้ายินดีไหม?”
ถึงแม้ตอนนี้ทั่วทุกแห่งหนต่างรู้ว่าเห็ดกินได้แล้ว ถึงแม้เห็ดที่เธอเพาะก็ไม่น้อย แต่ว่าทางด้านหอฝูหม่านก็ยังอยู่ในภาวะเห็ดยังไม่พอเพียงต่อความต้องการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...