แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 385

“ปัง——”

ลั่วเสี่ยวปิงยกขาขึ้นมาโดยตรง ถีบลั่วเสี่ยวอวี่ล้มลงไป

ลั่วเสี่ยวอวี่เจ็บ อยากจะร้องส่งเสียงออกมาแต่ทันใดนั้นกลับพบว่าเสียงของตัวเองหายไป แม้แต่เสียงกรีดร้องก็ถูกอุดอยู่กลางลำคอ

ลั่วเสี่ยวอวี่กำลังจะตื่นตกใจ ก็มีเท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนอกของนาง มันเจ็บมากจนนางรู้สึกว่ากระดูกแถวหน้าอกนางจะหักอยู่แล้ว

เหลือบมองดู กลับเห็นว่าคนที่เหยียบอยู่คือลั่วเสี่ยวปิง ความโกรธจึงได้พุ่งขึ้นมาในใจ

นางอยากจะตะโกนด่า อยากให้ลั่วเสี่ยวปิงออกไป แต่นางกลับส่งเสียงออกมาไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นยังไม่มีแรงผลักลั่วเสี่ยวปิงออก

เจ็บเหลือเกิน! ลั่วเสี่ยวอวี่เจ็บจนดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา

เพราะความเจ็บปวดนางจึงไม่เปิดปากหายใจไม่ได้ แต่ในเวลาต่อมานางรู้สึกว่ามีบางอย่างเล็ดลอดเข้าไปในปากของนาง และมันถูกกลืนเข้าไปในลำคอของนางแล้วละลายในทันที?

ลั่วเสี่ยวอวี่มองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงอย่างตื่นตกใจ:เจ้าให้ข้ากินอะไรเข้าไป?

แววตานั้นของนางราวกับเป็นการถามโดยไร้เสียง

ลั่วเสี่ยวปิงกลับแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจสายตาของลั่วเสี่ยวอวี่ จากนั้นก็เดินอ้อมลั่วเสี่ยวอวี่ ไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ลั่วเสี่ยวอวี่นั่งอยู่เมื่อครู่ ท่าทางแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่ผ่อนคลาย

ลั่วเสี่ยวอวี่คลานขึ้นมาจากพื้นอย่างหมดสภาพ กำลังจะพุ่งไปถามลั่วเสี่ยวปิงว่าหล่อนเอาอะไรให้นางกิน ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็ถูกส่งออกมาจากร่างกาย

ความเจ็บปวดในตอนแรกเป็นอาการชา เพียงแค่ทำให้การเคลื่อนไหวของลั่วเสี่ยวอวี่แข็งทื่อ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นางสนใจ

แต่ไม่นานอาการชานั้นก็กลายเป็นความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

ความเจ็บปวดในเริ่มแรกยังพอจะทนได้ เพียงแค่ให้คนรู้สึกตื่นตกใจมากก็เท่านั้น

นางสามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด แต่ก็ราวกับจับตำแหน่งที่แน่นอนของความเจ็บปวดไม่ได้ ความรู้สึกเหมือนกำลังคันแต่ก็เกาไม่ได้ มันทรมานเล็กน้อย

และตามมาด้วยความเจ็บปวดที่ยิ่งทวีคูณขึ้นมาเรื่อยๆ ยิ่งอยู่ยิ่งทนไม่ได้ เสียง“ปัง”ดังขึ้น ลั่วเสี่ยวอวี่ล้มลงไปอีกครั้ง

ยิ่งกว่านั้นยังนอนพลิกไปมาอยู่ตรงนั้น

เจ็บเหลือเกิน มันเจ็บเหลือเกิน

เมื่อมองไปทางลั่วเสี่ยวอวี่ที่กำลังกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด ลั่วเสี่ยวปิงกลับนิ่งเฉย

ตอนที่วางแผนทำร้ายนาง ก็ควรจะนึกได้ว่าจะมีผลเช่นนี้ตามมา

นางไม่ได้เป็นคนที่จะถูกวางแผนทำร้ายง่ายดายขนาดนั้นอยู่แล้ว

เมื่อก่อนครั้งที่นางเพิ่งมาถึงโลกใบนี้แรกๆอาจจะเป็นแม่พระ สำหรับคนที่มาเล่นหน้าเล่นตาก็อาจจะมีปล่อยไปหลายคน แต่ตอนนี้ และในอนาคตมันจะไม่มีอีกแล้ว

คนที่กล้ามาเล่นหน้าเล่นตาต่อหน้านาง ก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเอาคืนของนาง

เมื่อก่อนนางไม่ชอบใช้ยาพิษแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านางจะปรุงและใช้ยาพิษไม่เป็น

เพียงแต่เมื่อก่อนนางเป็นเพียงแค่คนปรุงยาและนายทุนธรรมดาๆ นางไม่จำเป็นต้องใช้ยาพิษกับผู้ใดเลย ดังนั้นนางจึงไม่มีนิสัยชอบใช้ยาพิษเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้

แต่ตอนนี้นางรู้สึกว่าการใช้ยาพิษก็ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลว ประหยัดเวลาประหยัดแรงแล้วยังลดปัญหาอีก

“น้องสาวนี่เจ้าเป็นอะไรไป?”ลั่วเสี่ยวปิงมองดูลั่วเสี่ยวอวี่แล้วแสร้งถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว“เหตุใดจึงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้น? นี่กำลังต้อนรับข้าอยู่หรือ?”

จะดอกบัวขาวก็ดี

จะอีหนูชาเขียวก็ช่าง

ขอเพียงนางต้องการ ทุกอย่างก็จะได้มาง่ายๆ

ลั่วเสี่ยวอวี่เจ็บปวดมากจนอยากจะเป็นลมไป แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงของลั่วเสี่ยวปิงอย่างชัดเจน ในใจนางเกลียดชังมาก แต่ก็ไม่มีหนทาง

แม้แต่การเอ่ยปากขอความเมตตานางยังไม่สามารถทำได้

เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าของลั่วเสี่ยวอวี่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อเพราะความเจ็บปวด ลั่วเสี่ยวปิงเองก็รู้สึกว่าได้เวลาแล้ว จึงยิ้มแล้วกล่าวว่า“วิธีการขอบคุณที่ข้าให้น้อง น้องชอบหรือไม่?”

ลั่วเสี่ยวอวี่:“......”ชอบ? เจ้าชอบแล้วเหตุใดเจ้าไม่ใช้มันเองล่ะ?

ลั่วเสี่ยวปิง:“นี่มันเพิ่งจะเริ่ม......ประมาณการเบื้องต้น เจ้าน่าจะต้องเจ็บไปอีกสี่สิบเก้าวัน......ไม่สิ เจ้าไม่น่าจะทนได้นานถึงขนาดนั้น คงจะทนไม่ไหวฆ่าตัวตายไปซะก่อน”

น้ำเสียงของลั่วเสี่ยวปิง ไม่ต่างอะไรกับการตัดกำลังใจ

ลั่วเสี่ยวอวี่ฟังอยู่ในหู แต่ความกลัวในใจกลับเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ

ฆ่าตัวตาย?

ไม่!

นางยังใช้ชีวิตไม่พอ ไม่อยากตาย

ลั่วเสี่ยวปิงมองดูความเกรงกลัวของลั่วเสี่ยวอวี่อยู่ในสายตา ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง “ข้าคิดว่า เรื่องในครั้งนี้คงไม่ใช่ความคิดของเจ้าเพียงคนเดียวหรอก หากเจ้าสารภาพออกมาว่าใครเป็นคนสั่งการเจ้า ข้าอาจจะพิจารณาใหม่”

ไม่ใช่ว่าปล่อยให้พวกอั้นหวู่ไปสืบมาไม่ได้ เพียงแต่ให้พวกเขาไปสืบยังต้องใช้เวลาอีก ถามจากลั่วเสี่ยวอวี่โดยตรงเลยดีกว่า

ลั่วเสี่ยวอวี่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆลั่วเสี่ยวปิงจะถามคำถามนี้ รูม่านตาของนางกระชับขึ้น ร่างกายที่กลิ้งไปมาก็ราวกับจะหยุดลงแล้ว

ใช่

เรื่องนี้ นางไม่ได้คิดออกมาเองจริงๆ

ถึงขนาดที่ตอนแรกนางเองก็ยังคิดไม่ถึงว่าจะลงมือกับลั่วเสี่ยวปิงเร็วขนาดนี้

หากไม่ใช่เพราะลั่วเสี่ยวจู๋ นางคงจะไม่ลงมือกับลั่วเสี่ยวปิงเร็วขนาดนี้

ใช่แล้ว เพราะลั่วเสี่ยวจู๋

ก่อนที่ลั่วเสี่ยวปิงจะมาถึงเมืองหลัว ลั่วเสี่ยวจู๋ก็ได้ส่งจดหมายมาให้ลั่วเสี่ยวอวี่ ทั้งสองคนพบปะกัน

ลั่วเสี่ยวอวี่ในตอนนั้นรู้ที่มาของลั่วเสี่ยวจู๋กับตระกูลจูนานแล้ว ลั่วเสี่ยวอวี่ที่ไม่ได้โง่อยากจะลงมือกับลั่วเสี่ยวจู๋

เพียงแต่ ยังไม่ทันได้ลงมือ ก็ถูกคนที่ลั่วเสี่ยวจู๋พามาควบคุมตัวไว้แล้ว

ส่วนคนที่ลั่วเสี่ยวจู๋พามา กลับเป็นคนของตระกูลจู

ลั่วเสี่ยวอวี่ไม่มีหนทาง ทำได้เพียงแค่นั่งลง แล้วคุยรายละเอียดกับลั่วเสี่ยวจู๋

และก็เป็นตอนนั้นเอง ลั่วเสี่ยวจู๋เสนอความคิดหนึ่งออกมา ให้ลั่วเสี่ยวอวี่คิดหาวิธีให้นายท่านใหญ่ชอบลั่วเสี่ยวปิง

ในตอนแรกลั่วเสี่ยวอวี่ไม่ได้ตอบตกลงเพราะไม่อยากฟังคำพูดของลั่วเสี่ยวจู๋ ถึงขนาดที่ไม่ได้ใส่ใจกับข้อเสนอของลั่วเสี่ยวจู๋

แต่แล้ว ลั่วเสี่ยวอวี่จะไปสู้กับลั่วเสี่ยวจู๋ที่มีชีวิตมาสองชาติได้อย่างไร?

ท้ายที่สุดลั่วเสี่ยวอวี่ก็ตกลง แต่ในใจกลับคิดว่าแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่มีทางได้เจอกับลั่วเสี่ยวปิง นับประสาอะไรกับนายท่านใหญ่จู?

ดังนั้นหลังจากที่ตอบตกลงไป ลั่วเสี่ยวอวี่ก็ไม่ได้เก็บมันมาคิด

แต่กลับไม่คิดว่าในสถานที่แข่งขันเชฟ นางกลับเห็นลั่วเสี่ยวปิง ทันใดนั้นข้อเสนอของลั่วเสี่ยวจู๋ก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของนาง ทำให้นางจับพลัดจับผลูกระทำลงไปโดยไม่รู้ตัว

นางไม่กลัวการที่ต้องสารภาพตัวลั่วเสี่ยวจู๋ออกมา เพราะนางเองก็เกลียดลั่วเสี่ยวจู๋ หวังจะให้ทั้งสองคนสู้ขึ้นมาเหมือนกัน

ความคิดดังกล่าวปรากฏขึ้นในหัวของลั่วเสี่ยวอวี่ทันที ลั่วเสี่ยวอวี่จึงมองไปทางลั่วเสี่ยวปิง“อือ......”

ส่งเสียงไม่ออก

ลั่วเสี่ยวปิง:“ในเมื่อเจ้าไม่สารภาพคนที่เสนอความคิดนี้ออกมา เช่นนั้นก็ช่างมันเถอะ คิดว่าข้าไม่เคยพูดก็แล้วกัน”

พูดจบก็ลุกขึ้นยืน ทำท่าทางว่าจะจากไป

ลั่วเสี่ยวอวี่แทบจะร้องไห้ออกมา

นางได้พูดหรือว่าจะไม่สารภาพ

นางก็อยากจะสารภาพ แต่จะสารภาพก็น่าจะจำให้ได้ว่านางไม่สามารถเอ่ยปากพูดได้สิ

พูดไม่ได้ แล้วจะสารภาพอย่างไร?

วินาทีนี้ ลั่วเสี่ยวปิงในสายตาของลั่วเสี่ยวอวี่ก็เป็นเหมือนปีศาจตนหนึ่ง มาที่นี่เพื่อทำลายร่างกายและจิตใจของนาง

แต่ความคิดก็ส่วนของความคิด นางจะไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ ตอนนี้นางเจ็บจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ถ้ารออีกเดี๋ยว นางอาจจะกลายเป็นบ้า

ดังนั้น ลั่วเสี่ยวอวี่ดึงกระโปรงของลั่วเสี่ยวปิงเอาไว้

“อือ......”ยังคงส่งเสียงออกมาไม่ได้ นอกเสียจากพยางค์เสียงนี้

ยิ่งกว่านั้นลั่วเสี่ยวอวี่รู้สึกว่า ตอนที่ตัวเองคลานอยู่หน้าลั่วเสี่ยวปิง ทำให้เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงดูอยู่ในที่สูงส่ง ส่วนนางกลับต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ความรู้สึกเช่นนี้มันคือความอัปยศแบบไหนกัน

“อ้าว ข้าลืมไปว่าตอนนี้เจ้าพูดไม่ได้แล้ว”

ราวกับลั่วเสี่ยวปิงกำลังนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ลั่วเสี่ยวอวี่พูดไม่ได้

ส่วนลั่วเสี่ยวอวี่โกรธจนแทบจะอ้วกเป็นเลือด

จากนั้น ลั่วเสี่ยวอวี่ก็อ้วกเลือดออกมาจริงๆ เพราะลั่วเสี่ยวปิงเหยียบเข้าที่หลังของนางอย่างแรง

“อ๊า——เจ็บ!”

หลังจากอุทานออกมา ก็มีเลือดไหลออกมาจากปากของนาง

เมื่อตระหนักขึ้นได้ว่าตัวเองสามารถพูดได้แล้ว ลั่วเสี่ยวอวี่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แต่ในวินาทีต่อมานางก็ขดตัวงอแล้วกลิ้งไปมาอีกครั้ง

“ยาถอนพิษ ยาถอนพิษ รีบเอายาถอนพิษให้ข้าเร็ว”

ลั่วเสี่ยวอวี่หันไปตะโกนทางลั่วเสี่ยวปิงด้วยความเจ็บปวด

“อยากได้ยาถอนพิษ เช่นนั้นก็ต้องดูพฤติกรรมของเจ้าแล้วล่ะ......”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง