แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 388

ผู้ที่เดินออกมาคืออั้นหวู่

ลั่วเสี่ยวปิงไม่แปลกใจเลยแม้แต่นิดเดียว ตัวเองมาที่ตระกูลจู พวกอั้นหวู่ไม่มีทางปล่อยให้นางมาเสี่ยงอันตรายคนเดียวอย่างแน่นอน จะต้องคอยจับตาดูอยู่ในความมืดแน่นอน

ทันทีที่อั้นหวู่ปรากฏตัว ลั่วเสี่ยวปิงก็ถามถึงคนใช้ที่ถูกทุบตีก่อนหน้านี้กับอั้นหวู่ก่อนเลย

หลังจากที่รู้ว่าคนใช้คนนั้นตายไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังถูกนำไปโยนทิ้งที่สุสานไร้คนฝังอีก ลั่วเสี่ยวปิงจึงขอให้อั้นหวู่พานางออกจากตระกูลจู ตรงไปที่สุสานไร้คนฝัง

ศพที่อยู่ที่สุสานไร้คนฝังมีเยอะมาก แม้ว่าวันนี้อากาศจะไม่ร้อน แต่กลิ่นก็ยังเหม็นอยู่มาก

ยิ่งกว่านั้นยังเป็นครั้งแรก

อั้นหวู่เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้ว จึงกล่าวว่า“ให้ข้าไปนำคนออกมาให้หรือไม่?”

ลั่วเสี่ยวปิงครุ่นคิด ท้ายที่สุดแล้วก็ส่ายหน้า

นางมาที่นี่ก็เพียงแค่อยากจะเสี่ยงโชคก็เท่านั้น แต่หากคนผู้นั้นไม่ได้ตายจริงๆ ไปเคลื่อนไหวโดยอำเภอใจอาจจะสร้างความเสียหายเป็นครั้งที่สอง

คิดแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็เดินไปที่ส่วนลึกของสุสานไร้คนฝัง

แรกๆมีความกลัวเล็กน้อย จนต่อมาสงบลง ลั่วเสี่ยวปิงใช้เวลาเพียงครึ่งก้านธูป

และเพียงไม่นาน นางก็หาคนใช้ที่ถูกตระกูลจูโยนทิ้งขึ้นมาจากกองศพได้

อั้นหวู่ลองตรวจสอบลมหายใจของคนคนนั้น กล่าวว่า“ฮูหยิน เขาได้ตายแล้ว”

ลั่วเสี่ยวปิงเดินเข้าไปใกล้ ตรวจสอบชีพจร ไม่ได้รู้สึกถึงการเต้นของชีพจร หัวใจเองก็เหมือนจะหยุดเต้นแล้ว ดูเหมือนคนที่ตายไปแล้วจริงๆ

ลั่วเสี่ยวปิงหยิบไข่มุกราตรีออกมาให้อั้ยหวู่ถือไว้ จากนั้นก็เปิดตาของคนคนนั้น ใช้นิ้วมือกดทับที่ลูกตา

ตอนที่กดทับเห็นว่ารูม่านตาขยับเล็กน้อย หลังจากปล่อยออกรูม่านตาก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม ลั่วเสี่ยวปิงโล่งอก

“คนผู้นี้ยังไม่ตาย”

พูดแล้ว ก็ไม่ได้สนใจการแสดงออกที่ดูประหลาดใจของอั้นหวู่ ลั่วเสี่ยวปิงหยิบขวดขวดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ ข้างในนั้นคือน้ำแร่วิญญาณ

หลังจากป้อนน้ำแร่วิญญาณให้คนดื่มเข้าไป ลั่วเสี่ยวปิงก็เริ่มรักษาบาดแผลบนศีรษะของคนคนนี้.....

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วออกจากสุสานไร้คนฝัง ก็เป็นเวลาที่ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมง

ขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงส่งชายผู้นั้นให้อั้นหวู่ไปจัดการ ก็ได้ให้อั้นหวู่ไปตรวจสอบผลสรุปสุดท้ายของเด็กสาวที่ถูกตระกูลจูจับไป รวมทั้งข้อมูลทั้งหมดของตระกูลจู

หลังจากสั่งการเสร็จสิ้น ลั่วเสี่ยวปิงถึงได้กลับมาที่ตระกูลจู

โชคดีที่ตระกูลจูไม่มีผู้ใดกล้ามารบกวนลั่วเสี่ยวปิง ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าลั่วเสี่ยวปิงเคยออกไป

เมื่อเทียบกับความเงียบทางด้านของลั่วเสี่ยวปิง ทางด้านลั่วเสี่ยวอวี่นั้นน่าสลดกว่ามาก

เพราะคนตระกูลจูต่างก็คิดว่าหายนะของตระกูลจูในครั้งนี้เกิดจากฝีมือของลั่วเสี่ยวอวี่ คนตระกูลจูไม่กล้าลงมือกับลั่วเสี่ยวปิง จึงนำความโกรธทั้งหมดมาลงที่ตัวของลั่วเสี่ยวอวี่

แม้จะเป็นช่วงกลางดึก เหล่านายๆของตระกูลจูก็ยังแออัดกันอยู่ในเรือนของลั่วเสี่ยวอวี่ เฝ้าดูคนใช้ใช้แส้ฟาดบนตัวของลั่วเสี่ยวอวี่เป็นครั้งๆ

ฟาดไปได้ครึ่งหนึ่ง นายของตระกูลจูก็ให้คนนำน้ำเกลือสาดไปที่ตัวของลั่วเสี่ยวอวี่ ไม่ว่าลั่วเสี่ยวอวี่จะขอความเมตตาหรือปฏิเสธแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ท้ายที่สุดเสียงของลั่วเสี่ยวอวี่ก็แหบแห้ง

แม้นางจะเป็นลมไปก็จะถูกน้ำสาดจนตื่น กระทั่งร่างกายส่วนล่างของลั่วเสี่ยวอวี่หลั่งเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก การเฆี่ยนตีถึงได้หยุดลง

เลือดเห็นแล้วน่าตกใจ คนตระกูลจูแค่เห็นก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น......แท้งแล้ว

คนตระกูลจูไม่ได้ตื่นตระหนก และไม่ได้มีความรู้สึกเห็นใจ มีเพียงความเงียบ

จากนั้น ก็มีคนเอ่ยขึ้นมาว่า“จะไปเชิญหมอมารักษานางหรือไม่?”

ตามปกติหากเกิดเรื่องเช่นนี้ คนตระกูลจูไม่มีทางเชิญหมอมา เหตุผลที่กล่าวขึ้นมาในตอนนี้ก็เพราะว่ากลัวลั่วเสี่ยวปิง

ท้ายที่สุด คนตระกูลจูก็ให้ไปเชิญหมอมา และยังให้คนใช้ปิดข่าว ห้ามแพร่งพรายออกไป แล้วจึงได้กลับมาด้วยความผิดหวัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง