แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 431

หลังจากซ่งหลิงหลางหลงทางแล้ว ก็รู้สึกว่าองครักษ์เหล่านั้นน่าจะไม่อยู่ไกลจากตัวเอง ดังนั้นเลยไม่กลัว เดินหน้าไปอย่างเดียว จนกว่าม้ามืดยังไม่มีใครเจอนาง ซ่งหลิงหลางกว่าที่จะรู้จักกลัว

ซ่งหลิงหลางที่ทั้งหิวน้ำและเหนื่อย มาถึงริมทะเลสาบ อาศัยกินน้ำอยู่จนถึงตอนเช้า ในที่สุดถึงถูกองครักษ์เหล่านั้นหาเจอ

หากไม่ใช่ว่ารู้จากปากขององครักษ์ว่าที่ที่ตัวเองอยู่ไม่ไกลจากค่ายทหาร ซ่งหลิงหลางจะโกรธแน่นอน

หลังจากฟังการเล่าของซ่งหลิงหลางเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าก็มองหน้าเข้าหากัน หลังจากที่มองความหมายในสายตาของฝ่ายตรงข้ามออกแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าก็เดินออกไปข้างนอกพร้อมกัน

ซ่งหลิงหลาง"เฮ้อ เจ้าไปเลยแบบนี้ แล้วข้าต้องต้องอย่างไร?"

ไม่มีใครตอบคำถามของซ่งหลิงหลาง เพราะมีคนจะดูแลซ่งหลิงหลางเอง ส่วนลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าก็ไปที่ทะเลสาบที่ซ่งหลิงหลางกล่าวมานั้น

ทะเลสาบนั้นชื่อทะเลสาบหมึก เป็นแหล่งกำเนิดน้ำของทั้งค่ายทหาร

แน่นอนว่า พวกเขาก็ไม่ได้ตักน้ำที่ทะเลสาบหมึก เพราะมีลำธารเล็กที่แตกออกมาจากทะเลสาบหมึก ได้ไหลผ่านบริเวณค่ายทหาร เหล่าทหารเลยตัดน้ำในลำธารนั้น

ตามที่ซ่งหลิงหลางพูดมา สิ่งร่วมของนางกับเหล่าทหารในค่ายทหารก็คือน้ำในทะเลสาบหมึก ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าสงสัยอย่างยิ่งว่าทะเลสาบหมึกมีปัญหา

ตอนที่ถึงทะเลสาบหมึกก็ตอนบ่ายแล้ว แสงอาทิตย์จัดจ้า มีสัตว์มากมายกำลังดื่มน้ำอยู่บริเวณทะเลสาบหมึก

ลั่วเสี่ยวปิงมองฉีเทียนเห้าทีหนึ่ง ฉีเทียนเห้ารู้ความหมายของนาง สักครู่หนึ่งก็จับสัตว์หลายตัวมา

ลั่วเสี่ยวปิงทำการตรวจสอบสัตว์หลายตัวนั้น ไม่มีปัญหาอะไร เลยปล่อยสัตว์เหล่านั้นไป

จากนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็มาถึงบริเวณต้นกำเนิดของน้ำ ตักน้ำขึ้นมาบางส่วนทำการตรวจสอบ ยังคงไม่พบปัญหาใดๆ

เหมือนเงื่อนไขถึงที่นี่ก็ขาดไป

แต่ฉีเทียนเห้าและลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้คิดจะกลับในเวลานี้

พวกเขาน่าจะลืมสังเกตอะไรไป

ทั้งสองคนล้วนไม่คิดจะกลับ เลยจุดกองไฟ ล่าสัตว์ตัวหนึ่งแล้วนำมาปิ้งกิน

กินอาหารเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงก็เริ่มครุ่นคิด ฉีเทียนเห้าก็ไม่ได้รบกวนลั่วเสี่ยวปิง ค่อยๆใช้วิชาตัวเบาเดินสังเกตไปรอบๆ อยากจะดูว่ามีที่ไหนที่พลาดไปหรือเปล่า

แต่ว่าเดินสังเกตมานานมาก ฉีเทียนเห้าก็ยังคงไม่ได้สังเกตอะไร ก็เลยต้องกลับมาหาลั่วเสี่ยวปิงที่เดิม

รอตอนที่ฉีเทียนเห้ากลับมา ลั่วเสี่ยวปิงก็หยุดการครุ่นคิด

ฉีเทียนเห้าอยากถามลั่วเสี่ยวปิงว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ไหม แต่ป็กลัวจะไปกดดันลั่วเสี่ยวปิง เลยกลืนคำพูดลงไป ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้บอกว่าจะกลับไปฉีเทียนเห้าก็เลยไม่ได้พูด

ทั้งสองคนนั่งอยู่ริมทะเลสาบอย่างเงียบๆ มองทิวทัศน์ของทะเลสาบ ซึ่งถือเป็นทิวที่สวยงามในชายแดน ในเวลาที่ตึงเครียดนี้กว่าจะมีความสงบสุขที่หายาก ทำให้คนลืมโรคของทหารไปชั่วคราว

จนกว่า ตอนที่ท้องฟ้าใกล้จะมืดแล้ว อยู่ๆฉีเทียนเห้าก็ได้ยินการเคลื่อนไหว สายตาเฝ้าระวังขึ้นมา และพาลั่วเสี่ยวปิงซ่อนตัว

สองคนซ่อนอยู่หลังหญ้า ไม่ขยับเลย รออย่างเงียบๆ

ไม่นานก็เห็นเงาหนึ่งแอบปรากฏตัวที่ริมทะเลสาบ

จากมุมมองของลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้า เห็นพอดีว่าเงานั้นกำลังเทอะไรลงทะเลสาบอยู่

ฉวยโอกาสตอนนี้!

ฉีเทียนเห้าบินขึ้นมา จับไปที่เงานั้น

เงานั้นสังเกตถึงอันตราย เลยคิดจะหนีเลย

แต่ฉีเทียนเห้าไม่ให้โอกาสเขา สักครู่หนึ่งเองก็จับทุ่มคนนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้คนนั้นกัดลิ้นตายหรือซ่อนยาพิษในปาก ดังนั้นในตอนที่จับทุ่มคนนั้น ฉีเทียนเห้าเลยหมุนคางของเขาจนคลาดเคลื่อน ท่ามกลางค่ำคืนที่สงบ จึงมีเสียงกรีดร้องส่งมา

ฉีเทียนเห้ากระชากหน้ากากของคนนั้นออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ดูหยาบกร้านกว่าประชาชนในราชวงศ์ต้าชิ่ง และดูผ่านแสงจันทร์ ดวงตาของคนนี้เป็นสีน้ำตาลเหลือง นี่เป็นคนแคว้นซีหรง

ลั่วเสี่ยวปิงเดินออกมาจากหญ้า รับขวดในมือของคนนี้มา และนำมาดม เป็นกลิ่นที่ฉุนมาก จนรู้สึกหายใจไม่ออก

ถึงแม้กลิ่นยังคง แต่ไม่มีอะไรเหลือเลย ลั่วเสี่ยวปิงเลยหยิบขวดมาถึงริมทะเลสาบ

ถึงแม้เดิมทีของข้างในฉุนมาก แต่หลังจากเทเข้าไปละลายในทะเลสาบแล้ว ก็ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย

หลังจากลั่วเสี่ยวปิงตักน้ำขึ้นมาขวดหนึ่งแล้ว ก็มองแม่น้ำลำธารข้างๆ จากนั้นก็เดินมาถึงหน้าคนนั้น

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น หยิบขวดเล็กขวดหนึ่งออกมาจากสเพซ และหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาจากขวดเล็ก ป้อนให้คนนั้น

ดวงตาของคนนั้นมีความกังวลพาดผ่าน แต่ไม่นานสายตาก็กลายเป็นอึ้งและเหม่อลอย

ฉีเทียนเห้าได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของคนนี้ รู้สึกตกใจ

เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเทียนเห้า ลั่วเสี่ยวปิงพูดว่า"นี่เป็นยาเม็ดพูดความจริง กินแล้วการสอบสวนจะง่ายหน่อย"

ฉีเทียนเห้าเลิกคิ้ว ไท่ทราบเลยว่าจะมีของแบบนี้ด้วย

มีของแบบนี้แล้ว อนาคตที่สอบสวนคดีก็ไม่ต้องเสียเวลาเปล่าๆแล้ว

เหมือนรู้ความคิดในใจของฉีเทียนเห้า ลั่วเสี่ยวปิงนำยาเม็ดพูดความจริงให้ฉีเทียนเห้าโดยตรง"กระบวนการผลิตค่อนข้างจะซับซ้อน ตอนนี้ข้ามีแค่เท่านี้"

นี่ก็เป็นเหตุที่ทำไมนางถึงไม่ได้ใช้กับซ่งหลิงหลาง

หลังจากเรื่องของตระกูลจู นางถึงคิดได้ว่าจะทำยาเม็ดพูดความจริง แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้ใช้เร็วขนาดนี้

สองคนไม่ได้เสียเวลาอีก ลั่วเสี่ยวปิงให้ฉีเทียนเห้าต่อคางให้คนนั้น แล้วก็เริ่มสอบสวน

"พิษที่เจ้าใส่เป็นพิษอะไร?"

"เป็นพิษที่จะทำให้คนรู้สึกเหมือนเป็นโรคระบาด"

"เจ้ามาทุกวันหรือ?"

"ขอรับ"

"มียาถอนพิษหรือเปล่า"

"ตอนที่หมอหลวงทำออกมาไม่ได้ทำยาถอนพิษ ดังนั้นจึงไม่มียาถอนพิษ"

"พวกเจ้าวางยาพิษในทะเลสาบมีวัตถุประสงค์อย่างใด?"

ข้างหน้าถามตอบได้อย่างราบรื่น

แต่ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงถามถึงวัตถุประสงค์ คนนั้นก็ดิ้นรนอย่างเห็นได้ชัด

"เกิดอะไรขึ้น?"ฉีเทียนเห้าถาม

สีหน้าของลั่วเสี่ยวปิงจริงจังมาก"สติของเขาเริ่มต่อต้านแล้ว"

หยุดไปสักพักหนึ่ง ลั่วเสี่ยวปิงอธิบายว่า"น่าจะเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเขารู้สึกว่าคำถามนี้ตอบไม่ได้ ดังนั้นเขาน่าจะใกล้ตื่นแล้ว"

อย่างที่คิด ลั่วเสี่ยวปิงเพิ่งพูดเสร็จ คนนั้นก็ตื่นขึ้นมา

หลังจากอึ้งไปสักครู่หนึ่ง ถึงสังเกตว่าคางของตัวเองต่อกลับมาเหมือนเดิม จากนั้นก็เตรียมจะตัดลิ้น

แม้เขาก็เร็ว แต่ฉีเทียนเห้ารวดเร็วกว่า ใช้ขาเตะจนเขาสลบไป

ทั้งคู่เงียบขรึมกันอีกครั้ง นานมากลั่วเสี่ยวปิงถึงอ้าปาก"แคว้นซีหรงน่าจะมีวัตถุประสงค์อย่างอื่น"

ตอนที่นางถามวัตถุประสงค์ที่วางยาพิษ เดิมทีรู้สึกว่าเป็นแค่คำถามธรรมดา

เพราะวางยาพิษให้ศัตรู นอกจากจะทำให้กำลังของค่ายทหารศัตรูลดลงแล้วยังมีวัตถุประสงค์อะไรได้อีกล่ะ?

แต่สำหรับคนแคว้นซีหรงนี้ คำถามนี้เป็นสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ นี่หมายความว่าเบื้องหลังในการวางยาพิษ น่าจะยังมึแผนร้ายที่ใหญ่กว่านี้อีก

ฉีเทียนเห้าก็เห็นด้วย ถึงแม้แผนร้ายนั้นต้องเฝ้าระวัง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือจะถอนพิษได้หรือเปล่า

ดังนั้นมองไปทางลั่วเสี่ยวปิง ถามว่า"พิษนี้ ยุ่งยากมากใช่ไหม?"

แต่ลั่วเสี่ยวปิงกลับเป็นลักษณะที่มีความมั่นใจในตัวเอง"ข้ามีวี่แววแล้ว"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง