หลังจากซ่งหลิงหลางหลงทางแล้ว ก็รู้สึกว่าองครักษ์เหล่านั้นน่าจะไม่อยู่ไกลจากตัวเอง ดังนั้นเลยไม่กลัว เดินหน้าไปอย่างเดียว จนกว่าม้ามืดยังไม่มีใครเจอนาง ซ่งหลิงหลางกว่าที่จะรู้จักกลัว
ซ่งหลิงหลางที่ทั้งหิวน้ำและเหนื่อย มาถึงริมทะเลสาบ อาศัยกินน้ำอยู่จนถึงตอนเช้า ในที่สุดถึงถูกองครักษ์เหล่านั้นหาเจอ
หากไม่ใช่ว่ารู้จากปากขององครักษ์ว่าที่ที่ตัวเองอยู่ไม่ไกลจากค่ายทหาร ซ่งหลิงหลางจะโกรธแน่นอน
หลังจากฟังการเล่าของซ่งหลิงหลางเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าก็มองหน้าเข้าหากัน หลังจากที่มองความหมายในสายตาของฝ่ายตรงข้ามออกแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าก็เดินออกไปข้างนอกพร้อมกัน
ซ่งหลิงหลาง"เฮ้อ เจ้าไปเลยแบบนี้ แล้วข้าต้องต้องอย่างไร?"
ไม่มีใครตอบคำถามของซ่งหลิงหลาง เพราะมีคนจะดูแลซ่งหลิงหลางเอง ส่วนลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าก็ไปที่ทะเลสาบที่ซ่งหลิงหลางกล่าวมานั้น
ทะเลสาบนั้นชื่อทะเลสาบหมึก เป็นแหล่งกำเนิดน้ำของทั้งค่ายทหาร
แน่นอนว่า พวกเขาก็ไม่ได้ตักน้ำที่ทะเลสาบหมึก เพราะมีลำธารเล็กที่แตกออกมาจากทะเลสาบหมึก ได้ไหลผ่านบริเวณค่ายทหาร เหล่าทหารเลยตัดน้ำในลำธารนั้น
ตามที่ซ่งหลิงหลางพูดมา สิ่งร่วมของนางกับเหล่าทหารในค่ายทหารก็คือน้ำในทะเลสาบหมึก ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าสงสัยอย่างยิ่งว่าทะเลสาบหมึกมีปัญหา
ตอนที่ถึงทะเลสาบหมึกก็ตอนบ่ายแล้ว แสงอาทิตย์จัดจ้า มีสัตว์มากมายกำลังดื่มน้ำอยู่บริเวณทะเลสาบหมึก
ลั่วเสี่ยวปิงมองฉีเทียนเห้าทีหนึ่ง ฉีเทียนเห้ารู้ความหมายของนาง สักครู่หนึ่งก็จับสัตว์หลายตัวมา
ลั่วเสี่ยวปิงทำการตรวจสอบสัตว์หลายตัวนั้น ไม่มีปัญหาอะไร เลยปล่อยสัตว์เหล่านั้นไป
จากนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็มาถึงบริเวณต้นกำเนิดของน้ำ ตักน้ำขึ้นมาบางส่วนทำการตรวจสอบ ยังคงไม่พบปัญหาใดๆ
เหมือนเงื่อนไขถึงที่นี่ก็ขาดไป
แต่ฉีเทียนเห้าและลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้คิดจะกลับในเวลานี้
พวกเขาน่าจะลืมสังเกตอะไรไป
ทั้งสองคนล้วนไม่คิดจะกลับ เลยจุดกองไฟ ล่าสัตว์ตัวหนึ่งแล้วนำมาปิ้งกิน
กินอาหารเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงก็เริ่มครุ่นคิด ฉีเทียนเห้าก็ไม่ได้รบกวนลั่วเสี่ยวปิง ค่อยๆใช้วิชาตัวเบาเดินสังเกตไปรอบๆ อยากจะดูว่ามีที่ไหนที่พลาดไปหรือเปล่า
แต่ว่าเดินสังเกตมานานมาก ฉีเทียนเห้าก็ยังคงไม่ได้สังเกตอะไร ก็เลยต้องกลับมาหาลั่วเสี่ยวปิงที่เดิม
รอตอนที่ฉีเทียนเห้ากลับมา ลั่วเสี่ยวปิงก็หยุดการครุ่นคิด
ฉีเทียนเห้าอยากถามลั่วเสี่ยวปิงว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ไหม แต่ป็กลัวจะไปกดดันลั่วเสี่ยวปิง เลยกลืนคำพูดลงไป ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้บอกว่าจะกลับไปฉีเทียนเห้าก็เลยไม่ได้พูด
ทั้งสองคนนั่งอยู่ริมทะเลสาบอย่างเงียบๆ มองทิวทัศน์ของทะเลสาบ ซึ่งถือเป็นทิวที่สวยงามในชายแดน ในเวลาที่ตึงเครียดนี้กว่าจะมีความสงบสุขที่หายาก ทำให้คนลืมโรคของทหารไปชั่วคราว
จนกว่า ตอนที่ท้องฟ้าใกล้จะมืดแล้ว อยู่ๆฉีเทียนเห้าก็ได้ยินการเคลื่อนไหว สายตาเฝ้าระวังขึ้นมา และพาลั่วเสี่ยวปิงซ่อนตัว
สองคนซ่อนอยู่หลังหญ้า ไม่ขยับเลย รออย่างเงียบๆ
ไม่นานก็เห็นเงาหนึ่งแอบปรากฏตัวที่ริมทะเลสาบ
จากมุมมองของลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้า เห็นพอดีว่าเงานั้นกำลังเทอะไรลงทะเลสาบอยู่
ฉวยโอกาสตอนนี้!
ฉีเทียนเห้าบินขึ้นมา จับไปที่เงานั้น
เงานั้นสังเกตถึงอันตราย เลยคิดจะหนีเลย
แต่ฉีเทียนเห้าไม่ให้โอกาสเขา สักครู่หนึ่งเองก็จับทุ่มคนนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้คนนั้นกัดลิ้นตายหรือซ่อนยาพิษในปาก ดังนั้นในตอนที่จับทุ่มคนนั้น ฉีเทียนเห้าเลยหมุนคางของเขาจนคลาดเคลื่อน ท่ามกลางค่ำคืนที่สงบ จึงมีเสียงกรีดร้องส่งมา
ฉีเทียนเห้ากระชากหน้ากากของคนนั้นออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ดูหยาบกร้านกว่าประชาชนในราชวงศ์ต้าชิ่ง และดูผ่านแสงจันทร์ ดวงตาของคนนี้เป็นสีน้ำตาลเหลือง นี่เป็นคนแคว้นซีหรง
ลั่วเสี่ยวปิงเดินออกมาจากหญ้า รับขวดในมือของคนนี้มา และนำมาดม เป็นกลิ่นที่ฉุนมาก จนรู้สึกหายใจไม่ออก
ถึงแม้กลิ่นยังคง แต่ไม่มีอะไรเหลือเลย ลั่วเสี่ยวปิงเลยหยิบขวดมาถึงริมทะเลสาบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...