แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 452

“นายท่าน เป็นนาง เป็นนาง——” ฉวี่ซื่อปิดหน้าร้องไห้ คือความตื่นเต้น และคือความปวดใจ

คือความดีใจ และเสียใจ

เพราะว่า พบกัน กลับอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

เว่ยหยวนหมิงก็ตาแดง จ้องมองลั่วเสี่ยวลั่วเสี่ยวปิง

เขาก็ไม่เคยคิดเลย พบกับหลายสาวแท้ๆของตัวเอง คาดไม่ถึงว่าอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

สำหรับเว่ยเหลียงเฉิง เว่ยเจ๋อเหวิน เว่ยเจ๋อชาว เว่ยเจ๋ออี้ หลายคนนี้ ปกติไม่ว่าจะเป็นนิสัยอย่างไร เย็นชาก็ดี เรียบร้อยก็ดี หรือแปลกไม่เหมือนใครก็แล้ว ในวินาทีนี้เห็นลั้วเสี่ยวปิงที่หน้าตาเหมือนน้องสาวบ้านตัวเองเหมือนแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน ไม่มีใครไม่ตื่นเต้น

เหล่าผู้ชายของตระกูลเว่ย ยกเว้นป้าคนเดียว ความคิดปกติของคนที่รู้เรื่องก็คือหาน้องสาวตัวจริงที่ท่านป้าคลอด คนที่ไม่รู้เรื่องหลายวันนี้ก็รู้เรื่องหมดแล้ว ในใจก็คาดหวังอย่างมาก

แต่ว่า ความคาดหวังแบบนี้สุดท้ายก็ได้รับการยืนยันในสถานการณ์แบบนี้ นี่ทำให้เหล่าผู้ชายของตระกูลเว่ยหดหู่ในใจอย่างมาก จึงทำให้สีหน้าแต่ละอย่างดูแล้วประหลาดเล็กน้อย

ไป๋เสามองดูภาพนี้ ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร

ไป๋เสาในหลายวันนี้ ก็เหมือนกันอาสาสมัครคนหนึ่ง รักษาระเบียบในสวนนี้ แต่วินาทีนี้ เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศไม่เหมือนกัน กลับทำให้ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร

หรือพูดได้ว่า ถ้าหากไม่ใช่คนตระกูลเว่ยเหล่านี้ยืนยันจะทำเช่นนี้ นางก็ไม่ให้พวกเขาวิ่งมาที่นี่ทั้งหมด

อย่างไรเสีย จากสามวันนี้มา ในจวนมีคนรับใช้พบคนติดเชื้อเพิ่มหลายคนแล้ว โรงหมอในเมืองก็มีคนป่วยไปรักษาไม่ขาดสาย กัวหงหยางรู้ว่าล่าช้าไม่ได้ จึงออกคำสั่งปิดเมืองแล้ว

ส่วนในตระกูลเว่ยทั้งหมด การควบคุมแบบนี้ก็ยิ่งเคร่งครัดขึ้น

โดยพื้นฐานแล้ว คนรับใช้ยกเว้นเก็บหนึ่งคนปรนนิบัติข้างกายในห้องนอนของเจ้านายแล้ว ไม่กี่คนไว้ทำอาหารต่างๆ พักอยู่ข้างนอก คนรับใช้คนอื่นๆห้ามออกจากสวนคนรับใช้อย่างเด็ดขาด

สำหรับคนรับใช้ที่ติดเชื้อ ก็ถูกแยกกักตัวรวมกัน ดูแลโดยท่านซุน

ส่วนเจ้านายทั้งหลายถึงแม้ว่าจะทำกิจกรรมได้อย่างอิสระในบริเวณตระกูลเว่ย แต่ว่าสวนของเว่ยเจ๋อฉีห้ามเข้าไปเด็ดขาด

สองวันนี้ เจ้านายทั้งหลายของตระกูลเว่ยก็ทำได้เป็นอย่างดี ไม่ได้เข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว แค่ว่าวันนี้ คนเหล่านี้กลับเหมือนนัดกันไว้แล้ว มากันทั้งหมดเลย และจากการห้ามปรามของนาง ยังไงก็ต้องดูประตูนั้นเปิดออก

ตอนแรกไป๋เสานึกว่าพวกเขามาเพราะเว่ยเจ๋อฉี ตอนนี้เห็นสีหน้าของพวกเขาตอนที่เจอนายหญิง หรือว่า......

ไป๋เสารู้สึกตะลึง จากนั้นสีหน้าก็สงบลง

ลั่วเสี่ยวปิงมองดูคนเหล่านี้ของตระกูลเว่ย มองดูสีหน้าอันตื่นเต้นของพวกเขา พูดตามตรง ไม่ซาบซึ้งนั้นไม่จริงเลย

ยกเว้นคุณปู่และคุณย่าที่มีเวลาอยู่กับตัวเองค่อนข้างน้อย ชาติที่แล้วของเธอ ไม่เคยถูกครอบครัวใส่ใจเลย

ความรู้สึกที่ถูกใส่ใจอย่างกะทันหัน ทำตัวไม่ถูกเลย แต่กลับ ช่างทำให้คนอย่างที่จะโลภแบบนี้ อย่างนี้จริงๆ

ถ้าหาก ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้......

สูดหายใจเข้าอย่างเงียบๆ ลั่วเสี่ยวปิงทำได้เพียงไม่รู้อะไรเลย มองดูคนตระกูลเว่ยทั้งหลายอย่างเรียบเฉย พูดด้วยเสียงเย็นชาเข้มงวด “กลับไปสวนของตัวเองให้หมด คิดว่าโรคระบาดในครั้งนี้เป็นเรื่องล้อเล่นหรืออย่างไร?”

ถึงแม้ว่า เธอศึกษาโรคระบาดในครั้งนี้อยู่ในห้องไม่ได้ออกไป แต่ว่าสถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไรเธอก็ได้ยินไป๋เสาพูดแล้ว

จึงยิ่งเข้มงวดขึ้นมา เรื่องโรคระบาดก็ใกล้ที่จะปิดบังไม่ได้แล้ว ซุนมู่หยางในเวลานี้ก็ออกไปข้างนอกแล้ว และยังแสดงฐานะหมอเทวดามู่หยางของตัวเองออกมา แต่สถานการณ์ข้างนอกก็ไม่ค่อยดี

เป็นเช่นนี้แล้ว เธอก็ต้องวิจัยวิธีการรักษาโรคระบาดนี้ให้เร็วขึ้น

ในเวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่จะใช้อารมณ์ความรู้สึก

หลังจากพูดประโยคนี้จบด้วยความเย็นชา ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่อยากเห็นสีหน้าของคนตระกูลเว่ยแบบนี้ ไม่เห็นแก่ความรู้สึก เสียงดัง “ปัง” ปิดประตูห้อง

และยังพูดอีกประโยค “ไป๋เสา จากนี้ไปนอกจากส่งอาหาร ห้ามให้ใครเข้ามา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง