แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 462

ทั้งสองคนลั่วเสี่ยวปิงกับไป๋เสารีบเร่งฝีเท้า ไม่นานก็ถึงสถานที่ที่เกิดไฟไหม้——หยาเหมิน

เวลานี้กลุ่มควันหนาทึบได้ลอยออกมาจากหยาเหมิน เปลวเพลิงยังคงลุกไหม้อยู่

เวลานี้มือปราบในศาลาว่าการและประชาชนจำนวนมากได้ขนย้ายสิ่งของออกมาไม่หยุด ยังมีคนประคองคนไข้ทีละคนๆ ออกมาจากหยาเหมินอย่างยากลำบาก

ประชาชนเหล่านั้นที่มารอรักษาที่หน้าประตูหยาเหมินตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืนมองเห็นฉากนี้ ล้วนมีสีหน้าหม่นหมอง

ในเวลานี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็เห็นซุนมู่หยางกับหมออาวุโสแบกกล่องยาวิ่งออกมาจากด้านในหยาเหมิน

หมออาวุโสเหล่านั้น ในแววตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ราวกับได้พบเจอเรื่องราวใหญ่โต

ปกติแล้วซุนมู่หยางมักจะสงบนิ่งและไม่แยแสใส่ใจ ในเวลานี้การแสดงออกก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย

ลั่วเสี่ยวปืงเห็นฉากนี้ รู้สึกหัวใจเต้นแรง รีบข้ามผ่านฝูงชน วิ่งเข้าไปข้างหน้า

ซุนมู่หยางมองเห็นลั่วเสี่ยวปิง ก็มีแสงประกายในแววตา แต่ไม่นานเมื่อนึกถึงอะไรขึ้นมาได้ ก็มืดมนลงมาอีกครั้งหนึ่ง

ลั่วเสี่ยวปิงเดินไปตรงหน้าซุนมู่หยาง แล้วเอ่ยถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"

การแสดงออกของซูนมู่หยางเคร่งขรึมขึ้นมา "โกดังสมุนไพรถูกไฟไหม้หมดแล้ว"

คำสั้นๆ ที่รวมเป็นประโยค แต่กลับครอบคลุมข่าวคราวทั้งหมด

ในตอนนี้ที่ในเมืองขาดแคลนยา ขาดแคลนเสบียงอาหาร กลับเกิดไฟไหม้ขึ้น นี่ช่างเป็นข่าวร้ายจริงๆ

แต่ว่าอยู่ๆ ดีๆ ทำไมถึงเกิดไหม้ได้ล่ะ?

ลั่วเสี่ยวปิงสงสัยอยู่ในใจ

อีกทั้ง ไฟไม่ได้ไหม้ที่อื่น แต่เป็นที่โกดังสมุนไพร

เพียงแต่ในไม่ช้าลั่วเสี่ยวปิงก็รู้สึกว่าตนเองอาจจะคิดมากเกินไป เวลานี้ ทุกๆ คนควรจะต่อสู้กับโรคระบาดไปด้วยกัน จะมีใครที่แอบลงมือในช่วงที่ต่อสู้กับโรคระบาดอย่างนี้ด้วยหรือ

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้เข้าไปด้านในหยาเหมิน เวลานี้นางเข้าไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่กลับยังสร้างปัญหาเพิ่มอีก

แต่นอกเรื่องก็คือนอกเรื่อง ลั่วเสี่ยวปิงจึงเริ่มพูดคุยกับซุนมู่หยางเกี่ยวกับผลงานของซุนมู่หยางในช่วงหลายวันมานี้

เดิมทีแล้ว หลายวันมานี้ซุนมู่หยางใช้ใบสั่งยาโรคระบาดของตระกูลซุน และสามารถควบคุมอาการของคนไข้ไปไม่น้อย

เพียงแต่ว่าคนไข้มากมายขนาดนั้น ใบสั่งยาของตระกูลซุนอย่างไรเสียก็มีประสิทธิผลที่จำกัด ดังนั้นซุนมู่หยางจึงได้คิดค้นเกี่ยวกับใบสั่งยาใหม่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีใบสั่งยาใหม่ร่วมกับใบสั่งยาของหมอท่านอื่นๆ ที่มีใช้ได้ผลกับโรคระบาดครั้งนี้อยู่บ้าง แต่ประสิทธิผลนั้นมีจำกัด และรับมือได้เพียงอาการที่ไม่รุนแรงเท่านั้น

นอกจากนี้ ซุนมู่หยางยังได้รวบรวมประสบการณ์ของตนเอง ตามอาการขอบคนไข้ จึงได้ศึกษาและทำการผลิตใบสั่งยาขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีประสิทธิผลต่ออาการบางส่วนด้วยเช่นกัน

ความสามารถในการเสนอยาสามสูตรในระยะเวาอันสั้นแบบนี้ ความสามารถของซุนมู่หยางได้รับการพิสูจน์และยืนยัน จึงไม่มีใครสงสัยในฐานะที่เขาเป็นหมอเทวดา

หมอเกือบทั้งหมดปฏิบัติตามคำแนะนำของซุนมู่หยาง แต่ซุนมู่หยางรู้ดีว่า ผลงานของตนเองแน่นอนว่าเทียบกับลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

และในเมื่อลั่วเสี่ยวปิงมาในเวลานี้ นั่นแสดงให้เห็นว่านางมีวิธีรับมือกับโรคระบาดแล้ว

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ซุนมู่หยางจึงเอ่ยถามขึ้นว่า "เจ้าจัดทำใบสั่งยาเพื่อรักษาโรคได้แล้วใช่หรือไม่?"

สำหรับทักษะในการผลิตยาของลั่วเสี่ยวปิง ซุนมู่หยางไม่มีข้อสงสัยเลยแม้แต่น้อย

เป็นไปตามคาด ซุนมู่หยางเห็นลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า

เวลานี้ ท้ายที่สุดก็ถูกไฟมอดไหม้หมดแล้ว

มือปราบกับกัวหงหยางเดินออกมาจากด้านในหยาเหมินอย่างอ่อนระโหยโรยแรง แต่ละคนดูหมดอาลัยตายอยาก

เพียงแต่ว่าเมื่อเดินออกมาเผชิญหน้ากับทุกๆ คน กัวหงหยางก็ฮึกเหิมขึ้นมา กวาดมองไปยังหมอเหล่านั้น "ใครเป็นคนพบไฟก่อน?"

กัวหงหยางรู้แค่ว่ามีหมอคนหนึ่งพบไฟไหม้เท่านั้น ที่เหลือก็ไม่รู้แล้ว

แต่ซุนมู่หยางและลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ยืนอยู่ด้วยกันกับหมอคนอื่นๆ ในเวลานี้ ฉะนั้นกัวหงหยางจึงไม่เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงก็อยู่ด้วย

เวลานี้ หมออู๋เดินออกมาจากในกุ้มหมอ ตรงไปยังกัวหงหยางแล้วคุกเข่าลง ด้วยใบหน้าที่ตำหนิตัวเองและรู้สึกละอายใจ "นายท่าน ข้าเป็นคนพบเห็นก่อนเอง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง