แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 466

มีการพิสูจน์ของเว่ยเจ๋อฉี สุดท้ายเหล่าประชาชนก็เงียบสงบลง ในที่สุดก็มีความหวังในการต่อสู้กับโรคระบาด

เหล่าประชาชนหยุดโวยวายแล้ว เช่นนั้นก็เป็นธรรมดาที่จะเริ่มแบ่งเสบียงอาหาร

เป็นไปไม่ได้ที่คนทั้งหมดจะสามารถกินโจ๊กต้มในหยาเหมิน และไม่สะดวกที่จะรับมันโดยตรงจากจุดนี้ สุดท้ายกัวหงหยางก็ให้ทุกคนกลับไป ถึงเวลานั้นคนในหยาเหมินจะส่งเสบียงอาหาร ไปตามทะเบียนบ้าน แต่ละคนในเมืองจะได้รับแจกเสบียงอาหาร250กรัมต่อวัน

สำหรับคนเหล่านั้นที่ไม่มีแม้กระทั่งที่อยู่ ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนทำอาหาร แต่ยังคงสามารถกินโจ๊กในหยาเหมินเพื่อบรรเทาความหิวได้

หลังจากได้ยินการจัดสรรเช่นนี้ บรรดาประชาชนก็จากไป

และอีกด้านหนึ่ง ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้มีสีหน้าที่ดีอะไรต่อเว่ยเจ๋อฉี

และพาเว่ยเจ๋อฉีไปที่มุมโดยตรง แล้วกล่าวด้วยเสียงที่เคร่งขรึมว่า "คิดว่าโรคของเจ้าหายดีแล้ว ก็จะไม่กลับมาเป็นอีกแล้วใช่ไหม?"

เว่ยเจ๋อฉีใจฝ่อ ส่ายหัว

"ยื่นมือออกมา" ลั่วเสี่ยวปิงยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึม

เว่ยเจ๋อฉีเหมือนกับลูกหมาน้อย ยื่นมือของตนเองออกมาอย่างเชื่อฟัง

แน่นอนว่า เขาคิดว่าลั่วเสี่ยวปิงต้องการจะตีเขา

แต่เมื่อมือของลั่วเสี่ยวปิงจับชีพจรของเขา เว่ยเจ๋อฉีจึงรู้ว่าตนเองคิดมากไป

พี่สาวอ่อนโยนจิตใจดีงามเช่นนี้ จะตีตนเองได้อย่างไร เขาคิดมากไปจริงๆ ให้ตายเถิด

ลั่วเสี่ยวปิงพิจารณาชีพจร พบว่าลักษณะชีพจรของเว่ยเจ๋อฉียังใช้ได้ แต่สีหน้ายังคงไม่บรรเทา จึงหยิบน้ำแร่วิญญาณออกมาแล้วมอบให้เว่ยเจ๋อฉี แล้วกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า "คราวหน้าห้ามออกมาตามอำเภอใจนะ ได้ยินไหม!"

สีหน้าท่าทางของลั่วเสี่ยวปิงเอาจิงเอาจังอย่างมาก ทำให้เว่ยเจ๋อฉียิ่งประหม่า และรีบพยักหน้า

ลั่วเสี่ยวปิงส่งสายตามองเว่ยเจ๋อฉีจากไป จนกระทั่งภาพเงาของเว่ยเจ๋อฉีหายไป สีหน้าของลั่วเสี่ยวปิงก็ยังไม่สู้ดีนัก

เมื่อลั่วเสี่ยวปิงกลับมาถึงหยาเหมิน หมอทั้งผู้ใหญ่และเด็กก็มารายล้อมนาง สอบถามนางเกี่ยวกับใบสั่งยา

แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่เป็นการแอบดูใบสั่งยา แต่ต้องการที่จะนำมาค้นคว้าวิจัย

ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้คือความสามัคคีและความร่วมมือของหมอทุกคน การให้ใบสั่งยาสำหรับลั่วเสี่ยวปิงแล้วไม่ได้มีอะไรไม่เหมาะสม ฉะนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงนำใบสั่งยาทั้งสองที่ตนเองค้นคว้าวิจัยออกมาได้เขียนลงไป

บรรดาหมอผลัดกันอ่านใบสั่งยาที่ลั่วเสี่ยวปิงเขียน สีหน้าที่นิ่งเฉยของแต่ละคนก็เปลี่ยนเป็นไม่นิ่งเฉย

"นี่มัน——ยอดเยี่ยมมาก!"

"ฉันไม่รู้เลยว่า สมุนไพรเหล่านี้สามารถจัดเข้าชุดกันได้แบบนี้ อีกทั้งยังไม่มีผิดพลาดตกหล่น มีชีวิตมาจนอายุมากปูนนี้แล้ว นับถือจริงๆ

มีใบสั่งยา แล้วก็มีสมุนไพร ในขณะที่ร่วมหารือกันไม่นาน ทุกคนก็ต้องการที่จะเริ่มต้มยาให้ผู้ป่วย

ถึงแม้ทุกคนจะรู้เกี่ยวกับใบสั่งยาเหลียนฮัวชิงเวินวาน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ฉะนั้นทุกคนจึงเลือกที่จะต้ม

เพราะว่าพวกเขาต่างก็ใช้สมุนไพรธรรมดาทั่วไป แน่นอนว่าประสิทธิผลก็ไม่ได้ดีเท่ากับสมุนไพรเหล่านั้นของตระกูลเว่ย เพียงแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เห็นว่าผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้นได้

สองวันต่อมา กัวหงหยางก็ได้รับสมุนไพรที่ประชาชนมอบให้จำนวนไม่น้อย แล้วก็ได้รับสมุนไพรบางส่วนจากทางด้านร้านสมุนไพรอีกด้วย

แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้

เพียงแต่ลั่วเสี่ยวปิงแอบส่งเสบียงอยู่ ซึ่งก็น่าจะพอประคองชีวิตไปได้

ในช่วงเวลานี้ ไม่รู้มีใครปล่อยข่าวว่าเบื้องบนสั่งเผาเมือง เมืองหลินอาน ผู้คนเกิดความตระหนกหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง

และในเวลานี้ ในหมู่บ้านต้าซิง

เช้านี้ในหมู่บ้านไม่มีความรื่นเริงเหมือนแต่ก่อน เวลานี้ได้เงียบสงบอย่างมาก ทุกคนล้วนปิดประตูไม่ออกไปข้างนอก กระทั่งเสียงหมาเห่าก็ไม่มี

เพราะใครต่างก็รู้ดีว่า ในเมืองหลินอานเกิดโรคระบาด

เล่ากันว่า ในตำบลก็มีคนเป็นแล้วด้วย ฉะนั้นทุกคนก็ยิ่งไม่กล้าออกจากบ้าน โรงงานของลั่วเสี่ยวปิงก็ต้องหยุดทำงาน ในโรงเรียนก็ไม่มีคน

และในเวลานี้ ณ เรือนฉี

"ท่านพี่ พี่ว่าท่านลุงอั้นชีอั้นปาจะหาท่านพ่อและท่านแม่พบหรือไม่?" เล่อเล่อมีสีหน้าที่เป็นกังวล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง