แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 50

ในเวลานั้นเอง ลั่วเสี่ยวปิงก็กำลังยืนถือไม้พายแอบฟังอยู่นอกประตู

ในตอนแรกนางพบว่าพวกเด็กๆได้หายไปแล้ว ดังนั้นนางก็เลยรีบมาดูสักหน่อย แล้วนางก็บังเอิญได้ยินคำพูดที่เล่อเล่อถามฉีเทียนเห้าเข้าพอดี

เมื่อเห็นว่าฉีเทียนเห้าสามารถพูดแก้ขัดไปได้แล้ว และมันก็ไม่ได้ฉีกออกไปจากคำโกหกของนางเลยลั่วเสี่ยวปิงจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาในที่สุด

เพื่อเห็นแก่ที่ผู้ชายคนนี้รู้จักเอาตัวรอดขนาดนี้ นางจึงตัดสินใจที่จะไม่ลงไม้ลงมือทำอะไรตอนที่กำลังแก้พิษให้เขาแล้ว

ไม่ผิด ลั่วเสี่ยวปิงยังคงไม่เป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจสำหรับ ฉีเทียนเห้าจริงๆ

และความรู้สึกที่ฉีเทียนเห้ามีให้กับลั่วเสี่ยวปิงนั้นก็อันตรายเกินไปเช่นเดียวกัน ดังนั้นแม้ว่านางจะรับปากว่าจะแก้พิษให้เขา แต่ในตอนแรกนางก็มีแผนที่จะลงไม้ลงมือกับเขาสักเล็กน้อยในขณะที่กำลังแก้พิษอยู่เหมือนกัน

ไม่ใช่ว่านางไร้ศีลธรรม เพียงแต่นางไม่อยากประมาทไว้ใจคนจนมากเกินไปเท่านั้น แม้ว่านางต้องจะช่วยชีวิตคน แต่นางก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของพวกนางสามแม่ลูกเป็นหลัก

แต่ตอนนี้นางกลับเปลี่ยนความคิดไปเสียแล้ว

คนที่สามารถสร้างเรื่องโกหกให้กับเด็กๆฟังโดยมีเจตนาที่ดีทั้งๆที่ตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ ไม่อาจเป็นคนที่ชั่วช้าสาระเลวได้อย่างแน่นอน และนางมักจะมองคนไม่ผิดเสมอ

พอคิดถึงตรงนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ถือไม้พายเดินกลับไปที่ห้องครัวแล้ว ราวกับว่านางไม่เคยมาที่นี่มาก่อนอย่างไรอย่างนั้น

สิ่งที่ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ก็คือ ตอนที่นางเดินจากไป ฉีเทียนเห้าก็ได้เหลือบมองที่ประตูอย่างเหมือนกับว่าจะมีอะไรแต่ก็ไม่มี

อาหารกลางวันที่ลั่วเสี่ยวปิงทำค่อนข้างง่าย อาหารสองน้ำซุปหนึ่งพร้อมด้วยข้าวสวย

ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงตะโกนบอกให้เด็กทั้งสองคนไปล้างมือเตรียมรับประทานอาหาร นางก็ถือชามใหญ่ๆมาหนึ่งชาม พอตักข้าวใส่ในชามแล้วนางก็เอาเข้าไปในห้อง

ลั่วเสี่ยวปิงวางอาหารไว้ข้างๆ แล้วช่วยประคอง ฉีเทียนเห้าให้ลุกขึ้นมานั่ง

ฉีเทียนเห้าไม่ได้กินอาหารมาหลายมื้อ ในขณะนี้เขาจึงรู้สึกหิวมากจริงๆ

เดิมทีเขาไม่มีความคิดที่จะกินอะไรเลย ที่จริงแล้วหลังจากที่โดนยาพิษเข้าไปประสาทสัมผัสในการรับรสของเขาก็มีปัญหาขึ้นมา มันทำให้ไม่ว่าเขาจะกินอะไรเข้าไปรสชาติก็ไม่ต่างกันเลย ขอเพียงแค่มันสามารถทำให้เขาอิ่มท้องได้ก็พอแล้ว

แต่เมื่อฉีเทียนเห้า นำอาหารคำแรกเข้าปาก เขาก็ต้องตกตะลึงไปทั้งตัว และภายในดวงตาที่กำลังมองดูอาหารที่อยู่ในชามเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เมื่อเห็นว่า ฉีเทียนเห้า กินอาหารเข้าไปหนึ่งคำแล้วก็ไม่ได้กินเข้าไปอีก ลั่วเสี่ยวปิงจึงเข้าผิด แล้วขมวดคิ้วไปมา “บ้านข้ามีแต่อาหารง่ายๆ เจ้าก็กินๆไปเถอะ”

ฉีเทียนเห้ายกสายตาขึ้นไปมอง ลั่วเสี่ยวปิงทำปากขยุกขยิกไปมาสองสามครั้ง และในที่สุดเขาก็พูดเพียงประโยคเดียวว่า “ก็ดีเหมือนกัน”

พอพูดจบ ฉีเทียนเห้าก็ก้มหน้ารับประทานอาหารต่อไป แต่ในดวงตาที่ลู่ลงเล็กน้อยนั้นกลับมีความตื่นเต้นที่ยากจะปิดบังอยู่ในนั้นด้วย

บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะสามารถแก้พิษที่อยู่ในร่างกายของเขาได้จริงๆก็ได้

ในขณะที่ฉีเทียนเห้า กำลังคิดอยู่นั้น มุมปากของเขาก็กระตุกขึ้นมาเบาๆโดยไม่ได้ตั้งใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเฝ้ารอคอยอนาคตมากขึ้นอีกเล็กน้อย

ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้เลยว่าในใจของฉีเทียนเห้ากำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็นว่าฉีเทียนเห้ากำลังรับประทานอาหารด้วยตัวเอง นางก็ออกจากห้องไป

ในเวลานั้นเองเด็กทั้งสองคนก็ได้ล้างมือเสร็จแล้ว และกำลังนั่งรอแม่ของตัวเองมากินข้าวด้วยกันอยู่ตรงนั้นอย่างเชื่อฟัง

แม้ว่าอาหารหนึ่งมื้อนี้จะเรียบง่าย แต่สามคนแม่ลูกก็รับประทานอาหารอย่างมีความสุขมาก

หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วจางซิ่งฮวาก็มาตามที่สัญญาเอาไว้ เนื่องจากว่ามีฉีเทียนเห้าอยู่ในห้อง จางซิ่งฮวาจึงต้องปูหญ้าคาจำนวนหนึ่งอยู่ในลานบ้าน แล้วก็ทำผ้าห่มอยู่ในลานบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการสงสัย

เมื่อจางซิ่งฮวามาแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ออกไปข้างนอกอย่างสบายใจ

ลั่วเสี่ยวปิงในอดีตไม่ค่อยได้ไปเดินเล่นในหมู่บ้านสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าเรื่องที่ลั่วเสี่ยวปิงก่อขึ้นมาคราวก่อนนั้นจะไม่เล็กเลยก็ตาม แต่เนื่องจากว่าเป็นตอนพลบค่ำ ดังนั้นใครหลายคนจึงไม่ได้พบเห็นด้วยตาของพวกเขาเอง ภายในใจของพวกเขาก็เลยเต็มไปด้วยความอยากรู้เกี่ยวกับลั่วเสี่ยวปิง.

เมื่อเห็นว่า ลั่วเสี่ยวปิงเข้ามาในหมู่บ้านในเวลานี้ ทุกสายตาก็ล้วนแต่จับจ้องไปที่ตัวของลั่วเสี่ยวปิง ราวกับว่าอยากจะเห็นลั่วเสี่ยวปิงออกมาจากดอกไม้อย่างไรอย่างนั้น

สำหรับสายตาเหล่านี้ลั่วเสี่ยวปิงได้ทำการกรองออกไปแล้วโดยตรง และไม่สนใจผู้คนเหล่านั้นเลย แล้วลั่วเสี่ยวปิงก็เดินตรงไปยังบ้านของผู้ใหญ่บ้าน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง