แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 572

เวลานี้ คนที่นั่งยองๆอยู่ด้านหน้าประตูคือจีเหวินจุน

แม้เมื่อสมัยนั้นจีเหวินจุนมาเมืองหลวงกับนาง แต่หลังจากมาเมืองหลวง เพราะฐานะทางสังคมของจีเหวินจุน พวกนางเลยเจอกันน้อย

เพราะพ่อของจีเหวินจุน เป็นแม่ทัพที่มีความสามารถของฮ่องเต้

หลายปีมานี้ ฮ่องเต้ซ่งหยุนจางไม่เชื่อใจใครอย่างแท้จริงเลย

เมื่อก่อน ตอนจีซิงยี่อยู่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ซ่งหยุนจางยังวางใจให้ครอบครัวของนางติดตามอยู่ จีซิงยี่เป็นคนอย่างไร ซ่งหยุนจางรู้ดี

แต่ตอนนี้ แม้จีซิงยี่จะถูกพระองค์ย้ายไปอยู่ที่ชายแดนตะวันตกเพื่อรับเอาทหารที่ฉีเทียนเห้านำมา แต่สุดท้ายพระองค์ยังกังวลใจว่าทั้งสองคนจะร่วมมือกัน เพราะฉะนั้นเมื่อรู้จีเหวินจุนเข้ามาเมืองหลวง ซ่งหยุนจางเลยสั่งให้คนไปพาจีเหวินจุนมาเพื่อต้อนรับดูแล จัดการหาที่พักให้

ในช่วงหนึ่งนั้น ทำให้เหล่าคุณหนูแม่นางจำนวนไม่น้อยอิจฉา

แน่นอน ยังมีคนคาดเดา ว่าฝ่าบาทกระทำแบบนี้คือต้องการเอาจีเหวินจุนเข้าวังหลังแล้ว

ฝ่าบาทต้องการให้จีเหวินจุนเข้าวังหลังหรือไม่นั้นตอนนี้ซ่งฉงปิงไม่รู้หรอก แต่นางรู้ว่าจีเหวินจุนได้รับการปรนนิบัติดูแลเอาใจใส่เช่นนี้ ไม่ใช่การได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท แต่มันเป็นการตบตาเรื่องการจับตาดูและบีบบังคับ

ซ่งฉงปิงอยากไปหาจีเหวินจุน แต่เกรงว่าจะกระทบถึงจีเหวินจุน จึงสั่งให้คนไปไถ่ถาม เมื่อรู้ว่าจีเหวินจุนสบายดี เลยไม่ได้ไปรบกวน คิดเพียงว่ารอให้ทางด้านของนางมั่นคงแน่วแน่ก่อนค่อยไปหานาง แต่ทว่ากลับคิดไม่ถึงว่าจะเจอจีเหวินจุนที่หน้าประตูแห่งนี้เสียแล้ว

อีกทั้งดูแล้วเหมือนจีเหวินจุนมีเรื่องที่คิดหนักไร้ซึ่งความช่วยเหลือ

และเวลานี้จีเหวินจุนกำลังนั่งยองๆเอามือกอดเข่าอยู่ทางด้านนั้น พอมองดูแล้วเหมือนเจอเรื่องทุกข์ใจอะไรมา แม้กระทั่งซ่งฉงปิงเดินมาทางนางนางยังไม่รู้เลย

“เจ้าเป็นอะไรหรือ?”ซ่งฉงปิงกล่าวถาม

จีเหวินจุนได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย เลยเงยหน้าด้วยความตื่นเต้น และตอนที่นางพบว่าได้เจอคนที่นางอยากเจอแล้ว ใบหน้าของจีเหวินจุนเต็มไปด้วยความดีใจ กล่าวว่า “พี่เสี่ยวปิง——”

ตอนที่ตะโกนเรียกซ่งฉงปิง จีเหวินจุนได้ยืนขึ้นแล้ว

แต่เมื่อตะโกนเรียกแล้ว จีเหวินจุนถึงได้สติกลับมา ว่าตอนนี้ฐานะของซ่งฉงปิงไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ด้วยเหตุนี้เลยนึกเรื่องที่แม่นมในพระราชวังสอนนางเกี่ยวกับกฎเกณฑ์เมื่อไม่กี่วันมานี้ขึ้นมาได้ นางหันไปทำความเคารพซ่งฉงปิง “เหวินจุนน้อมเคารพจวิ้นจู่ จวิ้นจู่——”

“พอแล้ว——”เห็นจีเหวินจุนทำความเคารพ ซ่งฉงปิงเห็นแล้วปวดหัว นางค่อนข้างคุ้นชินกับท่าทางเมื่อก่อนของจีเหวินจุน กระตือรือร้นคึกคักน่ารักเป็นคนง่ายๆ ด้วยเหตุนี้เลยกล่าวว่า “เมื่อก่อนเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้นเถอะ อย่าเปลี่ยนเพราะว่าข้าเป็นลูกของใครเลย——”

พูดแล้ว หยุดไปพักหนึ่ง ซ่งฉงปิงเลิกคิ้วขึ้นกล่าวว่า “อีกอย่าง เจ้าไม่ใช่น้องสาวข้าหรือ?”

จีเหวินจุนได้ยินแล้วถึงกับชะงักงัน

เพราะเมื่อก่อนเป็นนางที่ตามเรียกพี่เสี่ยวปิงว่าพี่ แต่พี่เสี่ยวปิงไม่ได้ยอมรับโดยตรง นางนึกว่าตัวเองรู้สึกเพียงคนเดียวมาโดยตลอด

อีกอย่าง ตอนนี้พี่เสี่ยวปิงคือจวิ้นจู่ แม้ฐานะทางสังคมนางไม่ได้ต่ำต้อย แต่ยังแย่กว่าพี่เสี่ยวปิงอยู่

แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า พี่เสี่ยวปิงจะยอมรับว่าตัวเองเป็นน้องสาวของนางด้วยตัวเองเลย

ช่างมีความสุขเหลือเกิน!

นัยน์ตาจีเหวินจุนเปล่งประกาย เฉิดฉายอร่ามตา

ซ่งฉงปิงเห็น เลยยิ้มกล่าวว่า “ในเมื่อมาแล้ว เข้าไปนั่งด้านในกันเถอะนะ”

และไม่ได้ถามจีเหวินจุนว่าเพราะเหตุใดถึงมานั่งยองๆด้านนอกนี้

หากนางอยากพูด แน่นอนว่าจะพูดเอง

จีเหวินจุนไม่ได้ปฏิเสธ

ซ่งฉงปิงพานางเข้าไปด้านในจวนอ๋องอี้ว แต่เพิ่งจะเข้าไป ทั้งสองคนก็เจอเข้ากับเว่ยหวินซี

เป็นครั้งแรกที่เว่ยหวินซีเห็นลูกสาวของตัวเองพาสหายมา แปลกประหลาดใจอย่างมาก แล้วก็ตื่นเต้นด้วย เพราะรู้สึกว่าในที่สุดลูกสาวของตัวเองก็มีสหายแล้ว

แต่ยิ่งมอง เว่ยหวินซียิ่งรู้สึกว่าสหายของลูกสาวตัวเองช่างคุ้นหน้าคุ้นตานัก

“เจ้าคือ——ลูกสาวของเมิ่งจูหรือ?”

เมื่อก่อน เว่ยหวินซีกับจงเมิ่งจูเคยเป็นสหายกัน แต่เมื่อสมัยนั้นหลังจากจงเมิ่งจูแต่งงานกับจีซิงยี่แล้ว ก็อยู่ที่เขตชายแดนกับจีซิงยี่ตลอด ทั้งสองเลยไม่ได้เจอกันอีก

ช่วงก่อนหน้านี้ นางก็ได้ยินว่าลูกสาวของแม่ทัพจีกลับมาที่เมืองหลวง อีกทั้งพักอาศัยอยู่ด้านในพระราชวัง เมื่อรู้ว่าก่อนหน้านี้นางใช้ชีวิตอยู่ดีมีสุขแล้ว ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง