“อย่านะ อย่า...”
“พวกเรากิน ท่านอย่าทิ้งเลย...”
“ของเหล่านั้นอร่อยออก ทิ้งไปคงน่าเสียดายแย่”
เด็กๆ เหล่านั้นอดไม่ได้และเอ่ยขึ้นมาแทบจะทันที
ถ้าทิ้งของกินอร่อยๆ ไปแบบนั้นคงจะเสียเปล่าแย่
พวกเขาไม่เคยนึกฝันถึงของอร่อยๆ แบบนั้นด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้นหมอเทวดาผู้มีพระคุณยังเป็นคนทำกับมือ พี่สาวที่อยู่ข้างๆ หมอเทวดาผู้มีประคุณยังบอกว่าหมอเทวดาไม่ได้เข้าครัวทำอาหารบ่อยๆ ด้วย
เมื่อเด็กเล็กเอ่ยปาก เด็กโตย่อมไม่อาจเล่นแง่ต่อไปอีก
“ขอบคุณท่านหมอเทวดา...”
เด็กโตสองสามคนรวมถึงพวกฟางอิงที่อยู่ข้างในต่างก็หันไปโค้งคำนับซ่งฉงปิง
เมื่อเด็กเล็กๆ เห็นดังนั้นจึงก้มศีรษะตาม
หลังจากแสดงความเคารพแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้เข้ามาแย่งข้าวกันทันที
ฟางอิงก้าวไปข้างหน้าและหยิบถ้วยใบใหญ่ใบหนึ่ง ตักข้าวถ้วยที่มีเนื้อมากที่สุดออกมาวางลงข้างๆ อย่างทะนุถนอม
จากนั้นจึงหยิบอีกถ้วยหนึ่งมาตักซุป
ไป๋ซู่อดถามไม่ได้ว่า “เจ้าเก็บพวกนี้ไว้ทำไมรึ แล้วยังมีข้าวกับแป้งหมี่อีก”
ไป๋ซู่คิดว่าฟางอิงจะเก็บไว้กินอีกมื้อ
ฟางอิงได้ยินดังนั้นจึงส่ายหน้า “พี่หวู่เจียงไปทำงาน ยังไม่ได้กิน”
ไป๋ซู่ชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อได้ยินดังนั้น จากนั้นจึงมองเด็กคนอื่นๆ และเห็นว่าพวกเขาทุกคนพยักหน้า นั่นเองจึงรู้ว่าเด็กๆ เหล่านี้ต่างก็คิดแบบเดียวกัน
ทันใดนั้นไป๋ซู่ก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมาอีกครั้ง
หวู่เจียงเลี้ยงเด็กๆ เหล่านี้อย่างไม่เห็นแก่ตัว และเด็กๆ เหล่านี้ก็ห่วงใยหวู่เจียงมากเหมือนกัน
ความดีของหวู่เจียงได้รับความเชื่อใจของพวกเขาเป็นสิ่งตอบแทน เด็กๆ เหล่านี้ล้วนซาบซึ้งในบุญคุณและมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
พวกเขาไม่มีทางลืมหวู่เจียงเพราะความหิวของตนเอง
ในตอนนี้เองที่ไป๋ซู่เพิ่งจะเข้าใจจริงๆ ว่าเพราะเหตุใดจวิ้นจู่จึงยอมเสียเวลาไปกับเด็กๆ เหล่านี้
นั่นเพราะ... เด็กๆ เหล่านี้สมควรได้รับมัน
ในไม่ช้าเด็กๆ ก็เข้าแถวกันเองอย่างมีสำนึกและเริ่มกินข้าว
ส่วนของข้าว ฟางอิงเป็นคนตักทุกถ้วยวางไว้ข้างๆ ตวงให้ทุกคนได้ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน
ซุป ทุกคนเริ่มกินหลังจากเตรียมข้าว
ส่วนแป้งนาบ พวกเขาคิดเหมือนกันว่าควรจะเก็บไว้กินตอนเย็น
โชคดีที่อาหารมีเพียงพอ
ตอนที่กินข้าว สีหน้าของเด็กๆ เหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยความศรัทธา ราวกับสิ่งที่พวกเขากินไม่ใช่ข้าว แต่เป็นสมบัติล้ำค่าของโลก
หลังจากกินเข้าไปคำแรก เห็นได้ชัดว่าเด็กๆ เหล่านี้นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
หรือไม่ก็... กำลังตะลึงงัน
ตะลึงกับรสชาติที่อร่อยจนยากจะถอนตัว
ในข้าวอบมันกำลังพอดี รสชาติกลมกล่อมลงตัว รสชาติของเนื้อก็ลงตัว อร่อยมากๆ
แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าอร่อย นั่นคือสิ่งที่คิด
พอกินแล้วก็รู้สึกว่าอร่อย นั่นคือความจริงแท้ อร่อยจนแทบอยากจะเก็บรสชาติความอร่อยเหล่านี้ไว้ตลอดกาล
ณ เวลานี้ อาหารมื้อนี้ได้ประทับลงไปในหัวใจของเด็กๆ อย่างลึกล้ำ
ต่อให้พวกเขาจะแก่ขึ้น ต่อให้ชีวิตของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปมากมาย แต่สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่มีอาหารมื้อไหนจะอร่อยไปกว่าข้าวอบมันฝรั่งมื้อนี้
แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องในอนาคต
เด็กๆ เหล่านี้ต่างมีน้ำตาคลอและกินอาหารจนหมดด้วยความระมัดระวัง จากนั้นจึงเริ่มดื่มซุป
พวกเขาไม่เคยดื่มซุปเนื้อมาก่อน สำหรับพวกเขา ความทรงจำเดียวเกี่ยวกับซุปก็คือซุปผัก
เป็นซุปที่มีผักกาดขาวหรือไม่ก็ผักป่าแค่ไม่กี่ก้าน
ทันทีที่ซุปกระดูกเข้าปาก พวกเขาจึงรู้สึกเหมือนได้เปิดประตูสู่โลกใบใหม่
วินาทีนี้เองที่พวกเขาเพิ่งจะตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วซุปมีรสชาติดีขนาดนี้
อร่อยมาก!
อร่อยจนเด็กๆ ส่วนใหญ่น้ำตาไหลออกมา
ดื่มซุปนั้นต่อไปทั้งน้ำตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...