แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 651

ไตร่ตรองอยู่นาน ซ่งหยุนจางหาคำพูดที่เหมาะสมไม่ได้ ดังนั้นจึงพูดได้เพียง “น้องสะใภ้พูดถูก เจียเล่อสามารถไปรักษา ก็เป็นการช่วยเหลือข้าอย่างมากแล้ว ถ้าหากรักษาไม่หาย แน่นอนว่าข้าก็ไม่กล่าวโทษ”

คำพูดก็พูดถึงขั้นนี้แล้ว แน่นอนว่าซ่งฉงปิงไม่สามารถปฏิเสธได้

ยิ่งกว่านั้น ในเมื่อไม่กล่าวโทษ เช่นนั้นรักษาให้เป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับนางแล้ว

ในเมื่อตอบตกลงแล้ว ก็ควรไปปฏิบัติทันที

ไปตระกูลจีเว่ยหวินซีก็ไม่ได้ยืนยันจะไปด้วยแล้ว ส่วนซ่งฉงปิงไปตระกูลจี กลับมีหลี่กงกงตามไปด้วย

หลี่กงกงรู้จักสำรวจสีหน้าแสดงหาความได้เปรียบหลีกเลี่ยงความเสียเปรียบ เพราะฉะนั้นพอเข้าไปในตระกูลจี หลี่กงกงก็ยืนอยู่ในสวนอย่างเจียมตัว ไม่ได้ตามเข้าไป

ซ่งฉงปิงเข้าไปในห้องของจีเหวินจุนลำพัง ในห้องจงเมิ่งจูเฝ้าอยู่ข้างเตียงของจีเหวินจุน ตอนที่มองเห็นซ่งฉงปิงมา จงเมิ่งจูที่หน้าตาดูหดหู่ตลอดแววตาสดใส แต่เพราะหวาดกลัวอะไรอยู่ จึงไม่ได้มีกิริยาต่อ

“น้าจงไม่ต้องกังวล หลี่กงกงเข้าใจ จึงไม่ได้ตามเข้ามา”

จงเมิ่งจูฟังแล้ว ก็โล่งอก รีบลุกขึ้นมา มองซ่งฉงปิงด้วยสีหน้ากังวล “เสี่ยวปิง เจ้าดูหน่อย จุนเอ๋อร์แบบนี้จะเป็นอะไรไหม?”

ขณะนี้จีเหวินจุนนอนอยู่บนเตียงเหมือนดั่งคนนอนหลับ ผื่นแดงบนตัวตอนนี้ก็หายไปมองไม่เห็นแล้ว สีหน้าซีดขาวดูน่าตกใจ มองดูแล้วสภาพอาการป่วยหนักอย่างมาก

ต้องเผชิญใบหน้าเช่นนี้ทุกวัน มิน่าจงเมิ่งจูถึงเป็นห่วง

ถ้าหากเรื่องจีเหวินจูไม่ใด้ทำด้วยตัวเอง ซ่งฉงปิงเองก็ต้องคิดว่าจีเหวินจุนอาการป่วยหนักแล้ว

แต่ว่า เพื่อไม่ให้จงเมิ่งจูเป็นห่วง ซ่งฉงปิงก็เข้าไปนั่งอยู่ข้างเตียง ช่วยจีเหวินจุนจับชีพจร

เพียงครู่เดียว ซ่งฉงปิงก็ปล่อยมือออก พูดว่า “น้าจงไม่ต้องเป็นห่วง เหวินจุนไม่เป็นไร”

พอฟังซ่งฉงปิงพูดว่าไม่เป็นไร ในที่สุดจงเมิ่งจูก็โล่งใจ

“ช่างขอบใจเจ้าจริงๆ เสี่ยวปิง แต่ว่าจุนเอ๋อร์นอนอยู่แบบนี้ตลอดก็ไม่ใช่วิธี นี่ขั้นต่อไปต้องทำอย่างไร?”

ความจริง ตอนแรกจงเมิ่งจูไม่รู้ว่าจีเหวินจุนกินยาแล้วถึงเป็นเช่นนี้ ตอนนั้นช่างทำให้จงเมิ่งจูเป็นห่วงอยู่ช่วงหนึ่ง

ถึงแม้ว่าตอนนี้มีลูกชายแล้ว แต่อย่างไรเสียลูกสาวก็เลี้ยงจนโตมากับมือ จงเมิ่งจูจะไปทนได้อย่างไรที่คนแก่ต้องส่งคนรุ่นหลังจากไป?

โชคดีที่ หลังจากความเสียใจในตอนแรกและหลอกคนรอบข้างได้แล้ว ซ่งฉงปิงก็ให้คนมารายงานจงเมิ่งจูเป็นอันดับแรก มิเช่นนั้นจงเมิ่งจูก็อดทนกับช่วงเวลานี้ไม่ไหว

ระยะเวลานี้ จงเมิ่งจูคิดอะไรมากมาย ก็รู้ว่าลูกสาวนอนแบบนี้ตลอดก็ไม่ใช่วิธี และไปถามซ่งฉงปิงก็ไม่ได้

ตอนนี้ซ่งฉงปิงมาแล้ว แน่นอนว่าจงเมิ่งจูก็ต้องถามให้ชัดเจน

ซ่งฉงปิงไม่ได้ตอบคำพูดของจงเมิ่งจูทันที แต่หยิบกระปุกออกจากแขนเสื้อก่อนกระปุกหนึ่ง ป้อนให้จีเหวินจุนอย่างระมัดระวัง

ถึงแม้ว่ายานั้นสามารถสร้างภาพลวงตาเหมือนป่วยหนัก ตอนนี้จีเหวินจุนก็เข้าสู่อาการสลบ และนอนหลับแบบนี้ต่อไป ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก

เพราะว่ายานั้น จะลดทำลายพลังงานของร่างกายจีเหวินจุนในระดับหนึ่ง

แต่ หลายวันเช่นนี้ หากไม่สนใจอะไรเลย จีเหวินจุนตื่นมาต้องหิวจนกินวัวได้ตัวหนึ่งแล้ว

เพราะฉะนั้นฉวยโอกาสนี้ นางช่วยเพิ่มพลังงานร่างกายให้กับจีเหวินจุนที่นอนสลบอยู่ แบบนี้เวลาตื่นมาจะได้ไม่รู้สึกทรมานมาก

หลังจากที่จีเหวินจุนดื่มน้ำเพิ่มพลังงานที่เพิ่มน้ำแร่วิญญาณเข้าไปแล้ว ซ่งฉงปิงถึงลุกขึ้นมองไปที่จงเมิ่งจู “การทรมานของเหวินจุน จะสูญเปล่าไม่ได้........”

ซ่งฉงปิงเดินออกจากห้องนอน จงเมิ่งจูไม่ได้ตามออกมา

หลี่กงกงมองไม่เห็นจงเมิ่งจูก็ไม่ได้มีความคิดเห็นอะไร เพราะว่าสถานการณ์ตอนนี้ของจงเมิ่งจูก็สามารถเข้าใจได้

ถึงแม้เขาจะเป็นขันที แต่ก็เข้าใจดี ครอบครัวใครเจอเรื่องแบบนี้ ก็ไม่มีอารมณ์อะไรมาส่งแขก

“เจียเล่อจวิ้จู่ ไม่ทราบว่าคุณหนูจุนอาการเป็นอย่างไร? รักษาได้หรือไม่?” หลี่กงกงถาม

เขาไม่ลืมเป้าหมายที่ตัวเองถูกส่งมา

เป็นขันทีในวังโดยเฉพาะอยู่รอบกายฮ่องเต้ โดยเฉพาะสังเกตสีหน้าและคำพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง