แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 673

เรื่องกระจายออกไปกว้างขวางขึ้น

เหล่าประชาชนถูกชักนำความคิดไปเรื่อยๆ ประชาชนที่ขวางอยู่หน้าจวนอ๋องอวี้ก็มากขึ้นเรื่อยๆ เสียงที่ตะโกนให้ซ่งฉงปิงไปแต่งงานนั้น ดังจนสามารถทะลุผ่านจวนอ๋องอวี้ที่กว้างขวางจนกระทั่งเข้าหูของเหล่าเจ้านายในจวน

เมื่อเทียบกับความยุ่งเหยิงข้างนอก คนในห้องดูใจเย็นกว่าเยอะ

กล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้ากล่องนั้น ถูกวางอยู่ตอนนั้นอย่างเงียบๆ

และในเวลานี้ ซ่งฉงปิงถึงรู้ว่า เสด็จพ่อของตัวเอง เทพสงครามในเมื่อก่อน ถึงควรเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ที่ฮ่องเต้องค์ก่อนตั้งไว้

แต่ในตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนป่วยหนัก เว่ยหยุนซีโดนจับ ซ่งหยุนดาถูกห้ามเอาไว้

ซ่งหยุนจางให้คนฝากคำพูดให้ซ่งหยุนดาโดยตรงว่า ถ้าอยากให้เว่ยหยุนซีไม่เป็นอะไร ก็ห้ามกลับเมืองหลวง

ถึงแม้ตอนนั้นฮ่องเต้องค์ก่อนให้ซ่งหยุนดารีบกลับเมือง แต่ซ่งหยุนดาก็ไม่ได้กลับ

แน่นอนว่า ตอนที่ถูกคนห้ามไว้ ซ่งหยุนดาก็พยายามหาเว่ยหยุนซี แต่ในที่สุดก็หาไม่เจอ

ต่อมาถึงรู้ว่าเว่ยหยุนซีอยู่ใต้โลงศพของฮ่องเต้องค์ก่อน

เห็นได้ชัดว่า ซ่งหยุนจางไร้ยางอายขนาดไหน

รอตอนที่ซ่งหยุนดากลับถึงเมืองหลวง ทุกอย่างก็เกือบจะเคลียร์เสร็จ ซ่งหยุนจางกลายเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่

ซ่งหยุนจางที่กลายเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่นั้น ทำตัวเป็นพี่ที่เอ็นดูน้องชายต่อหน้าผู้คน

แต่ในทางลับ กลับบังคับให้ซ่งหยุนดาต้องคืนอำนาจในการควบคุมทหาร แถมยังบังคับให้ซ่งหยุนดาต้องยอมทิ้งศักดินาที่ดิน เป็นอ๋องที่ไม่มีอำนาจในมือในเมืองหลวง

พูดตรงๆก็คือจะเฝ้าดูซ่งหยุนดา กลัวว่าถ้าซ่งหยุนดาถูกปล่อยออกจากเมืองหลวง จะเป็นใหญ่เป็นโตในพื้นที่หนึ่ง แล้วส่งผลกระทบต่อราชบัลลังก์ของเขา

สิ่งเหล่านี้ ซ่งหยุนดาล้วนรู้อย่างชัดเจน

แต่สำหรับซ่งหยุนดา เว่ยหยุนซีสำคัญกว่าราชบังลังก์ตั้งเยอะ

ซ่งหยุนดาไม่อยากได้รับอำนาจ แต่เสียคนรักไป

แต่ที่ซ่งหยุนจางขึ้นเป็นฮ่องเต้ เพราะเป็นมกุฎราชกุมาร น้อยมากที่จะมีคนรู้ว่า ฮ่องเต้องค์ก่อนได้มีพระพินัยกรรมมอบราชบัลลังก์ไว้

คนอื่นไม่ทราบ แต่ซ่งหยุนจางรู้อย่างชัดเจน

ดังนั้นหลายปีนี้ ซ่งหยุนจางระมัดระวังซ่งหยุนดาอยู่ตลอดเวลา แถมยังอยากจะหาเจอพระพินัยกรรมมอบราชบัลลังก์ของฮ่องเต้องค์ก่อน พร้อมทำร้ายมัน

แค่ว่าไม่พบอะไรเลย

พูดตรงๆ ซ่งฉงปิงซาบซึ้งใจจริงๆ

ในสมัยนี้ ราชบัลลังก์เป็นสิ่งที่น่าดึงดูดคนมาก ไม่มีใครไม่อยากได้ตำแหน่งนั้นหรอก

แต่เสด็จพ่อของนาง กลับยอมทิ้งราชบัลลังก์เพราะเสด็จแม่

ต้องยอมรับว่า เสด็จพ่อจริงใจต่อเสด็จแม่

แต่ตอนนี้ทุกคนนั่วอยู่ที่นี่ เป็นการปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี

เพราะในเวลานี้ อาจไม่จำเป็นต้องเชิญพระพินัยกรรมมอบราชบัลลังก์ ขอให้ฉีเทียนเห้าปรากฏตัวในสามวัน ก็ได้เช่นกัน

แต่ปัญหาในตอนนี้ ไม่ใช่ว่าจะแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ของซ่งฉงปิงอย่างไร แต่คือทำอย่างไรถึงสามารถให้ฮ่องเต้พ้นจากตำแหน่ง

เพราะซ่งหยุนจางคนนี้ ขี้ระแวงมากขึ้นเรื่อยๆ และการกระทำของเขาก็บ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ หลายครั้งที่คำนึงถึงความชอบส่วนตัว แต่ไม่รู้จักคำนึงถึงส่วนรวม

ถ้าฮ่องเต้แบบนี้ทรงครองตำแหน่งอีกต่อไป ต้าชิ่งคงต้องล่มสลาย

ไม่มีใครอยากเป็นคนสิ้นชาติหรอก

แต่ตอนที่ทุกคนกำลังนั่งปรึกษาอยู่ ไม่มีใครคิดได้ว่า ฮองเฮาได้สั่งคนมา

แน่นอนว่า มาจากหลังประตู ซึ่งกล่าวว่าจะพบซ่งฉงปิง

ซ่งฉงปิงนึกถึงอ๋องคังที่ยังอยู่ในจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง เลยให้คนพาคนของฮองเฮาเข้ามา

คนที่มาคือองครักษ์ในวังหลวง แต่เห็นได้ชัดว่าน่าจะเป็นองครักษ์ส่วนตัวของฮองเฮา

เดิมทีองครักษ์คนนั้นนึกว่าตัวเองจะถูกพาไปพบซ่งฉงปิงเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่า พอถึงสวนของจวนอ๋องอวี้ กลับได้เจอคนทั้งครอบครัวของจวนอ๋องอวี้

ทันใดนั้น องครักษ์ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี

ทุกคนล้วนสังเกตเห็นลักษณะที่ลังเลใจของเขา แต่ซ่งฉงปิงกลับไม่คิดจะคำนึงถึงความรู้สึกขององครักษ์คนนั้น เพียงพูดอย่างราบเรียบ"มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเลย"

คนที่อยู่ในนี้ล้วนเป็นคนในครอบครัวของนาง ไม่มีอะไรที่พวกเขาฟังไม่ได้หรอก

และนางเดาว่า สาเหตุที่องครักษ์คนนั้นมาในตอนนี้ ก็เพราะเรื่องของอ๋องคังนั่นแหละ

"แต่ว่า......"

องครักษ์คนนั้นยังมีความลังเลเล็กน้อย

"ไม่ต้องมาพูดแต่ว่า หากไม่อยากพูด เจ้าก็กลับไปเถอะ"ซ่งฉงปิงไม่ไว้หน้าเขาเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง