แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 672

ตอนที่ทุกคนล้วนตึงเครียดอยู่ อยู่ๆข้างนอกก็มีคนเข้ามารายงาย

"ฝ่าบาท"

ถึงแม้ซ่งหยุนจางไม่ค่อยสบายใจ แต่ยังไงก็โล่งใจลง

เขาไม่อยากยอมรับว่า จริงๆแล้วตัวเองมีความกลัวซ่งหยุนดา

ซ่งหยุนจางระบายความไม่พอใจให้องครักษ์ที่มาโดยตรง"เรื่องอะไรมาโวยวายที่ท้องพระโรง"

องครักษ์กลัวจนคุกเข่าโดยตรง ไม่คำนึงถึงว่าตัวเองถึงหน้าซ่งหยุนจางแล้วหรือยัง พูดโดยตรงว่า"ฝ่าบาทขอประทานโทษพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยมีเรื่องจะรายงานพ่ะย่ะค่ะ"

อยู่ต่อหน้าเหล่าขุนนาง ซ่งหยุนจางก็ไม่ถึงขั้นที่ไม่ให้องครักษ์พูดรายงาน ดังนั้นเลยถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง"เรื่องอะไร?"

องครักษ์หยิบจดหมายลับซองหนึ่งออกมาจากอ้อมอก"นี่เป็นจดหมายลับที่ส่งมาจากแคว้นเป่ยอัน เชิญฝ่าบาททรงอ่านพ่ะย่ะค่ะ"

แคว้นเป่ยอัน?

เวลานี้แคว้นเป่ยอันส่งจดหมายลับอะไรมา?

ทุกคนล้วนเกิดความสงสัยในใจ

แม้กระทั่งฮ่องเต้ซ่งหยุนจางก็เกิดความสงสัย

แต่ซ่งหยุนจางก็ยังให้ขันทีใหญ่ข้างๆไปเอาจดหมายลับซองนั้นมา

ซ่งหยุนจางเปิดจดหมายลับออก หลังจากดูจบ สีหน้าของเขาก็ดูซับซ้อนยากที่จะอธิบาย

เงียบขรึมไปสักครู่หนึ่ง ซ่งหยุนจางถึงโบกมือให้ขันทีใหญ่

ขันทีเดินหน้าขึ้นไป ใช้ถาดไปรับจดหมายลับ

จากนั้น ซ่งหยุนจางอ้าปาก"เอาไปให้น้องชายของข้าดูสิ"

ตอนที่พูดเช่นนี้ มือของซ่งหยุนจางสั่นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตื่นเต้นเกินไปหรืออย่างอื่น

โดยรวมคือ คนที่กล้าเงยหน้ามองฮ่องเต้ในเวลานี้ ล้วนมองไม่ออกว่าสีหน้าของฮ่องเต้บ่งบอกถึงอะไร

แต่สิ่งที่คาดเดาได้คือ ฮ่องเต้นำจดหมายลับให้อ๋องอวี้ซ่งหยุนดาดู น่าจะเกี่ยวข้องกับอ๋องอวี้

แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เหล่าขุนนางเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา

ส่วนซ่งหยุนดาหลังจากที่อ่านจดหมายลับที่ขันทียื่นมาแล้ว สีหน้าค่อนข้างจะไม่ดี

ตามด้วยเสียง"ปัง"ซ่งหยุนดาโยนจดหมายลับไปบนถาดที่ขันทีใหญ่ถืออยู่

เหล่าขุนนางเห็นเช่นนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยมากขึ้น

ในจดหมายลับของแคว้นเป่ยอันเขียนอะไรอยู่?ทำให้อ๋องอวี้โกรธขนาดนี้?

เหล่าขุนนางเพิ่งคิดแบบนี้ ก็ได้ยินฮ่องเต้พูด

"ทีนี้เจ้าจะมาโทษเสด็จพี่ไม่ได้แล้วนะ"ซ่งหยุนจางพูด

เกิดอะไรขึ้น?

เหตุใดถึงโทษฮ่องเต้ไม่ได้?

"ตอนนี้แคว้นเป่ยอัน ก็จะให้เจียเล่อไปแต่งงานผูกสัมพันธ์ไมตรีเช่นกัน ไม่งั้นก็จะส่งกองทัพทำสงครามกับต้าชิ่ง ถึงแม้น้องชายสามารถนำกองทัพไปทำสงครามกับซีหรง แล้วยังสามารถแยกร่างไปทำสงครามกับแคว้นเป่ยอันได้หรือ?เรื่องนี้เจ้าต้องพิจารณาให้ดี เพราะเกี่ยวข้องกับประเทศชาติ"

ในฐานะที่เป็นเจ้าของประเทศ ซ่งหยุนจางไม่มีความไร้ยางอายหรือกังวลแม้แต่นิด นับบัดนี้ในใจของเขามีแต่ยินดีปรีดาในความทุกข์ของซ่งหยุนดา

เจ้าโปรดปรานลูกสาวของเจ้าไม่ใช่หรือ?

สถานการณ์ตอนนี้ ลูกสาวของเจ้าต้องไปแต่งงานเด็ดขาด เขาจะลองดูว่า เขาจะจัดการปัญหานี้ยังไง

ตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เขาบังคับเขาแล้ว แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเด็ดขาด

ซ่งหยุนจางรู้สึกดีใจมาก

ส่วนเหล่าขุนนาง ต่างแสดงความคิดเห็นต่างๆนาๆ

อะไรนะ?

ในจดหมายลับของแคว้นเป่ยอัน เขียนไว้ว่าให้เจียเล่อจวิ้นจู่ไปแต่งงานผูกสัมพันธ์ไมตรี?

ถ้าไม่ไปแต่งาน ยังจะทำสงครามกับต้าชิ่งหรือ?

เป็นไปได้อย่างไร?

ขุนนางบางคนที่ขี้กลัวก็รีบเดินหน้าขึ้น พูดว่า"ฝ่าบาท ทำสงครามกับซีหรงมานานขนาดนี้แล้วยังไม่ได้ผล หากเป่ยอันมาโจมตีอีก ต้าชิ่งคงจะรับไม่ไหวพ่ะย่ะค่ะ"

"ใช่สิ ฝ่าบาท ไม่สามารถให้ต้าชิ่งกลายเป็นสถานการณ์ที่ถูกสองประเทศโจมตีขนาบ"

ขุนนางคุยกันทีละประโยค ล้วนเห็นด้วยที่จะให้ซ่งฉงปิงไปแต่งงาน เพราะไม่อยากทำสงคราม

ในเวลานี้พวกเขาลืมไปอย่างสมบูรณ์เลยว่าซ่งฉงปิงมีเพียงคนเดียว ไม่สามารถไปแต่งงานสองประเทศได้

แต่ถึงแม้จำไม่ได้ก็ไม่มีผลอะไรต่างกัน

สำหรับพวกเขา แค่ตามใจประเทศใดประเทศหนึ่ง ก็ถือว่าได้รับผลประโยชน์

ต้องยอมรับว่า คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่กลัวตาย

หรือว่า ถ้าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกอื่น ก็เป็นเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย

แถมยังมีคนโน้มน้าวให้อ๋องอวี้โดยตรง"อ๋องอวี้ เพื่อราชวงศ์ต้าชิ่ง ท่านก็ยอมรับเรื่องส่งไปแต่งงานละกัน?"

"ใช่ไง อ๋องอวี้ เป็นเพียงจวิ้นจู่คนหนึ่งเท่านั้น ใช้จวิ้นจู่คนเดียวสามารถแลกความสันติสุขของทุกคน นั่นก็เป็นความโชคของจวิ้นจู่......"

มีหลายคนคัดค้านคำพูดนี้เช่นกัน

"ในเมื่อเจ้าบอกว่าเป็นความโชค ทำไมไม่ให้ลูกสาวของเจ้าไปแต่งงานผูกสัมพันธ์ไมตรีล่ะ?"

"ใช่ไง นำโชคลาภที่ดีเช่นนี้ให้ลูกสาวของเจ้าดีไหม?"

ขุนนางคนนั้นถูกเถียงจนหน้าซีดขวา ตอบแบบไม่พอใจ"ข้า......คนเขาก็ไม่ได้อยากได้ลูกสาวของข้าเลย......"

เห็นได้ชัดว่า ความหมายของเขาคือ ถ้าคนเขาอยากได้ลูกสาวของเขา เขาก็ยอม

อย่างที่คิด มีบางคนไม่เคยที่จะตระหนักถึงความสำคัญของผู้หญิงเลย

ในมุมมองของพวกเขา ผู้หญิงสมควรที่จะดูแลลูกในบ้าน หรือสามารถนำไปแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ได้เลย

และในเวลานี้ มีคนเห็นด้วย แน่นอนก็จะมีคนปฏิเสธ

เพราะบางคนไม่อยากต้องพึ่งผู้หญิงไปแลกเปลี่ยนอะไรมา พวกเขามีความหยิ่งในตัว

แต่คนเหล่านี้เป็นจำนวนน้อย

แต่ไม่ว่าจะเผชิญกับเสียงแบบไหน ซ่งหยุนดาก็ไม่ได้ให้คำตอบ เงียบขรึมอยู่ตลอด ก้มหน้าลงเล็กน้อย มองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้

แต่คนที่มีแววตาที่ดีก็มองออกว่า ตอนนี้อ๋องอวี้อารมณ์แย่มาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง