แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 676

ประตูของจวนอ๋องอวี้ถูกเปิดออกจากข้างใน

ซ่งฉงปิงเพิ่งเดินออกมาจากจวนอ๋อง ก็ถูกทหารกลุ่มหนึ่งล้อมรอบ

แน่นอนว่า ฉีเทียนเห้าที่ใส่หน้ากากก็ถูกล้อมรอบเช่นกัน

ซ่งฉงปิงไม่ได้มองทหารที่ล้อมรอบตัวเอง แต่กลับมองไปที่แม่ทัพคนนั้น

แม่ทัพคนนั้นถูกซ่งฉงปิงมองเช่นนั้น สีหน้าก็เย็นชาเล็กน้อย

ในเมืองหลวงมีคนปกป้องซ่งฉงปิง ก็ต้องมีคนรังเกียจซ่งฉงปิง

แม่ทัพคนนี้ก็รังเกียจซ่งฉงปิงยิ่งนัก

เขารู้สึกว่า ซ่งฉงปิงไม่รู้จักอยู่ในขอบเขตของผู้หญิง วันๆรู้แต่ออกหน้าออกตา ทำให้เมืองหลวงยุ่งเหยิงไปหมด

"เจียเล่อจวิ้นจู่ ข้าได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ มาจับตัวเจ่อเล่อจวิ้นจู่ เจ่อเล่อจวิ้นจู่โปรดให้ความร่วมมือด้วย"

ซ่งฉงปิงได้ยินเช่นนี้ ถามกลับ"หากขเาไม่ให้ความร่วมมือล่ะ"

แม่ทัพคนนั้นได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็บึ้งตึง

"หากจวิ้นจู่ไม่ให้ความร่วมมือ คนในครอบครัวคงต้องถูกเกี่ยวโยงเข้ามาด้วย"

คำพูดนี้เป็นการขู่ชัดๆ

จากนั้น ซ่งฉงปิงแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ"เจ้าหมายความว่า หากข้าไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าก็จะลงมือต่อจวนอ๋องอวี้อย่างงั้นหรือ?"

"ข้า......"

"เจ้าช่างกล้านะ กล้ามาปลอมพระราชโองการ"อยู่ๆซ่งฉงปิงก็หาเรื่องเขา

แม่ทัพคนนั้นได้ยินเช่นนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตามีความไม่พอใจเล็กน้อย และมีความลนลานด้วย"ข้าน้อยได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้มา จะว่าปลอมพระราชโองการอย่างไรได้"

แม่ทัพคนนี้ชื่อว่าหลินเวย

ตอนนี้หลินเวยรู้สึกโกรธขรึมยิ่งนัก

หากถูกกล่าวหาว่าตัวเองปลอมพระราชโองการ งั้นก็จบแล้วสิ?

หลินเวยรู้สึกรังเกียจซ่งฉงปิงมากขึ้น สีหน้าก็แย่กว่าเดิม

แต่ซ่งฉงปิงไม่สนว่าหลินเวยคิดอะไรอยู่ในใจ เพียงพูดอย่างเย็นชา"ในเมื่อเจ้าไม่ได้ปบอมพระราชโองการ งั้นก็คือความหมายของฮ่องเต้แล้วสิ"

หลินเวย"ใช่ขอรับ"

"เสด็จพ่อของข้าเคยปกป้องที่ดินของต้าชิ่ง และตอนนี้ก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่ฮ่องเต้กลับคิดจะหาเรื่องจวนอ๋องอวี้โดยไร้เหตุผล ดูเหมือนว่าฮ่องเต้อยาดจะขจัดจวนอ๋องอวี้ไปตั้งนานแล้ว"ซ่งฉงปิงสรุป

หลินเวยได้ยินเช่นนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปใหญ่เลย

ซ่งฉงปิงพูดความจริงออกมาจริงๆ

แต่ปัญหาคือ ความจริงนี้อยู่ได้แต่ในใจของฮ่องเต้ ไม่สามารถเปิดเผยออกมาต่อผู้คน

หลินเวยทองไปทิศทางของประชาชนโดยจิตสำนึก

อย่างที่คิด ได้เห็นสีหน้าที่กระวนกระวายใจของเหล่าประชาชน

สีหน้าของหลินเวยแย่ไปเลย

เรื่องมันขยายถึงขั้นนี้แล้ว หากฮ่องเต้รู้เข้า ตัวเองคง......

สีหน้ามืดทึบ หลินเวยต้องไปทำซ่งฉงปิงด้วยสายตาที่แหลมคม"จวิ้นจู่พูดเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย?หรือว่าจวิ้นจู่จะใช้คำพูดที่เพ้อเจ้อเหล่านี้มาดึงดูดความสนใจไปเรื่อยอื่น?ถึงแม้เป็นเช่นนี้ ก็แก้ไขความจริงที่จวิ้นจู่ลอบสังหารอ๋องคังและคังหวังเฟยไม่ได้"

"ข้าน้อยเพียงแค่ได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้มาจับตัวฆาตกร ไม่มีเป้าหมายอื่นใด"หลินเวยเน้น

ถึงแม้ฮ่องเต้บอกไว้ว่า หากคนในจวนอ๋องอวี้คัดค้าน ก็สามารถลงมือต่อคนของจวนอ๋องอวี้

แต่แนวคิดต่างกัน ผลที่ได้ก็จะต่างกันออกไป

ฮ่องเต้มีหลากหลายวิธีในการขู่ให้จวนอ๋องอวี้ลงมือ วิธีใดๆล้วนใช้ได้ เว้นแต่ไม่สามารถเปิดเผยเป้าหมายออกมาอย่างชัดเจน

"อ้อ......"ซ่งฉงปิงลากเสียงยาวๆเสียงหนึ่ง"ในเมื่อมาจับฆาตกร เหตุใดถึงได้มาจับข้าล่ะ?"

ซ่งฉงปิงแกล้งทำเป็นโง่ต่อ ทำเป็นว่าไม่ได้ยินเสียงตะโกนของหลินเวยในเมื่อกี้นี้

หลินเวยทำหน้าบึ้งตึง"มีคนเห็นคนของจวิ้นจู่จุดไฟ เรื่องนี้จวิ้นจู่น่าสงสัยมาก"

ซ่งฉงปิง"มีความสงสัยก็มาจับข้า?แล้วหลักฐานกับพยานล่ะ?หากไม่มีหลักฐานและพยาน ถ้าข้าพูดว่าเจ้าเป็นคนกระทำเรื่องนี้ เจ้าจะยอมรับหรือไม่?"

สีหน้าของหลินเวยแย่มาก เหมือนคิดไม่ถึงว่าซ่งฉงปิงจะเถียงเก่งขนาดนี้

แต่ดีที่เขาเอาพยานมาด้วย

ดังนั้น หลินเวยพูดอย่างเย็นชา"พาคนขึ้นมาสิ"

ไม่นาน ก็มีทหารพาองครักษ์คนหนึ่งขึ้นมา

ซ่งฉงปิงมองไปทีหนึ่ง ไม่รู้จัก

ก็ใช่แล้ว องครักษ์ของจวนอ๋องมีอยู่มากมาย หากนางรู้จักทุกคน ก็ช่างว่างนัก?

แถมคนหนึ่งเป็นใครยังไม่แน่เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง