จางเฉินซื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิงเช่นนี้ ก็ไม่ได้ปฏิเสธอีก เพียงพูดขึ้นว่า “สิ่งของเล็กน้อยของข้านั้น เจ้ายังจะเก็บมาไว้ในใจ หลายวันมานี้เจ้าทำให้ครอบครัวของข้ามีรายได้ไม่น้อยแล้ว ต่อไปไม่ต้องพูดแบบนี้อีก”
จางเฉินซื่อคิดว่า ที่ผ่านมาตนเองช่วยลั่วเสี่ยวปิงได้อย่างจำกัด
ต่อให้ช่วยอะไรบ้าง หลายวันมานี้ลั่วเสี่ยวปิงทำให้พวกเขามีรายได้ ก็สามารถทดแทนกันได้แล้ว นางไม่อยากให้ลั่วเสี่ยวปิงจำสิ่งที่ตนเองทำพวกนั้นไว้ในใจ จนกลายเป็นภาระของนาง
อีกอย่าง เพราะก่อนหน้านี้ในบ้านมีทั้งเด็กมีคนแก่ นางก็ไม่กล้าช่วยอะไรได้มาก หากเสี่ยวปิงเห็นเป็นบุญคุณจนเกินไป กลับจะทำให้นางรู้สึกละอายใจ
สำหรับคำพูดของจางเฉินซื่อ ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ตอบอะไร คำนวณค่าแรงวันนี้ให้กับพวกจางเฉินซื่อ แล้วก็ส่งพวกเขาทั้งสามแม่ลูกไปถึงประตู
หลังจากส่งของเสร็จแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ตามพวกเด็กๆมาล้างมือทานอาหารค่ำ
ของฉีเทียนเห้า ลั่วเสี่ยวปิงให้ลูกทั้งสองคนเอาเข้าไปให้ กินเค้กพายไข่ที่อร่อยอย่างไม่เคยกินมาก่อน ในใจฉีเทียนเห้าเต็มอิ่มอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากทานเสร็จแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงอาบน้ำให้ลูกทั้งสองคนเสร็จ แล้วก็เริ่มต้มยาให้กับฉีเทียนเห้า
ได้ยินลูกทั้งสองกับฉีเทียนเห้าคุยหัวเราะกันอยู่ในห้อง คงไม่ออกมาสักพัก ลั่วเสี่ยวปิงจึงแอบไปตรงมุม แล้วเข้าไปในห้วงอากาศ
หลายวันนี้เพราะงานยุ่งมากจึงไม่มีโอกาสเข้ามา ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงไม่ได้เข้ามาในห้วงอากาศ ไม่รู้ว่าตอนนี้ สถานการณ์ในห้วงอากาศเป็นไงบ้าง
ถึงแม้จะคิดไว้แล้วแต่แรก แต่เมื่อลั่วเสี่ยวปิงเห็นภาพในห้วงอากาศแล้วจริงๆ ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
เมล็ดโสมที่หว่านไม่เพียงหยั่งรากและแตกหน่อเท่านั้น ยังล้วนออกดอกเบ่งบานมีผล สามารถเก็บเกี่ยวเมล็ดได้อีกแล้ว และรากโสม ดูใหญ่โตทุกอัน ถือเป็นโสมที่ดีที่สุด
กล้วยไม้สกุลหวายก็เติบโตเป็นพวงๆ สมุนไพรทั่วไปเหล่านั้นเขียวชอุ่มราวกับวัชพืช
ส่วนผลพริกเหล่านั้น ก็ล้วนแดงสุกเต็มที่ แออัดแขวนอยู่บนกิ่งไม้
แต่ลั่วเสี่ยวปิงพบว่า สิ่งของเหล่านี้หยุดเจริญเติบโตเมื่อขึ้นเต็มที่ดินสี่แปลงนี้ ไม่มีความแตกแยกโดยอัตโนมัติ และไม่ได้เติบโตต่อไป
ลั่วเสี่ยวปิงมีความคิดคาดเดาขึ้นมาอย่างหนึ่ง ดึงสมุนไพรที่นางต้องการออกมา เมื่อมองดูดินที่ปลูกสมุนไพรตรงนั้นว่างเปล่าแล้ว ก็ออกมาจากในห้วงอากาศ
ช่วงเวลาที่อยู่ในห้วงอากาศแปบหนึ่ง ข้างนอกก็ผ่านไปเพียงแปบเดียว เสียงภายในห้องยังไม่เงียบ ลั่วเสี่ยวปิงจึงต้มยาต่อ
รอหลังจากต้มยาเสร็จแล้วก็ยกมาให้ฉีเทียนเห้าดื่ม ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงพาลูกปูพื้นนอน
ภายใต้ความมืด ฉีเทียนเห้ารู้สึกได้ถึงหลังจากที่ตนเองทานยาแล้ว พิษในร่างกายลดลงไปทีละน้อย นอกจากนี้แล้ว เขายังรู้สึกว่าเลือดลมของตนเองไหลเวียนสบายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั่วทั้งร่างกายราวกับมีพลังอย่างใช้ไม่หมด
ฉีเทียนเห้าคิดว่า บางทีพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมา เขาก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระแล้วก็ได้
เมื่อกำลังคิดอยู่เช่นนี้ ฉีเทียนเห้าก็หลับตาลง
เช้าวันที่สอง จางเอ้อหลางมาถึงอย่างตรงเวลา แต่ว่าครั้งนี้ ลั่วเสี่ยวปิงกลับไม่คิดที่จะไปในเมือง แต่ให้จางเอ้อหลางไปส่งของในเมืองเอง
“พี่เสี่ยวปิง ข้า...ข้าทำไม่ได้.....” จางเอ้อหลางแสดงสีหน้าตื่นเต้น
เขาไม่เคยทักทายกับคนประเภทอย่างเถ้าแก่ฉินตามลำพังมาก่อน ในใจกลัวอย่างมาก
“ได้หรือไม่ได้ เจ้าไปก็รู้แล้ว” ลั่วเสี่ยวปิงไม่สะทกสะท้านกับท่าทีขลาดกลัวของจางเอ้อหลาง
คนอย่างจางเอ้อหลาง นางเห็นมาเยอะ ไม่ลองไม่บีบบังคับ ก็จะไม่มีวันรู้ว่าตนเองสามารถเดินไปได้ไกลแค่ไหน
นางอยากที่จะสร้างอาณาจักรธุรกิจของตนเองในยุคสมัยนี้ จางเอ้อหลางคือคนแรกที่นางเตรียมจะฝึกฝน ไม่เคยคิดที่จะให้เขาช่วยขับรถเกวียนเท่านั้น
จางเอ้อหลางเห็นลั่วเสี่ยวปิงไม่สะทกสะท้านกับความตื่นเต้นและความขลาดกลัวของเขา สีหน้าก็หดหู่ลง
“พี่เสี่ยวปิง จะให้ข้าไปเองจริงหรือ?” จางเอ้อหลางยังไม่ตายใจ อยากจะถามยืนยันอีกครั้ง
ลั่วเสี่ยวปิงไม่ตอบจางเอ้อหลาง หันหลังให้กับจางเอ้อหลาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...