ราชโองการของอดีตฮ่องเต้?
อดีตฮ่องเต้องค์ไหน?
หรือว่าฝ่าบาทจะ...
เหล่าขุนนางตกตะลึง
เนื่องจากอดีตฮ่องเต้สวรรคตยี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่มีใครนึกถึงอดีตฮ่องเต้ตัวจริง ดังนั้นพอฉีเทียนเห้าพูดถึงอดีตฮ่องเต้เหล่าขุนนางจึงนึกว่าเขาปลงพระชนม์ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันของพวกเขาไปแล้ว
แต่ขณะที่คำว่าปลงพระชนม์วนเวียนอยู่ในสมองของขุนนางทุกคน ฉีเทียนเห้าก็เปิดกล่องออก
ราชโองการที่หยิบออกมา แม้จะมีสีทองแต่กลับดูเก่ามาก
นี่...หากเป็นราชโองการของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ต้องไม่เก่าขนาดนี้แน่
นั่นก็คือฮ่องเต้เหวินซุ่นเมื่อก่อนหน้านี้?
ราชโองการของฮ่องเต้เหวินซุ่น?
ราชโองการของฮ่องเต้เหวินซุ่นในตอนนั้นมิใช่ให้องค์ชายใหญ่สืบทอดตำแหน่งต่อหรือ?
ทันใดนั้นทุกคนก็นึกถึงเรื่องที่อ๋องอวี้ถูกฮ่องเต้องค์ปัจจุบันวางแผนทำร้ายต่างๆ นานาก่อนที่ฮ่องเต้เหวินซุ่นจะสวรรคตในหนังสือยอมรับโทษ
จากนั้นคำศัพท์ใหม่ก็ปรากฏในสมองของขุนนางทุกคน ชิงบัลลังก์
หรือว่า บัลลังก์ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันได้มาอย่างนี้?
ขณะที่ทุกคนกำลังคาดเดากันอยู่ ฉีเทียนเห้าก็หยิบราชโองการของอดีตฮ่องเต้ออกมา เปล่งเสียงอ่าน “ข้ารู้ดีว่าตนป่วยอยู่ได้อีกไม่นาน บุตรในฮองเฮาจิตใจไม่สะอาด ไร้คุณธรรมความสามารถ ยากจะรับภาระใหญ่ ระหว่างล้มหมอนนอนเสื่อ ข้าคิดแล้วคิดอีก จำเป็นต้องแต่ตั้งผู้มีความสามารถ บุตรหยุนดา คุณสมบัติเพียบพร้อม เฉกเช่นเดียวกับข้า สามารถแบกรับภาระอันใหญ่หลวง ขอแต่งตั้งให้สืบทอดราชบัลลังก์จากข้าสืบไป”
เมื่ออ่านข้อความในราชโองการแล้ว ทุกคนก็อื้ออึง
ฮ่องเต้เหวินซุ่นในปีนั้นต้องการมอบบัลลังก์ให้อ๋องอวี้หรอกหรือ?
แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่เชื่อ
เพราะระหว่างอ๋องอวี้กับอ๋องเซ่อเจิ้งมีความสัมพันธ์เป็นพ่อตาลูกเขย ใครจะรับประกันได้ว่าพวกเขาไม่ได้ร่วมมือกัน?
ราชโองการเก่ามาก?
แต่...ทำให้เก่ายาก?
สรุปคือบ้างก็เชื่อ บ้างก็แคลงใจ
แต่มีบรรยากาศรอบตัวอันน่าเกรงขามของอ๋องเซ่อเจิ้งอยู่เบื้องหน้า ดังนั้นแม้มีคนแคลงใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดถึงข้อสงสัย
ฉีเทียนเห้าหันไปมองทางชายสูงวัยหนวดเคราผมขาวที่ยืนอยู่ท่ามกลางขุนนางซึ่งยืนกันอยู่ไม่มาก
ชายสูงวัยผู้นี้ก็เป็นคนในราชวงศ์เหมือนกัน ตามศักดิ์ ซ่งหยุนจางและซ่งหยุนดายังต้องเรียกเขาว่าเสด็จอา
ราชสำนักในอดีตก็มีผู้ที่กล่าวคำไหนคำนั้นเหมือนกัน มีคุณธรรมสูงส่งเป็นที่เคารพยกย่อง
ขณะที่ฮ่องเต้เหวินซุ่นยังดำรงตำแหน่งอยู่ก็เคยมุมานะลงแรงเพื่อราชสำนักไม่น้อย
เพียงแต่หลังจากฮ่องเต้เหวินซุ่นสวรรคตและซ่งหยุนจางขึ้นครองราชย์แล้ว เสด็จอาสูงวัยท่านนี้ก็ปรากฏตัวน้อยนัก
ครั้งล่าสุดที่ปรากฏตัว ยังเป็นตอนที่ฉีเทียนเห้าเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋องเซ่อเจิ้ง
ขณะนั้น ทีแรกเสด็จอาสูงวัยไม่อยากให้อำนาจฮ่องเต้ตกกับคนภายนอก ด้วยความไม่วางใจฉีเทียนเห้าจึงแวะเวียนในราชสำนัก
แต่ภายหลังก็ไม่ทราบเพราะเหตุใด เสด็จอาสูงวัยจึงไม่สนใจ และไม่เคยเข้าราชสำนักอีกนับแต่นั้น
คราวนี้ ขณะที่เหล่าขุนนางรออยู่ที่ประตูวังหลวง จู่ๆ เสด็จอาสูงวัยก็ปรากฏตัวขึ้น ทำให้ขุนนางใหญ่เหล่านั้นตกตะลึงไปชั่วขณะ
แต่ถ้าเทียบกับสถานการณ์ในวัง ความสนใจต่อเสด็จอาสูงวัยของขุนนางใหญ่ทั้งหลายจึงแลดูน้อยไปถนัด
ยามฉีเทียนเห้ามองเสด็จอาสูงวัย สีหน้าเคารพนอบน้อมขึ้นมาก “เชิญเสด็จอาตรวจสอบ”
เสด็จอาสูงวัยหน้าขรึมมองฉีเทียนเห้า จากนั้นก็เดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าวรับม้วนหนังสือเก่าครึนั่นมาเปิดออก แล้วอ่านโดยละเอียด
หลังจากผ่านไปนานก็ปิด
เสด็จอาสูงวัยมองฉีเทียนเห้า สีหน้าเคร่งขรึม
ฉีเทียนเห้าสบตาไป ปราศจากการล่นถอยหรือความละอายใจสักนิด นิ่งเรียบและเย็นชา
อยู่นานเสด็จอาสูงวัยก็หมุนตัวแล้วเอ่ยกับขุนนางทั้งหลายด้วยเสียงเฒ่าชราและเปี่ยมด้วยพลัง “ราชโองการเป็นของจริง”
ทุกคนทราบนิสัยของเสด็จอาสูงวัยดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...