ซ่งฉงปิงเห็นการกระทำนี้ของจางเอ้อหลาง ก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว รู้สึกแปลกใจ แต่ก็รู้สึกคล้ายกับว่าสมเหตุสมผล
จึงทำได้เพียง เปิดหูเปิดตาให้สว่างอย่างดื้อรั้น มันยังไม่สายเกินไป
ซ่งฉงปิงเปลี่ยนท่าทางการนั่งให้สบายยิ่งขึ้น ทำท่าทีเหมือนกับว่ากำลังชมการแสดงอยู่
มีเพียงอย่างเดียวคือ มีสองอย่างที่ขาดไปในการชมการแสดงก็คือเมล็ดแตงโมและชา
"ข้า....."
การคุกเข่าลงอย่างกะทันหัน สำหรับจางเอ้อหลางแล้ว นับเป็นความกล้าหาญที่หาได้ยาก
เพียงแต่ เมื่อต้องการจะเอ่ยปากพูด จางเอ้อหลางก็เป็นกังวลขึ้นมาทันที
บนใบหน้ามีความเขินอาย และร้อนผ่าวอย่างมาก อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่กล้าเอ่ยปาก
ทางด้านฉินซานเอ๋อร์ก็มองจางเอ้อหลางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ กับการกระทำคุกเข่าลงอย่างกะทันหันของจางเอ้อหลาง ฉินซานเอ๋อร์ก็ทั้งตกใจทั้งประหลาดใจ และไม่เข้าใจเลยว่าเขาต้องการจะทำอะไร
จางเอ้อหลางรู้สึกได้ถึงสายตาของฉินซานเอ๋อร์ มือไม้ก็สั่นเล็กน้อยเพราะความกังวล ใบหูก็แดงจนใกล้จะเป็นหยดเลือด
แต่ทว่า พอกัดฟัน จางเอ้อหลางก็ยังเอ่ยคำพูดที่ตนเองต้องการจะพูดออกมาได้
"ข้าอยากแต่งงานกับฉินซานเอ๋อร์ ท่านลุงได้โปรดอนุญาตด้วย"
หลังจากพูดจบ ความรู้สึกกังวลเหล่านั้นก็ไม่มีแล้ว แต่กลับมีความรู้สึกมั่นคงแน่วแน่เข้ามาแทนที่
ใช่แล้ว เขาต้องการแต่งงานกับซานเอ๋อร์
หลังจากที่รู้ใจตนเอง หลังจากที่พูดประโยคนี้ออกไป เขาก็ยิ่งมีความคิดที่มั่งคงแน่วแน่มากยิ่งขึ้น
จนกระทั่ง จางเอ้อหลางมีความรู้สึกว่า นี่คือโอกาสเพียงหนึ่งเดียวของตนเอง
ก่อนหน้านี้ที่ฉินซานเอ๋อร์หนีออกจากบ้านเพราะหนีการแต่งงาน เขาก็รู้มาบ้างเล็กน้อย
ถึงแม้จะโมโหเพราะคาดไม่ถึงว่าจะมีคนเตรียมให้ฉินซานเอ๋อร์แต่งงานกับคนป่วยกระเสาะกระแสะคนหนึ่ง แต่จางเอ้อหลางก็เป็นกังวลอย่างมากว่าฉินซานเอ๋อร์จะกลับไป
เพราะว่า ต่อให้ตอนนี้ฉินซานเอ๋อร์บอกว่าไม่อยากกลับไปทำลายชีวิตอันสงบสุขที่บ้าน แต่พ่อของซานเอ๋อร์สามารถออกมาตามหานางนับปี แสดงให้เห็นว่า สำหรับซานเอ๋อร์ เขาให้ความสนใจจริงๆ
ในเมื่อให้ความสนใจ เช่นนั้นก็จะต้องคิดถึงวิธีการที่ทำให้พอใจทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน หรือว่านึกถึงวิธีที่ทำให้ฉินซานเอ๋อร์เปลี่ยนความคิดอย่างแน่นอน
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ฉินซานเอ๋อร์ก็จะกลับไปเมืองซู
เมืองซูห่างจากเมืองหลวง เป็นระยะทางหนึ่งพันลี้ จึงไม่ง่ายดายขนาดนั้น
ถ้าหากเป็นจางเอ้อหลางในอดีต บางทีเขาอาจจะยังไม่คิดอะไร
แต่ตอนนี้ เขารู้แล้วว่า โอกาสไม่เคยรอใคร
เมื่อผิดพลาดครั้งหนึ่ง นั่นก็คือชั่วชีวิต
วิกฤตการณ์นี้ บีบบังคับให้จางเอ้อหลางทำเรื่องจวนตัวนี้ออกมา ซึ่งจะไม่ทำให้เขาต้องเสียใจในภายหลังอีก
แต่ฉินซานเอ๋อร์ ก็รู้สึกตะลึงงัน
นางไม่เคยคาดคิดเลยว่า จางเอ้อหลางจะขอตัวเองแต่งงาน
นางคิดว่า ระหว่างตนเองและจางเอ้อหลาง........
ทันใดนั้น ฉินซานเอ๋อร์ก็คิดถึงความเป็นไปได้ที่จางเอ้อหลางจะแต่งงานกับตนเองในทันที
ชั่วพริบตา รอบดวงตาก็แดงก่ำ สีหน้าก็ยิ่งหดหู่ เพียงแต่บนใบหน้าของนางก็แสดงความดื้อรั้นเล็กน้อย
"ข้าไม่เต็มใจจะแต่งงานกับเจ้า" ฉินซานเอ๋อร์เอ่ยปาก
ฉินโย่วมองบุตรสาว แล้วก็มองจางเอ้อหลาง
ในเวลานี้ ฉินโย่วก็ค่อนข้างรู้สึกกดดันทางจิตใจ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขเพราะว่าบุตรสาวของตนเองกล่าวปฏิเสธจางเอ้อหลาง
คนก็ผ่านประสบการณ์มาแล้ว การปฏิบัติอย่างคดเคี้ยวเหล่านี้ระหว่างหนุ่มสาว เขาจะมองไม่ออกได้อย่างไร?
ฉะนั้น สุดท้ายฉินโย่วจึงตัดสินใจว่า หุบปากไปจะดีกว่า
จางเอ้อหลางได้ยินการกล่าวปฏิเสธของฉินซานเอ๋อร์ ใบหน้าก็ค่อนข้างแข็งทื่อ ตัวก็ยิ่งแข็งทื่อ
เขามองไปยังฉินซานเอ๋อร์
แต่หลังจากที่ฉินซานเอ๋อร์พูดประโยคนั้นออกมา ก็เคลื่อนสายตาออก ไม่มองจางเอ้อหลาง
จางเอ้อหลางเห็นการเอียงหน้าของฉินซานเอ๋อร์ ก็ค่อนข้างรู้สึกถึงความไม่แน่นอนทันที
หรือว่า ทุกสิ่งทุกอย่างคือตนเองผิด?
นาง ไม่ได้มีความปรารถนาต่อตนเองใช่หรือไม่?
เพียงแค่นึกถึงความเป็นไปได้เหล่านี้ สีหน้าของจางเอ้อหลางก็ซีดขาวลงเล็กน้อย
แต่จางเอ้อหลางก็ไม่เลิกคิด จ้องเขม็งมองฉินซานเอ๋อร์แล้วกล่าวว่า "เพราะเหตุใด?"
ถึงแม้จะถูกปฏิเสธ เขาก็อยากจะถามให้เข้าใจชัดเจน
แต่ฉินซานเอ๋อร์ ยังคงไม่หันหน้ากลับมา
นางเกรงว่าหากตนเองหันหน้ากลับมา ความอ่อนแอและความใจอ่อนของตนเองจะไม่อาจเก็บเอาไว้ได้
นางกลัวว่า ตนเองจะอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าตอบรับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...