ภายใต้การจับจ้องของทุกคน ลั่วเสี่ยวปิงก้าวไปข้างหน้า
จากนั้นนางก็เหลือบมองทุกคนอย่างเย็นชา
ในที่สุด สายตาที่เย็นชาก็จับจ้องไปที่สงจางซื่อ
เมื่อถูกจับจ้องด้วยสายตาแบบนี้ สงจางซื่อก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก
แต่เมื่อนึกขึ้นว่าตัวเองเผยความขี้ขลาดตรงหน้าผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อเสียงเสื่อมเสียไปนานแล้ว สีหน้าหน้าของสงจางซื่อก็เปลี่ยนไป
แต่ว่าก่อนที่สงจางซื่อจะได้พูดอะไร ลั่วเสี่ยวปิงก็ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า "ที่เจ้าพูดเมื่อสักครู่ ข่าวลือ
ครึกโครมระหว่างข้ากับจางเอ้อหลางคืออะไร"
เมื่อมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงเจ้าคนเลี้ยงแกะ สงจางซื่อก็หวาดกลัวขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ก็ยังดึงดันพูดต่อไปว่า
“ทำไม?เจ้ามันอยากโคแก่อยากกินหญ้าอ่อน เจ้ายังคิดจะปัดเรื่องที่อ้างให้จางเอ้อหลางมาช่วยเจ้าทำงานแล้วหลอกล่อเขาอีกหรือ? จะบอกเจ้าให้ เรื่องนี้น่ะเค้ารู้กันไปทั้งสิบลี้แปดหมู่บ้านแล้ว”
ลั่วเสี่ยวปิง “……” ถ้าไม่ใช่เพราะสถานที่ไม่เหมาะ นางล่ะโมโหจริงๆ!
อะไรคือโคแก่กินหญ้าอ่อนกัน? ตอนนี้นางก็ยังอายุแค่ยี่สิบอยู่มิใช่หรือ?
ถ้าเป็นในยุคปัจจุบัน ก็ยังใช้วัยรุ่นได้อีกนาน
อีกอย่าง นางกับจางเอ้อหลาง?
นี่ใครกันที่มีความคิดยุ่งเหยิงประหลาดๆแบบนี้?
ลั่วเสี่ยวปิงหันไปมองชาวบ้านในหมู่บ้านต้าซิง แล้วถามด้วยเสียงหนัก "พวกเจ้าก็รู้เรื่องนี้?"
แม้ว่านางจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่ลั่วเสี่ยวปิงก็ยังถามแบบนี้
และเป็นเช่นนั้นจริง หลังจากถามออกไปลั่วเสี่ยวปิงก็มองทุกคน ทุกคนต่างก็ไม่กล้าสบตานางแล้วละสายตาไปทางอื่น ท่าทางแบบนี้ คำตอบก็ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว
ดูเหมือนว่าเรื่องต่างๆจะถูกลือกันไปตอนที่นางจะรู้จริงๆ
จริงอย่างที่ว่าไว้ ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน ความเร็วของข่าวลือก็มักจะเร็วกว่าความเร็วของการคมนาคมเสมอ
“ใครเป็นคนแพร่ข่าวลือ?”ลั่วเสี่ยวปิงถามด้วยน้ำเสียงเย็น
แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยปาก
เมื่อลั่วเสี่ยวปิงเห็นดังนั้นก็ยิ้มเย็น “ไม่พูดใช่ไหม?ได้ ตั้งแต่วันนี้ข้าจะไม่รับของอะไรจากภูเขานี้ทั้งนั้น”
นางไม่ได้ฉวยโอกาสในตอนที่คนอื่นตกที่นั่งลำบาก ก็แค่ใช้ข้อได้เปรียบของตัวเองอย่างสมเหตุผลเท่านั้น
คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีสัมพันธ์กับนาง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เต็มใจที่จะบอกความจริงกับนาง และหากนางต้องการสอบสวน เกรงว่าจะไม่ง่ายขนาดนั้น
ในเมื่อทุกคนสนใจเรื่องเงิน แล้วทำไมนางไม่ใช้ประโยชน์จากมันล่ะ?
เมื่อได้ยินว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ยอมรับของแล้ว อย่างที่คิด คนในหมู่บ้านต้าซิงก็ร้อนรนขึ้นมา
“เสี่ยวปิง เจ้าไม่รับของไม่ได้นะ ตอนนี้ครอบครัวข้ากำลังขนของอยู่บนภูเขา ตอนนี้ก็คงจะได้มามากแล้ว”
“ใช่แล้ว อีกไม่นานก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ถ้าเจ้าไม่ยอมรับของ แล้วพวกเราจะทำอย่างไร?”
“เสี่ยวปิง……”
ทุกคนต่างพูดกันคนละคำ แต่ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้สนใจ
เห็นแบบนี้ ทุกคนก็ร้อนใจมากจริงๆ
“ลั่วเสี่ยวปิง เจ้าทำแบบนี้ช่างไร้คุณธรรมจริงๆ เรื่องที่เจ้าทำของเจ้าเองทำไมคนอื่นจะพูดไม่ได้ ตอนนี้ก็ใกล้จะหน้าหนาวแล้ว แล้วเจ้าตัดทางทำมาหากินเอากะทันหัน เจ้าต้องประสบเคราะห์สวรรค์” แม่หม้ายหลี่ร้อนใจ จึงด่าออกมา
สองสามวันมานี้ได้รู้ข้อดีของการหาเงิน นางจะยอมหยุดแค่นี้ได้อย่างไรกัน?
แม่หม้ายหลี่รู้สึกจากใจจริงว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ยอมรับสิ่งของอะไรก็คือไรคุณธรรม
แต่ว่าแม่หม้ายหลี่ไม่เคยคิด ว่าลั่วเสี่ยวปิงจะรับหรือไม่รับของนั่นก็เป็นอิสระของนาง
ถ้านางอยากได้เงินนางก็รับของ นางไม่อยากได้เงินนางก็แค่ไม่รับของ จะรับหรือไม่รับก็ล้วนแต่เป็นอิสระของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...