ซ่งฉงปิงได้ยิน ส่ายหน้า “ไม่ถึงขั้นมีความคิด แค่มีทิศทางอย่างหนึ่ง”
ฉีเทียนเห้าดึงตัวซ่งฉงปิงเข้ามาในอ้อมกอดตัวเอง แล้วถาม “ลองพูดดู”
“ความทะเยอทะยานของคนไม่มีที่สิ้นสุด ฮ่องเต้เป่ยอันตอนนี้อาจจะไม่ใช้คนทำให้เกิดสงคราม แต่ฐานะฮ่องเต้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีความทะเยอทะยาน พวกเราต้องมีวิธีควบคุม เช่นนี้ถึงจะสามารถรับรองได้ว่าพวกเราช่วยเขาไม่ใช่การเลือกที่ผิด”
ฉีเทียนเห้าได้ยิน ก็มีรอยยิ้มในสายตา จากนั้นก็พยักหน้าอย่างตั้งใจ “เจ้าพูดได้มีเหตุผล”
ซ่งฉงปิงกำลังเตรียมจะพูดต่อ กลับสังเกตว่าไม่ถูกอย่างกะทันหัน มองไปที่ฉีเทียนเห้า สีหน้าสงสัย “เจ้ามีความคิดแต่แรกแล้ว?”
ฉีเทียนเห้าได้ยิน ขยับไปข้างหูของซ่งฉงปิงพูดอะไรบางอย่าง
ตาของซ่งฉงปิงเป็นประกาย
แต่ทว่าคำพูดที่ตื่นเต้นยังพูดไม่จบ ซ่งฉงปิงก็รู้สึกว่าหูมีความรู้สึกคัน ร่างกายก็อดสั่นเพราะความคันไม่ได้
จากนั้น ท่ามกลางการจู่โจมของฉีเทียนเห้า ก็ค่อยๆสูญเสียความเป็นตัวเอง
เรื่องที่ฉีเทียนเห้ากลับมาเทศกาลโคมไฟ นอกจากคนในจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง ไม่มีใครรู้
ส่วนเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อซ่งฉงปิงตื่นมา ฉีเทียนเห้าก็จากไปแล้ว
รู้ว่าสงครามใกล้จบลงแล้ว ซ่งฉงปิงก็ไม่ได้หดหู่อะไร
อย่างไรเสีย การแยกกันชั่วคราว ก็เพื่อกับอยู่ร่วมกันที่ดีกว่า
เทศกาลโคมไฟเพิ่งผ่านไป ซ่งฉงปิงก็ได้รับบัตรเชิญใบหนึ่ง
คือจางเอ้อหลางและฉินซานเอ๋อร์จะแต่งงานแล้ว
วันที่จัดขึ้นในวันที่ยี่สิบเดือนหนึ่ง
สำหรับเรื่องการแต่งงานของจางเอ้อหลาง ซ่งฉงปิงก็ยังคงให้ความสำคัญอย่างมาก
เพียงแค่ถึงวันที่ยี่สิบเดือนหนึ่ง ซ่งฉงปิงกลับเจอปัญหา
ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่น เพียงแค่เพราะปัญหาเรื่องการแต่งตัว
ถ้าหากใส่ธรรมดาเกินไป ก็ดูเหมือนให้ความสำคัญไม่พอ
ส่วนแต่งกายเคร่งขรึมเกินไป ก็กลัวจะนำความกดดันมาให้คู่บ่าวสาว
นี่ก็คือความไม่สะดวกของฐานะที่เปลี่ยนไปนำมาให้
บางครั้งทั้งๆที่นางสามารถไม่สนใจเรื่องใดๆทั้งนั้น ไม่ห่วงฐานะ ใส่ใจเพียงความสัมพันธ์
แต่ว่า ขอให้นางไม่ใส่ใจพวกนี้ คนรอบข้างกลับใส่ใจเรื่องพวกนี้
ตอนที่ซ่งฉงปิงกำลังคิดไม่ออก อานอานและเล่อเล่อทั้งสองคนที่เตรียมตัวจะไปด้วยกันกลับแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วมาหานาง เด็กทั้งสองคนแต่งตัวได้อย่างเคร่งขรึม
เมื่อรู้ว่าซ่งฉงปิงพัวพันคิดไม่ออก เล่อเล่อถาม “หรือว่าท่านแม่แต่งตัวธรรมดาแล้ว คนที่รู้จักท่านแม่ก็จะปฏิบัติต่อท่านแม่เหมือนคนธรรมดาหรือ?”
คำพูดของเล่อเล่อ ก็เหมือนดั่งได้ความคิดขึ้นมาทันที
ใช่แล้ว ไม่ว่าตัวเองจะแต่งกายอย่างไร คนที่เข้าร่วมงานแต่งพร้อมกันก็ไม่ปฏิบัติต่อนางเหมือนคนธรรมดา
ช่างเป็นเส้นด้ายบังตาเหลือเกิน
“ท่านแม่ไป นอกจากไปร่วมงานแต่งน้าเอ้อหลางแล้ว ไม่ได้มีใจที่จะไปช่วยน้าเอ้อหลางให้มีหน้ามีตาหรอกหรือ?” อานอานถาม
ซ่งฉงปิงได้ยิน ก็ขยี้ตัวของทั้งสองคน “ยังเป็นพวกเจ้าสองคนที่มองได้ชัดเจน”
ดังนั้น ซ่งฉงปิงก็เลือกเสื้อผ้าสีส้มชุดหนึ่งอย่างเด็ดขาด
สีส้มไม่ได้โดดเด่นเหมือนดั่งสีแดง แต่ก็เป็นสีแบบหนึ่งที่มีความสง่าเกินคน
เพียงแค่ทั่วไปมีคนน้อยมากที่จะใส่ให้มีความรู้สึกแบบนี้ แต่ว่าซ่งฉงปิงผิวขาว บวกกับมีราศีพอ ใส่สีส้มไว้บนตัว บุคลิกหญิงผู้สง่าโดดเด่น ก็เหมือนดั่งหงส์ที่กางปีก ทำให้คนยอมอย่างไม่อาจต้านทานได้
ส่วนตอนที่เก็บพลังราศีแล้ว ก็ไม่รู้สึกธรรมดามากนัก
แต่กลับเหมาะสมพอดี
หลังจากเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว ซ่งฉงปิงก็พาอานอานเล่อเล่อ แล้วก็ไป๋เสาไป๋ซู่สองคน มุ่งหน้าไปตระกูลจาง
บ้านที่ตระกูลจางซื้อไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่เล็ก
บวกกับนายท่านฉินซื้อบ้านที่เช่าอยู่ก่อนหน้านี้ มาเป็นสินสอดให้กับลูกสาว
เพราะฉะนั้น ก่อนการแต่งงาน บ้านทั้งสองหลังก็ทะลุกันแล้ว ทำให้บ้านตระกูลจางดูใหญ่มาก
แขกที่มาตระกูลจาง ก็ไม่มากนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...