เสียงจ้อกแจกจอแจดังมาจากประตูเล็กที่อยู่ไม่ไกล เป็นประตูที่นำไปสู่ด้านนอก เทียบเท่ากับประตูด้านหลังของสวนเพลิน
ในตอนแรก ซ่งฉงปิงไม่ได้สนใจการเคลื่อนไหวทางด้านนั้น แล้วก็ไม่คิดที่จะใส่ใจด้วย
เพียงแต่ว่า เสียงนั้นผ่านไปครู่หนึ่งแล้วก็ยังไม่หยุดลง
แม้กระทั่งเซี่ยงเซี่ยงที่ตั้งใจนับดอกไม้อยู่ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางด้านนั้น
เสียงการทะเลาะวิวาท ทำให้ซ่งฉงปิงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
"ไปดูหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น" ซ่งฉงปิงกล่าวกับคนรับใช้ข้างๆ
คนรับใช้ได้ยินเช่นนั้น ก็รับคำสั่งแล้วออกไป
ไม่นาน คนรับใช้ก็กลับมา
"เรียนฮูหยิน เป็นคนซื้อของทะเลาะกับคนขายผักข้างนอกเจ้าค่ะ" คนรับใช้ตอบกลับอย่างเคารพ
เนื่องจากคนรับใช้เหล่านี้เพิ่งซื้อมาใหม่ ดังนั้นจึงไม่รู้จักตัวตนของซ่งฉงปิง เพียงแค่เรียกนางว่าฮูหยินเท่านั้น
ซ่งฉงปิงได้ฟังเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย "เพราะเหตุใด?"
คนรับใช้กล่าว "หญิงขายผักคนนั้นต้องการจะนำผักมาขายให้สวนเพลินของเรา แต่คนจัดซื้อได้ซื้อวัตถุดิบมาแล้ว ผู้หญิงคนนั้นจึงเริ่มเอะอะโวยวาย ดูเหมือนว่ายืนกรานที่จะขายผักให้สวนเพลินของเราให้ได้เจ้าค่ะ"
ซ่งฉงปิงได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ค่อยปกติ
โดยทั่วไปแล้ว การซื้อผักของจวนใหญ่มีขั้นตอนของตนเอง มีผู้รับผิดชอบโดยเฉพาะ แล้วก็มีคนซื้อขายที่แน่นอนอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเขาเพิ่งจะมาที่นี่ แต่สวนเพลินสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่คนทั่วไปจะพักอาศัยได้ และไม่ควรมีพ่อค้าเร่ขายผักเข้ามาขายผักได้
และถึงแม้ว่าจะมีคนต้องการเข้ามาชายของ แต่หากว่าคนจัดซื้อไม่ต้องการ ก็ควรจะออกไปเสียเอง อย่างไรเสียประชาชนคนธรรมดาก็ไม่กล้าผิดใจกับครอบครัวใหญ่หรอก
ดูเหมือนคนที่กำลังพูดฉอดๆ ไม่ยอมไปในวันนี้ จะไม่ปกติแล้วจริงๆ
เมื่อคิดเช่นนี้ ซ่งฉงปิงก็ตัดสินใจออกไปดูด้วยตนเอง
และให้คนรับใช้ดูเซี่ยงเซี่ยงไว้ให้ดี ซ่งฉงปิงพาไป๋เสา เดินไปที่ประตูเล็กทางด้านนั้น
"บอกแล้วไงว่าจวนของเราไม่ต้องการซื้อผัก เจ้าจะมาร้องไห้อยู่ที่นี่มันไม่มีประโยชน์หรอก" เห็นได้ชัดว่าคนจัดซื้อค่อนข้างรำคาญ และน้ำเสียงก็สูงขึ้นเล็กน้อย
ตอนนี้พวกเขากังวลเล็กน้อยว่า หากผู้หญิงปากคอเราะรายคนนี้เอะอะโวยวายต่อไป หากไปรบกวนนายท่าน เขาก็จะต้องรับผิดชอบร่วมด้วย
"เกิดอะไรขึ้น?" คนจัดซื้อเพิ่งจะคิดเช่นนี้ เสียงของซ่งฉงปิงก็ดังทอดมาจากด้านหลัง
คนจัดซื้อได้ยินเช่นนั้น ขาก็อ่อน หันกลับไปมองอย่างหวาดกลัว และคุกเข่าลงอย่างตื่นตระหนก "ฮูหยินไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจที่จะรบกวนท่าน ข้าน้อยจะไล่ผู้หญิงคนนี้ไปเดี๋ยวนี้"
แต่ทว่า ไม่ได้รอให้ซ่งฉงปิงตอบรับ ผู้หญิงที่หน้าประตูเห็นซ่งฉงปิง ก็คุกเข่าลงแล้วร่ำไห้ขึ้นมา "ฮูหยิน ขอร้องท่านล่ะ ช่วยซื้อผักของข้าด้วยเถอะ ข้าจนปัญญาแล้วจริงๆ ข้ายังรอเงินจากการขายผักนี้ไปช่วยสามีอีกด้วย! ขอร้องท่านล่ะ ท่านโปรดมีเมตตาด้วย ข้าจนปัญญาแล้วจริงๆ"
ผู้หญิงคนนั้นยิ่งพูดก็ยิ่งโศกเศร้าเสียใจ ยิ่งร้องไห้หนักยิ่งขึ้น ดูน่าเวทนาน่าสงสาร
ซ่งฉงปิงได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ตอบสนองทันที แต่กลับมองไปที่ตะกร้าผักข้างๆ ของผู้หญิงคนนั้น
แน่นอนว่าผักไม่ได้มีปัญหาอะไร อีกทั้งยังค่อนข้างสดใหม่ ซื้อก็ไม่เป็นอะไร
อีกทั้ง ผู้หญิงคนนี้ก็น่าเวทนาจริงๆ
เพียงเพราะหนทางเลี้ยงชีพจึงจำเป็นจะต้องเอะอะโวยวายอยู่ที่นี่ นี่เป็นความจนปัญญาของประชาชนชั้นล่างสุด
ในเมื่อมาเผชิญหน้าแล้ว อีกทั้งยังเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยเหลือก็ไม่เห็นจะเป็นไร
เมื่อคิดเช่นนี้ ซ่งฉงปิงกล่าวกับคนจัดซื้อว่า "เอาเงินมา แล้วซื้อทั้งหมด"
ผู้หญิงคนนั้นได้ยิน ก็เงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจและดีใจ
ในดวงตายังคงมีน้ำตาอยู่ แต่ในแววตาที่มองซ่งฉงปิงยังเต็มไปด้วยความซาบซึ้งในบุญคุณ
"ขอบพระคุณฮูหยินเป็นอย่างยิ่ง ขอบพระคุณฮูหยินเป็นอย่างยิ่ง" ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ และคำนับให้ซ่งฉงปิง
เพียงแต่ว่า ในตอนนี้ เมื่อผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้น ซ่งฉงปิงจึงเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นอย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...