เมื่อหญิงผู้นั้นเห็นว่าความคิดของฝูงชนถูกซ่งฉงปิงโน้มน้าว สีหน้าก็ดูตื่นตระหนก
“เจ้าพูดมากเช่นนี้ แล้วมีประโยชน์อะไร? สามีของข้าตายแล้ว เป็นเพราะเจ้าเห็นคนใกล้แล้วไม่ช่วย เขาถึงได้ตาย” หญิงผู้นั้นฮึกเหิม
เมื่อซ่งฉงปิงได้ยินก็ยิ้มเยาะ “แล้วอย่างไร? เจ้าจะร้องไห้ โวยวาย แล้วแขวนคอตัวเองตายไปพร้อมกับเขาที่ประตูหน้าบ้านของเราหรือ?”
“เช่นนั้นก็ได้ เจ้าแขวนคอตัวเองเถอะ เดี๋ยวข้าจะให้องครักษ์ของข้าคอยเฝ้า ไม่ให้เจ้าหล่นจากเชือก และจะช่วยเตะเก้าอี้ให้เจ้าด้วย”
“อ้อ จริงสิ ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่ได้ย้ายเก้าอี้ ให้ข้าช่วยเจ้าย้ายเก้าอี้หรือไม่?”
หญิงผู้นั้น “……” นางไม่คิดเลยว่าซ่งฉงปิงจะโต้ตอบเช่นนี้
ผู้คน “……” มีคนมาร้องไห้ โวยวาย แล้วจะแขวนคอตายที่หน้าประตูบ้านของนาง ไม่กลัวหรือ? นึกไม่ถึงเลยว่ายังจะช่วยย้ายเก้าอี้และเตะเก้าอี้ให้ด้วย?
คนผู้นี้เป็นมารปีศาจหรือไม่?
“เจ้า——” หญิงผู้นั้นชี้ไปที่ซ่งฉงปิง และพูดไม่ออกอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
ซ่งฉงปิงไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะเสียเวลาไปกับหญิงผู้นี้ ดวงตาเฉียบขาด “สามีของเจ้าตายได้อย่างไร ในใจของเจ้าไม่คำนวณดูหน่อยหรือ?”
แววตาของซ่งฉงปิงเย็นชามาก ราวกับนางมองทะลุทุกอย่าง
หากบอกว่าซ่งฉงปิงไม่เคยรู้มาก่อนว่าหญิงผู้นี้เป็นใคร แต่ตอนที่จับชีพจรให้สามีของนาง ซ่งฉงปิงก็รู้ว่าสามีของนางไม่ได้ป่วย แต่เป็นเพราะถูกพิษ นางจึงรู้ว่าหญิงที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้มีจุดประสงค์อื่น
คนคนหนึ่งมีจุดประสงค์อื่น และดูเหมือนว่าจะมุ่งเป้ามาที่นาง ประกอบกับรูปร่างหน้าตาของหญิงผู้นี้ เช่นนั้นจึงเดาได้ไม่ยาก
หญิงผู้นี้ถูกซ่งฉงปิงจ้องมองด้วยสายตาเช่นนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะกะพริบตา
“ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?” หญิงผู้นั้นเถียงข้างๆ คูๆ
ซ่งฉงปิงก็ไม่อยากพูดอะไรมากนัก
ไม่ว่าจะคิดอย่างไร การตายของชายผู้นั้นก็ไม่นับว่าเกี่ยวข้องกับนาง นางจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับเรื่องนี้
ซ่งฉงปิงจ้องมองไปที่หญิงผู้นั้นด้วยแววตาเย็นชา “ลั่วอิง เป็นเจ้าใช่หรือไม่?”
เมื่อซ่งฉงปิงพูดคำว่า ‘ลั่วอิง’ หญิงผู้นั้นก็ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด
ซ่งฉงปิงรู้ว่าตนเองเดาได้ถูกต้อง
ลั่วอิงเป็นบุตรสาวคนสุดท้องของย่าลั่ว และเป็นคนที่ถูกย่าลั่วขายตั้งแต่แรก
ดังนั้นนางจึงรู้สึกว่าลั่วอิงดูคุ้นหูคุ้นตา จริงๆ แล้วเป็นเพราะลั่วอิงกับลั่วต้าโซ่วของบ้านสี่ตระกูลลั่วนั้นคล้ายกันเล็กน้อย
แน่นอนว่าก็คล้ายกับย่าลั่วเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
“เจ้า เจ้าพูดอะไร? ใครคือลั่วอิง......” หญิงผู้นั้นไม่อยากยอมรับ
แต่ซ่งฉงปิงไม่สนใจ
“ลั่วอิง เจ้าเข้าหาข้าหลายครั้งหายครา เพราะอยากแก้แค้นให้ตระกูลลั่วใช่หรือไม่?”
ซ่งฉงปิงชี้ให้เห็นจุดประสงค์ของลั่วอิงโดยตรง
ว่ากันว่าคนคนหนึ่งในตระกูลลั่วไม่เคยได้รับความรัก คนคนหนึ่งถูกขายไปนานหลายสิบปีโดยไม่มีข่าวคราว แต่ในเวลานี้มาหาตนเอง และจุดประสงค์ก็เพื่อแก้แค้นให้ตระกูลลั่ว
พูดกันตามจริงก็เสียดสีนิดหน่อย
ซ่งฉงปิงพูดถึงขั้นนี้แล้ว ลั่วอิงรู้ดีว่าหากตนเองยังปิดบังก็ไร้ความหมาย
ดังนั้นลั่วอิงจึงปะทุออกมา และไม่แสดงอีก เพียงแค่มองซ่งฉงปิงด้วยสีหน้าเกลียดชัง
“ลั่วเสี่ยวปิง เจ้ามันคนอกตัญญู ฆ่าทั้งครอบครัวของข้า เจ้าจะต้องไม่ตายดี” ลั่วอิงตีโพยตีพาย
ผู้คนดูสับสนงุนงง
ซ่งฉงปิงมองไปที่ลั่วอิงอย่างสงบนิ่ง “ตระกูลลั่วขายเจ้าแล้ว แต่เจ้าก็ยังเป็นลูกหลานที่กตัญญู เหอะ——” เสียงของซ่งฉงปิงเต็มไปด้วยการเหน็บแนม
ทันใดนั้นเสียงที่ดุดันก็ดังขึ้น “เจ้าว่าคนตระกูลลั่วไม่สมควรตายหรือ? คนตระกูลลั่วสับเปลี่ยนสถานะของข้า ทำให้ข้าทุกข์ยากลำบากอยู่ที่ตระกูลลั่ว ทำให้บุตรสาวของตระกูลลั่วสุขสบาย และพยายามจะฆ่าข้าหลายครั้งหลายครา ความผิดของพวกเขา เจ้าไม่รับรู้เลยหรือ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซ่งฉงปิงก็น้ำเสียงเปลี่ยน “หรือจะพูดว่าคนที่บอกเรื่องนี้กับเจ้า ไม่ได้บอกเจ้าว่าคนตระกูลลั่วของเจ้าทำอะไรไว้บ้าง เพียงแค่บอกเจ้าว่าข้าเป็นคนอกตัญญูที่เนรคุณ? ”
ถูกต้อง ซ่งฉงปิงสงสัยว่ามีคนที่วางแผนอยู่เบื้องหลังของลั่วอิง
ถึงอย่างไรลั่วอิงก็ถูกขายไปหลายสิบปีแล้ว และหลายสิบปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยติดต่อกับตระกูลลั่วเลย ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีมิตรภาพอันลึกซึ้งต่อตระกูลลั่ว
อีกอย่างอยู่ไกลขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ลั่วอิงจะรู้
เช่นนั้นคำอธิบายเดียวก็คือมีคนบอกอะไรบางอย่างกับนาง อีกทั้งยังปลูกฝังความแค้นให้นางด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...