แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 833

ซ่งฉงปิงสลบไปแล้ว ดังนั้นการเดินทางของพวกนางจึงดำเนินต่อไปไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ฉีเทียนเห้าจึงพาซ่งฉงปิงกลับไปที่สวนเพลิน

โดยที่หมอจากในวังวินิจฉัยว่าซ่งฉงปิงถูกพิษกู่

นอกจากนี้ยังเป็นพิษกู่หายากที่เรียกว่ากู่หวางวิญญาณ

พิษกู่นี้เลวร้ายอย่างหาใดเปรียบ ผู้ที่ถูกพิษกู่ดูเผินๆ จะไม่แตกต่างจากคนอื่น แต่จะค่อยๆ ตายอย่างช้าๆ

เมื่อรู้เรื่องของพิษกู่นี้ ฉีเทียนเห้าก็ตัวแข็งเป็นรูปปั้นหิน

ไม่ว่าใครจะเรียกเขาหรือพูดอะไรกับเขา เขาก็ไม่สนใจทั้งสิ้น เขาทำเพียงแค่นั่งอยู่ข้างเตียง จ้องมองใบหน้าของซ่งฉงปิงโดยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

เป็นแบบนี้จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองวันสองคืน

ฉีเทียนเห้ายังคงนิ่งไม่ไหวติง และซ่งฉงปิงก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นขึ้นมา ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขากังวลเป็นอย่างมาก

พอถึงเช้าวันที่สาม หนานซิงกับหนานเฉินจึงพบว่าฉีเทียนเห้าหายไป

คราวนี้พวกเขายิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก

เพราะพวกเขารู้ดีว่าฉีเทียนเห้าไม่มีทางทิ้งซ่งฉงปิงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ชั่วขณะนั้นภายในสวนเพลินก็วุ่นวายขึ้นมา

แต่ในตอนนั้นฉีเทียนเห้าผู้ทำให้เกิดความวุ่นวายกลับไปยังที่พักของแม่มดกู่

เพียงแต่ขณะที่ฉีเทียนเห้ากำลังคุกเข่าอยู่ในลานบ้านของแม่มดกู่ ประตูเรือนของแม่มดกู่กลับปิดสนิท

เวลานี้ใบหน้าของฉีเทียนเห้าซีดเผือด แต่เขาก็ยังคงคุกเข่าตัวตรง

เขาคุกเข่าตลอดทั้งคืน

ในที่สุด ประตูเรือนของแม่มดกู่ก็เปิดออก

แม่มดกู่ไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยเมื่อเห็นฉีเทียนเห้าคุกเข่าอยู่ที่ลานบ้าน นางเพียงแค่เหลือบมองฉีเทียนเห้านิดหนึ่งเท่านั้น

“ในเมื่อมาแล้วก็ช่วยข้าทำอะไรสักหน่อยเถอะ” แม่มดกู่เอ่ยเรียบๆ จากนั้นจึงเริ่มล้วงหม้อดินของนาง ปากก็รำพันว่า “คนหนุ่มสาวน่ะ จะอยู่ว่างเกินไปไม่ได้”

ฉีเทียนเห้าหยุดนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นจึงลุกขึ้นเดินไปหาแม่มดกู่

ต่อมาฉีเทียนเห้าจึงเห็นว่าในหม้อดินของแม่มดกู่มีหนอนแมลงอยู่นานาชนิด

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าหนอนแมลงเหล่านี้เอาไว้ทำสิ่งใด” แม่มดกู่ถาม

ฉีเทียนเห้าไม่ตอบ และดูเหมือนแม่มดกู่ก็ไม่สนใจเหมือนกันว่าฉีเทียนเห้าจะตอบหรือไม่ นางเพียงแค่พูดกับตัวเองว่า “กู่นี่ ไม่ใช่ทุกตัวที่เกิดจากกู่และโตด้วยการเลี้ยงของกู่ มีบางส่วนเป็นกู่ที่ล้ำค่า ทั้งหมดคือหนอนแมลงที่กินหนอนแมลงด้วยกัน กินกันไปอีกก็จะกลายเป็นราชากู่”

“ราชากู่ช่วงชิงกันและจะได้ราชากู่ตัวใหม่ ราชากู่ตัวใหม่นี้ก็คือกู่พิษ”

“แต่ว่า ถ้ากู่เหล่านี้รักกัน มันก็จะให้กำเนิดกู่ตัวใหม่ ถึงตอนนั้น ราชากู่แบบนั้นจะเรียกว่าสายพันธุ์กู่”

ฉีเทียนเห้ารับฟังและคิดจะหาข้อมูลบางอย่างจากคำพูดเหล่านี้ แต่เขาก็หาไม่พบ ดังนั้นเขาจึงถามด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า “กู่หวางวิญญาณมีที่มาอย่างไร”

แม่มดกู่ชะงักมือไปนิดหนึ่งเมื่อได้ยิน จากนั้นนางจึงปิดฝาหม้อดิน

บนหม้อดินทุกใบล้วนมีรูเล็กๆ หนึ่งรูอยู่บนนั้น ซึ่งน่าจะเป็นรูช่องลมของหม้อดิน

แม่มดกู่เข้าไปในเรือนของนาง

ฉีเทียนเห้าเดินตามเข้าไปโดยไม่ลังเลเลยสักนิด

แม่มดกู่นำกู่ตัวเล็กออกมาจากกล่องหนึ่งตัวราวกับกำลังถือสมบัติ

มันเป็นสีดำทั้งตัว ดำแบบดำเป็นมันเงา

ฉีเทียนเห้ามองดูโดยไม่ขมวดคิ้ว

ในตอนนี้เขารู้ว่าไม่มีใครช่วยชีวิตปิงเอ๋อร์ของเขาได้ นอกจากแม่มดกู่ที่อยู่ตรงหน้า

กู่เหล่านี้ไม่ได้น่ากลัวอะไรนักเมื่อเทียบกับความปลอดภัยของปิงเอ๋อร์

แม่มดกู่ส่งกล่องนั้นให้ฉีเทียนเห้า

ฉีเทียนเห้ามองโดยไม่ไหวติง

แม่มดกู่เห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า “รับไป”

ฉีเทียนเห้าเห็นดังนั้นจึงทำได้เพียงต้องยื่นมือออกไปรับ

“กินซะ” แม่มดกู่เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

ฉีเทียนเห้าไม่ได้กินตามคำบอกและเพียงแค่มองไปที่แม่มดกู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง