แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 834

“เจ้า!” เสียงของแม่มดกู่สั่นสะท้านเล็กน้อย

แผ่นหลังดูเหมือนจะโก่งค่อมยิ่งขึ้นไปอีก จากนั้นน้ำเสียงที่ทั้งชราและแหบพร่าก็ดังขึ้นมาว่า “นี่มันคือชีวิตเชียวนะ...”

ฉีเทียนเห้ามองแม่มดกู่ ใบหน้าของเขาซีดขาว ทว่านัยน์ตากลับแน่วแน่มั่นคงหาใดเปรียบ “ท่านยายโปรดบอกข้าด้วย ว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยชีวิตนางได้”

คราวนี้แม่มดกู่ไม่ได้พูดพร่ำอีกต่อไป นางเพียงแค่มองฉีเทียนเห้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ช่วยชีวิตนาง เจ้าอาจจะนึกเสียใจขึ้นมาในภายหลัง”

ฉีเทียนเห้าส่ายหน้าอย่างหนักแน่น “ขอเพียงแค่นางมีชีวิต ข้าไม่มีทางเสียใจแน่”

เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อคนเพียงคนเดียว

ตอนนี้เมื่อรู้รสของความห่วงใยแล้ว การมายังโลกนี้ก็ไม่นับว่าสูญเปล่า

เมื่อแม่มดกู่เห็นท่าทีของฉีเทียนเห้า นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เจ้ารู้ไว้เสีย ว่าต่อให้ช่วยชีวิตนางได้ นางก็จะลืมทุกอย่าง และเจ้าก็อาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย...”

ฉีเทียนเห้ามือสั่นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำกล่าวนั้น

ลืมทุกสิ่งทุกอย่างงั้นหรือ

นั่นก็คือ กู่หวางวิญญาณที่แท้เป็นกู่ลืมวิญญาณงั้นเหรอ

พอคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของฉีเทียนเห้าก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ปากกลับเอ่ยออกมาว่า “ถ้าข้าไม่ฟื้น... ลืมข้าไป ก็คงจะดีกว่าสำหรับนาง...”

พอคิดขึ้นมา ดวงตาของฉีเทียนเห้าก็กลายเป็นสีแดงระเรื่อ

มีความปวดใจ

จากนั้นแม่มดกู่ก็ถอนหายใจออกมายืดยาว

.....

ซ่งฉงปิงไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน

นางรู้สึกแค่ว่าดูเหมือนตนเองจะนอนหลับสบายมาก

ตอนที่นางฟื้นขึ้นมา นางกำลังอยู่ในรถม้า

ในเวลานี้บนรถม้ามีเพียงแค่นางกับไป๋เสาเท่านั้น

รู้สึกเหมือนไป๋เสาดูแปลกไปเล็กน้อย แต่ซ่งฉงปิงจับสังเกตไม่ได้

“เทียนเห้าล่ะ” ซ่งฉงปิงถามไป๋เสา

ไป๋เสากลั้นความระรื้นในดวงตา จากนั้นจึงยิ้มและบอกว่า “บ่าวจะไปเรียกท่านอ๋องเข้ามาเพคะ”

ในไม่ช้าฉีเทียนเห้าก็เข้ามา

ซ่งฉงปิงมองฉีเทียนเห้าอย่างละเอียด เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฉีเทียนเห้าไม่มีอะไรผิดปกตินางจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน จะกลับเมืองหลวงงั้นหรือ” ซ่งฉงปิงถามฉีเทียนเห้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเปิดม่านของรถม้าออกนางกลับเห็นเพียงแค่ความรกร้างว่างเปล่าที่ภายนอก

ดูไม่เหมือนทางกลับเมืองหลวงเลย

และซ่งฉงปิงก็ไม่รู้เลยว่ามือของฉีเทียนเห้าสั่นเล็กน้อยตอนที่นางถามประโยคนี้ออกไป

เมื่อซ่งฉงปิงหันกลับมา ฉีเทียนเห้าก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ให้เห็นบนใบหน้า เขาอธิบายกับซ่งฉงปิงว่า “เราไม่ได้กลับเมืองหลวง”

ซ่งฉงปิงมีสีหน้าประหลาดใจ

“เราจะไปเมืองหลวงของแคว้นซีหรง หลิงหลิงกำลังจะแต่งงาน เจ้าลืมไปแล้วหรือ” เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป มีเพียงฉีเทียนเห้าเท่านั้นที่รู้ว่าในคำพูดนี้แฝงไปด้วยความสั่นเทาและความระมัดระวัง

ซ่งฉงปิงได้ยินดังนั้นก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้า “อื้ม ข้าจำได้”

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ถ้าฉีเทียนเห้าไม่เตือน นางรู้สึกเหมือนนางจะลืมไปนิดหน่อย

หลังจากที่รู้จุดหมายปลายทางของตนเอง ซ่งฉงปิงจึงมองออกไปนอกรถม้าอยู่ตลอดๆ

“แคว้นซีหรงแห้งแล้งมากจริงๆ”

ทะเลทรายสีเหลือง ทุกหนทุกแห่งดูเหมือนจะไม่มีอะไรเลยนอกจากหญ้า

“อืม เพราะความแห้งแล้ง พวกเขาก็เลยโหยหาดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างต้าชิ่ง” ฉีเทียนเห้ากล่าว

ซ่งฉงปิงฟังและคิดนิดหนึ่ง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำการค้าขายดีกว่า ขอเพียงแค่ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น พวกเขาก็จะไม่นึกถึงต้าชิ่งของพวกเราอีก”

ซ่งฉงปิงกล่าวพลางปิดม่านรถม้า

เพราะที่ด้านนอกมีฝุ่นทรายค่อนข้างเยอะ นางไม่ชอบเลย

ฉีเทียนเห้าได้ยินดังนั้นจึงยิ้มและกล่าวเพียงว่า “แคว้นซีหรงมีวัวมีแกะมากมาย แต่พื้นที่เกรงว่าจะมีน้อยมาก แม้แต่อาหารก็มีไม่มากนัก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง