“เจ้า!” เสียงของแม่มดกู่สั่นสะท้านเล็กน้อย
แผ่นหลังดูเหมือนจะโก่งค่อมยิ่งขึ้นไปอีก จากนั้นน้ำเสียงที่ทั้งชราและแหบพร่าก็ดังขึ้นมาว่า “นี่มันคือชีวิตเชียวนะ...”
ฉีเทียนเห้ามองแม่มดกู่ ใบหน้าของเขาซีดขาว ทว่านัยน์ตากลับแน่วแน่มั่นคงหาใดเปรียบ “ท่านยายโปรดบอกข้าด้วย ว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยชีวิตนางได้”
คราวนี้แม่มดกู่ไม่ได้พูดพร่ำอีกต่อไป นางเพียงแค่มองฉีเทียนเห้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ช่วยชีวิตนาง เจ้าอาจจะนึกเสียใจขึ้นมาในภายหลัง”
ฉีเทียนเห้าส่ายหน้าอย่างหนักแน่น “ขอเพียงแค่นางมีชีวิต ข้าไม่มีทางเสียใจแน่”
เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อคนเพียงคนเดียว
ตอนนี้เมื่อรู้รสของความห่วงใยแล้ว การมายังโลกนี้ก็ไม่นับว่าสูญเปล่า
เมื่อแม่มดกู่เห็นท่าทีของฉีเทียนเห้า นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เจ้ารู้ไว้เสีย ว่าต่อให้ช่วยชีวิตนางได้ นางก็จะลืมทุกอย่าง และเจ้าก็อาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย...”
ฉีเทียนเห้ามือสั่นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำกล่าวนั้น
ลืมทุกสิ่งทุกอย่างงั้นหรือ
นั่นก็คือ กู่หวางวิญญาณที่แท้เป็นกู่ลืมวิญญาณงั้นเหรอ
พอคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของฉีเทียนเห้าก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ปากกลับเอ่ยออกมาว่า “ถ้าข้าไม่ฟื้น... ลืมข้าไป ก็คงจะดีกว่าสำหรับนาง...”
พอคิดขึ้นมา ดวงตาของฉีเทียนเห้าก็กลายเป็นสีแดงระเรื่อ
มีความปวดใจ
จากนั้นแม่มดกู่ก็ถอนหายใจออกมายืดยาว
.....
ซ่งฉงปิงไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน
นางรู้สึกแค่ว่าดูเหมือนตนเองจะนอนหลับสบายมาก
ตอนที่นางฟื้นขึ้นมา นางกำลังอยู่ในรถม้า
ในเวลานี้บนรถม้ามีเพียงแค่นางกับไป๋เสาเท่านั้น
รู้สึกเหมือนไป๋เสาดูแปลกไปเล็กน้อย แต่ซ่งฉงปิงจับสังเกตไม่ได้
“เทียนเห้าล่ะ” ซ่งฉงปิงถามไป๋เสา
ไป๋เสากลั้นความระรื้นในดวงตา จากนั้นจึงยิ้มและบอกว่า “บ่าวจะไปเรียกท่านอ๋องเข้ามาเพคะ”
ในไม่ช้าฉีเทียนเห้าก็เข้ามา
ซ่งฉงปิงมองฉีเทียนเห้าอย่างละเอียด เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฉีเทียนเห้าไม่มีอะไรผิดปกตินางจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน จะกลับเมืองหลวงงั้นหรือ” ซ่งฉงปิงถามฉีเทียนเห้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเปิดม่านของรถม้าออกนางกลับเห็นเพียงแค่ความรกร้างว่างเปล่าที่ภายนอก
ดูไม่เหมือนทางกลับเมืองหลวงเลย
และซ่งฉงปิงก็ไม่รู้เลยว่ามือของฉีเทียนเห้าสั่นเล็กน้อยตอนที่นางถามประโยคนี้ออกไป
เมื่อซ่งฉงปิงหันกลับมา ฉีเทียนเห้าก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ให้เห็นบนใบหน้า เขาอธิบายกับซ่งฉงปิงว่า “เราไม่ได้กลับเมืองหลวง”
ซ่งฉงปิงมีสีหน้าประหลาดใจ
“เราจะไปเมืองหลวงของแคว้นซีหรง หลิงหลิงกำลังจะแต่งงาน เจ้าลืมไปแล้วหรือ” เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป มีเพียงฉีเทียนเห้าเท่านั้นที่รู้ว่าในคำพูดนี้แฝงไปด้วยความสั่นเทาและความระมัดระวัง
ซ่งฉงปิงได้ยินดังนั้นก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้า “อื้ม ข้าจำได้”
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ถ้าฉีเทียนเห้าไม่เตือน นางรู้สึกเหมือนนางจะลืมไปนิดหน่อย
หลังจากที่รู้จุดหมายปลายทางของตนเอง ซ่งฉงปิงจึงมองออกไปนอกรถม้าอยู่ตลอดๆ
“แคว้นซีหรงแห้งแล้งมากจริงๆ”
ทะเลทรายสีเหลือง ทุกหนทุกแห่งดูเหมือนจะไม่มีอะไรเลยนอกจากหญ้า
“อืม เพราะความแห้งแล้ง พวกเขาก็เลยโหยหาดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างต้าชิ่ง” ฉีเทียนเห้ากล่าว
ซ่งฉงปิงฟังและคิดนิดหนึ่ง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำการค้าขายดีกว่า ขอเพียงแค่ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น พวกเขาก็จะไม่นึกถึงต้าชิ่งของพวกเราอีก”
ซ่งฉงปิงกล่าวพลางปิดม่านรถม้า
เพราะที่ด้านนอกมีฝุ่นทรายค่อนข้างเยอะ นางไม่ชอบเลย
ฉีเทียนเห้าได้ยินดังนั้นจึงยิ้มและกล่าวเพียงว่า “แคว้นซีหรงมีวัวมีแกะมากมาย แต่พื้นที่เกรงว่าจะมีน้อยมาก แม้แต่อาหารก็มีไม่มากนัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...