ซ่งฉงปิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเมื่อเห็นความกระตือรือร้นของซ่งหลิงหลิง
ในขณะนั้นฉีเทียนเห้าก็ดึงซ่งฉงปิงเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของเขาทันที “อย่าถูกตัวเสด็จอาสะใภ้ของเจ้า เสด็จอาสะใภ้ของเจ้ากำลังท้อง”
รอยยิ้มของซ่งหลิงหลิงชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้น และนัยน์ตาที่หลุบลงไปนิดหนึ่งก็มีประกายของความซับซ้อนบางอย่าง
แต่ในไม่ช้าซ่งหลิงหลิงก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างตื่นเต้นดีใจ “ท่านพี่ ท่านตั้งครรภ์แล้ว เช่นนั้นข้าก็จะมีหลานชายตัวน้อยๆ แล้วใช่หรือไม่”
ฉีเทียนเห้าที่อยู่ข้างกายขมวดคิ้วและแก้ไขให้ถูกต้อง “เป็นน้องของเจ้า”
ซ่งหลิงหลิงหันไปแลบลิ้นให้ฉีเทียนเห้า จากนั้นจึงจับมือซ่งฉงปิงขึ้นมา นางเงยศีรษะและยืดอก เอ่ยด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจว่า “ข้ากับท่านพี่แซ่ซ่งเหมือนกัน ทั้งยังมีความเกี่ยวพันทางสายเลือด ลูกของท่านพี่ก็ต้องนับญาติตามฝั่งเราสิเจ้าคะ”
นั่นเอง นางจึงยืนกรานว่าเด็กในท้องของซ่งฉงปิงคือหลานชายของนาง
ฉีเทียนเห้าขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
ในไม่ช้าฉีเทียนเห้ากับซ่งฉงปิงก็ถูกพาไปที่จุดพักม้า
แต่เข้าไปที่จุดพักม้าได้ครู่เดียว ฉีเทียนเห้าก็สั่งให้คนไปจัดเตรียมเรือนเล็กๆ เอาไว้
เมื่อเทียบกับจุดพักม้า ฉีเทียนเห้ายังชอบที่จะอยู่ในที่ของตัวเองมากกว่า
ส่วนซ่งฉงปิง นางไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้
หลังจากมาถึงแคว้นซีหรง การใช้ชีวิตของนางก็เปลี่ยนเป็นเติมเต็มมากขึ้น
ในทุกๆ วัน ว่าที่เจ้าสาวอย่างซ่งหลิงหลิงจะมาเล่นกับซ่งฉงปิง และทุกครั้งที่มา ซ่งหลิงหลิงก็จะพาซ่งฉงปิงสัมผัสกับประสบการณ์ภายในแคว้นซีหรง
ตอนแรกก็อยู่แต่ในเมืองหลวง
ต่อมาซ่งหลิงหลิงจึงเริ่มพาซ่งฉงปิงออกไปนอกเมืองตลอด
ฉีเทียนเห้าทราบเรื่องเหล่านี้และสั่งให้หนานซิงกับไป๋เสาตามไปด้วยตลอด นอกจากนี้ยังส่งองครักษ์ลับสองคนตามซ่งฉงปิงไปด้วย
ฉีเทียนเห้าอยากจะตามไป แต่ร่างกายของเขาไม่เอื้ออำนวยให้ทำเช่นนั้น
“นายท่าน ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” หนานเฉินมองฉีเทียนเห้าอย่างเป็นกังวล
ฉีเทียนเห้าส่ายหน้าและเอนหลังพิงเก้าอี้ จากนั้นจึงหลับตาลง
และมือของเขาก็เริ่มสั่นเล็กน้อย
หลายวันมานี้แรงกำลังของเขาเริ่มลดลงเรื่อยๆ
หนานเฉินมองเขา ในใจก็นึกกังวล เขาเคยเห็นนายท่านของเขาอ่อนแอขนาดนี้ด้วยหรือ?
แต่ถึงกระนั้นนายท่านก็ไม่พูดอะไรเลย พวกเขาไม่รู้เลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของนายท่านกันแน่
พวกเขารู้เพียงว่า นายท่านกลับมาหลังจากหายตัวไปหนึ่งวัน
จากนั้นก็ไล่พวกเขาทุกคนให้ออกไปรอข้างนอก เมื่อพวกเขากลับเข้ามาอีกครั้ง องค์หญิงใหญ่ก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว
มันเกิดอะไรขึ้น องค์หญิงใหญ่ฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร พวกเขาไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
แต่เมื่อมองรูปลักษณ์ของฉีเทียนเห้าในตอนนี้ หนานเฉินก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นายท่าน... เขาคงกลายเป็นแบบนี้เพราะทำเพื่อองค์หญิงใหญ่
“วันนี้พระชายาไปที่ไหน” ฉีเทียนเห้ามองหนานเฉินและเอ่ยปากถาม
หนานเฉินจนปัญหาเมื่อเห็นว่าทั้งที่เป็นแบบนี้ นายท่านของเขาก็ยังคงเอาแต่ห่วงองค์หญิงใหญ่ แต่เขาก็ยังคงเอ่ยไปตามจริงว่า “องค์หญิงหกพาองค์หญิงใหญ่ไปที่หมู่บ้านนอกเมืองเพื่อช่วยชาวบ้านปลูกฝ้ายพ่ะย่ะค่ะ”
ไม่กี่วันมานี้ ซ่งฉงปิงพูดถึงความคิดเรื่องการปลูกฝ้าย
ซ่งหลิงหลิงบอกไปแล้วว่าอี้ฉู่จ้งก็คืออู้เจิน จากนั้นองค์หญิงทั้งสองแห่งต้าชิ่งก็เริ่มทำงานง่วนอยู่ในหมู่บ้านข้างๆ เมืองหลวง
ได้ยินดังนั้น ฉีเทียนเห้าจึงกล่าวว่า “ไปรับนางกับข้า”
เขารู้สึกว่าเวลาของตนเองเหลือไม่มากแล้ว
แม้จะอยากอยู่ข้างกายนางตลอดเวลาเขาก็ไม่กล้า เพราะเขากลัวว่านางจะระแคะระคาย
ดังนั้นแทนที่จะปล่อยให้เป็นแบบนั้น สู้ให้นางไปที่หมู่บ้านอย่างมีความสุขจะดีกว่า
หนานเฉินได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้า
เขากำลังจะช่วยประคองฉีเทียนเห้า แต่ฉีเทียนเห้ากลับปฏิเสธ
“ข้ายังไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดเดินเองไม่ได้”
หนานเฉินเห็นเช่นนั้นจึงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆ
ฉีเทียนเห้าลุกขึ้นและเดินอย่างมั่นคงในทุกๆ ย่างก้าว มองไม่เห็นเลยสักนิดว่ามีสิ่งใดผิดปกติ
เพียงแต่เมื่อฉีเทียนเห้าเดินไปถึงหน้าประตู เขาก็เห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนหนึ่ง... โม่เวิ่นเทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...