แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 843

สิบวันต่อมา ข่าวที่ซ่งฉงปิงกับฉีเทียนเห้าตกลงไปในแม่น้ำก็เล่าลือไปถึงเมืองหลวงต้าชิ่ง

ทันใดนั้นทั่วทั้งเมืองหลวงก็เต็มไปด้วยความเงียบงัน

ในวังยิ่งเงียบเชียบไร้กลิ่นอายของชีวิต

หลังจากทราบข่าววันนี้ ฮ่องเต้ซ่งหยุนดาซึ่งอยู่ในราชสำนักก็ยั้งสติไม่อยู่และไม่มีกะจิตกะใจจะเข้าเฝ้ายามเช้า

พระองค์ถลันออกไปโดยไม่แม้แต่จะเอ่ยคำว่า ‘เลิกเข้าเฝ้า’ แม้แต่ฝีเท้าก็ยังซวนเซ

เวลาในวังหลังเองก็อึมครึมหม่นมัว

นั่นเพราะฮองเฮาเว่ยหวินซีทรงร้องไห้หนักมากจนลืมพระเนตรไม่ขึ้น

นอกจากนี้อานอานกับเล่อเล่อ รวมถึงซื่อจื่อซ่งเฮงก็ไม่รู้ว่าไปทราบข่าวมาจากที่ไหน พวกเขาไม่เข้าเรียนและรีบวิ่งตรงมาที่ห้องบรรทมของฮองเฮา

เมื่อเห็นท่านยายร้องไห้ เล่อเล่อก็เหมือนจะเดาคำตอบได้และเริ่มร้องไห้ออกมา

ซ่งเฮงเองก็เสียใจน้ำตาคลอ

ในที่สุดซ่งหยุนดาที่ขอบตาแดงก่ำในตอนแรกก็หยุดน้ำตาไว้ได้

มีเพียงอานอานเท่านั้นที่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยดวงตาอันแดงก่ำ

เป็นแค่เด็กเจ็ดขวบแต่ยังยืดกายสูงตรง

แม้ว่าในเวลานี้จะตาแดงก่ำ แต่อานอานกลับไม่ยอมให้ตัวเองหลั่งน้ำตาเลยแม้แต่หยดเดียว

ราวกับว่าถ้าน้ำตาไม่หยดลงมา เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ของเขาก็จะไม่เป็นอะไร

ตอนนี้ทุกคนต่างร้องไห้เสียใจ ไม่มีใครเลยที่สังเกตเห็นความเข้มแข็งที่น่าเจ็บปวดของอานอาน

เพราะเว่ยหวินซีมีท้อง ในไม่ช้านางจึงร้องไห้จนเป็นลม

ซ่งหยุนดาตกใจและรีบเรียกหมอหลวงมาทันที

หมอหลวงบอกเพียงว่าครรภ์ของเว่ยหวินซีกระทบกระเทือนและจำเป็นต้องพักผ่อนเงียบๆ

แต่หมอหลวงเองก็รู้ดี เวลานี้องค์หญิงใหญ่ซึ่งเป็นที่โปรดปรานที่สุดไม่อยู่แล้ว ฮองเฮาจะทรงพักผ่อนอย่างสบายพระทัยได้อย่างไร

เมื่อตระกูลเว่ยได้ยินข่าวก็รีบไปที่วังทันที

เวลานี้ตระกูลเว่ยกลายเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย จะเด็กหรือชรา ดวงตาของทุกคนแดงก่ำจนเห็นได้ชัดว่าผ่านการร้องไห้มา

เพียงแต่เมื่อเห็นทุกคนในวังเป็นเช่นนี้ ต่อให้ตระกูลเว่ยมีเรื่องอยากจะพูดอยากจะถาม ตอนนี้พวกเขาก็ไม่กล้าถามออกไป

อาจเพราะรู้สึกถึงการมาถึงของครอบครัว เว่ยหวินซีจึงตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นคนในครอบครัว นางก็นึกถึงบุตรสาวคนโตของนางขึ้นมาอีกครั้ง ความเศร้าถาโถมขึ้นมาในทันใด และน้ำตาของนางก็ไหลรินลงมาอย่างห้ามไม่อยู่

ฉวี่ซื่อเฝ้ามองด้วยความทุกข์ใจและเศร้าระทม นางทำได้เพียงก้าวไปข้างหน้าและพยายามปลอบประโลมบุตรสาวที่กำลังตั้งครรภ์

แต่พอคำพูดจ่ออยู่ที่ริมฝีปาก ฉวี่ซื่อก็พูดอะไรไม่ออก

ไม่เพียงแต่พูดไม่ออก แม้แต่ฉวี่ซื่อก็ยังร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่ได้

แค่ตัวเองนางยังปลอบใจไม่ได้ แล้วนางจะไปปลอบใจบุตรสาวได้อย่างไร

ปิงเอ๋อร์... เหตุใดชีวิตของนางจึงได้ทุกข์ยากขนาดนี้

วันดีๆ เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เหตุใดพอบอกว่าหายไปจึงหายไปเสียเฉยๆ?

ท่าทางของหญิงชราทำให้เว่ยหวินซียิ่งโศกเศร้ากว่าเดิม

เล่อเล่อเหนื่อยล้าและผล็อยหลับไปทั้งน้ำตา ไม่รู้ว่านางกำลังฝันถึงสิ่งใด นางจึงได้ร้องสะอื้นอยู่ในความฝันเช่นนี้

ห้องบรรทมของฮองเฮาถูกปกคลุมไปด้วยน้ำตา

แต่ในเวลาเดียวกันนี้เอง จู่ๆ เว่ยหวินซีก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ส่วนล้าง ท้องของนางทั้งพองและเจ็บปวด ใบหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีดอย่างฉับพลัน

“อ๊ะ!”

เว่ยหวินซีตกตะลึงและตะโกนออกมาอย่างฉับพลัน

ทุกคนมองไปที่เว่ยหวินซี เว่ยหวินซีเอ่ยด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดว่า “ขะ ข้า... น่าจะกำลังคลอด”

ทันใดนั้นภายในห้องก็วุ่ยวายเป็นการใหญ่

ระยะครรภ์ของเว่ยหวินซียังห่างจากกำหนดคลอดหนึ่งเดือนกว่า ตอนนี้ไม่เพียงแต่ไม่ใช่เดือนที่กำหนด แต่ยังไม่ถึงเดือนที่เด็กกลับหัว ดังนั้นศีรษะของเด็กจึงยังอยู่ด้านบน

คราวนี้ทุกคนต่างวิตกกังวล

โชคดีที่หลายๆ คนในวังมีประสบการณ์ด้านนี้

นอกจากนี้พี่สะใภ้ของเว่ยหวินซีหลายคนยังอยู่ที่นี่ด้วย ชั่วประเดี๋ยวเดียวความวุ่นวายจึงกลับมาอยู่ในระเบียบ

ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องรวมถึงฮ่องเต้ต่างถูกจัดการให้ออกไปจากห้องบรรทมของฮองเฮา

แต่เมื่อครรภ์ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ถือว่าเป็นเรื่องยาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง