แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 856

ตอนนี้หนานเฉินมีความสงสัยเล็กน้อย

เพราะถึงแม้เขากับเจ้านายน้อยออกมาหาคนจะพาคนออกมาไม่น้อย้ช่นกัน ก็มีคนที่กระจายอยู่ทุกที่ด้วย แต่คำพูดนั้นของเจ้านายหมายความว่า......

ถึงแม้สงสัยอยู่ แต่หนานเฉินยังคงส่งสัญญาณออกไป

ปารีย่าเห็นฉากนี้รู้สึกมีความกังวลเล็กน้อย

แต่ไม่นาน ปารีย่าก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งวิ่งมาทางนี้

คนเหล่านั้นเป็นผู้กล้าตายของนาง

ถ้ามีผู้กล้าตายเหล่านี้อยู่ คนเหล่านี้ล้วนต้องตายหมด

ใบหน้าของปารีย่ายังมีความบ้าคลั่งอยู่

ฉีเทียนเห้ามองคนเหล่านั้น แล้วมองไปทางซ่งฉงปิง"เอายาพิษให้ข้าหน่อยนึง"

ซ่งฉงปิงได้ยินเช่นนี้ก็หยิบขวดหลายขวดออกมาจากแขนเสื้อ

ฉีเทียนเห้าโยนให้องครักษ์มืดของตัวเองโดยตรง"ใช้สิ่งเหล่านี้"

เดิมทีเหล่าองครักษ์มืดเห็นผู้กล้าตายเหล่านั้นยังรู้สึกกดดันอยู่

แต่พอเห็นขวดเหล่านี้ พวกเขาก็โล่งใจเลย

มียาพิษเหล่านี้ ผู้กล้าตายก็ตายไปมากมาย เหล่าองครักษ์มืดก็โล่งใจ

แต่ผู้กล้าตายมีเยอะมาก ซ่งฉงปิงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหยิบของมากมายออกมาจากแขนเสื้อ

ตั้งแต่ที่ปารีย่าเห็นผู้กล้าหาญเหล่านั้นล้มลงไปทีละคน ยังคดเคี้ยวฟันอยู่

แต่เห็นกับตาว่ายาพิษของพวกเขาจะใช้หมดแล้ว ปารีย่าก็ดีใจขึ้นมาอีก

"เฝิงซิว หากเจ้าฆ่าผู้หญิงคนนี้ด้วยมือเอง ข้าจะปล่อยพวกเจ้า รวมถึงลูกของพวกเจ้าได้"

ระหว่างที่พูด ปารีย่าก็มองไปทิศทางของห้องนอน

ข้างในนั้นถ้าเดาไม่ผิด น่าจะยังมีเด็กอีกสองคน

ฉีเทียนเห้าได้ยินเช่นนี้ นึกถึงเด็กสองคนที่เห็นก่อนที่จะออกมา

แต่ใจเขาอยู่ที่ซ่งฉงปิงคนเดียว เลยไม่ได้สังเกตอะไรมาก

แต่สีหน้าของฉีเทียนเห้าดูใจเย็นมาก

"เจ้านึกว่า ทุกอย่างที่เจ้าทำข้าไม่รู้หรือ?"ฉีเทียนเห้ามองปารีย่า สายตานอกจากความเย็นชาแล้ว ก็เหลือแต่ความเย็นชา

ปารีย่าได้ยินเช่นนี้ สีหน้าค่อนข้างแข็ง แต่ยังคงมองฉีเทียนเห้าด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง"เจ้ารู้อะไร?"

นางไม่เชื่อว่าเขาจะรู้จริง

ฉีเทียนเห้า"ปีนั้นคนที่ช่วยข้าเป็นหมอแก่คนหนึ่ง เจ้าเดินผ่านเลยฆ่าพวกเขา แล้วพาข้ามาที่นี่"

ฉีเทียนเห้าเล่าความจริงนี้ออกมา น้ำเสียงใจเย็นและเย็นชา เหมือนเล่าเรื่องของคนอื่นอยู่

สีหน้าของปารีย่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเฝิงซิวจะรู้จริงๆ

"ในเมื่อเจ้ารู้ เหตุใดถึงไม่ไปล่ะ?"ปารีย่ากัดฟันของตัวเอง

ฉีเทียนเห้า"ก่อนที่ยังไม่ได้ฆ่าเจ้า ข้าจะยังไม่ไปหรอก"

ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องช่วยแก้แค้นให้คนที่ช่วยเขาอย่างแท้จริง

ปารีย่ารู้สึกว่าขำคำพูดนี้ของฉีเทียนเห้ามาก

แค่เขาหรือ?

ถึงแม้เขาเก่งมาก แต่หมดสติมานานขนาดนี้ แต่เขาก็มีแค่คนเดียวเอง เขาจะมีความสามารถขนาดนั้นหรือ?

แต่ไม่นานปารีย่าก็ยิ้มออกมาไม่ได้แล้ว

เพราะอยู่ๆก็มีคนเสื้อดำกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา

จำนวนของคนเสื้อดำเหล่านี้ ถึงแม้น้อยกว่าผู้กล้าตายของนาง

แต่ไม่ได้อ่อนเลย

และคนเสื้อดำเหล่านี้ ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนของนาง

เพราะคนเสื้อดำและผู้กล้าตายทั้งหมดของนางล้วนเป็นร่างใหญ่โต

แต่คนเสื้อดำเหล่านั้น ร่างกายก็ดูเท่าเทียมกัน

ปารีย่ามองไปทางฉีเทียนเห้า"คนเหล่านี้เป็นคนของเจ้าหรือ?"

ปารีย่าไม่กล้าเชื่อ

อย่าพูดถึงปารีย่า แม้กระทั่งหนานเฉินก็ไม่เชื่อเช่นกัน

ส่วนองครักษ์มืดเหล่านี้ดูได้รับการฝึกฝนจากเจ้านายจริงๆ

และก็มาจากสัญญาของตัวเองจริงๆ

แต่เรื่องเป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่?

ฉีเทียนเห้ามององครักษ์มืดเหล่านั้นทีหนึ่ง และสั่งอย่างเย็นชา"ฆ่า!"

ทันใดนั้นเหล่าองครักษ์มืดและผู้กล้าตายก็ต่อสู้กัน

เมื่อเห็นองครักษ์มืเเหล่านั้น ดวงตาของฉีเทียนเห้าก็มืดลง

ตอนที่ตื่นมาครั้งแรก ความทรงจำของเขาไม่ครบถ้วน แต่เขาจำได้ว่า ปารีย่าอยากจะทำอะไรเขา และเขาก็ตบจนนางกระเด็นออกไป จากนั้นก็หมดสติตามไปด้วย

ครั้งที่สองที่ตื่นมา เขาจำทุกอย่างขึ้นมาได้

แต่บางทีความทรงจำเป็นความเจ็บปวดชนิดหนึ่ง

พอเขานึกถึงตัวเองสูญเสียปิงเอ๋อร์ไป ก็ไม่อยากจะอยู่ต่อไปอีก

แต่พอนึกถึงครอบครัวหมอแก่ที่ช่วยเขาเอาไว้ เขาก็เริ่มวางแผนรวบรวมกำลังของตัวเอง

แต่ปารีย่าคนนั้น โลภต่อเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาเลยลงมืออีกครั้ง จึงทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บแล้วสลบไปอีกที

ครั้งที่สามที่ตื่นมา เขายังคงรวบรวมกำลังของตัวเองอยู่

พอถึงเวลานี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องสนใจคนเหล่านี้มาก เพียงต้องเสนอวิธีการฝึกฝนเท่านั้น

และคนเหล่านี้ล้วนมีจุดเหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือ ล้วนเป็นศัตรูกับปารีย่า

พอห้าปีผ่านไป เขาก็ได้จัดตั้งอำนาจของตัวเองจนได้

แต่ทุกครั้งที่ตื่นมา ความคิดเดียวของเขาก็คือทำลายจวนเจ้าเมืองแห่งหนึ่ง เพื่อแก้แค้นให้ครอบครัวนั้น

เขาไม่เคยคิดจะติดต่อคนของตัวเองเลย

อย่างแรกเป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าคนของเขาจะหาเขาอที่ซีหรงอยู่ตลอด

อย่างที่สองคือที่นี่ห่างไกลจริงๆ

อย่างที่สามคือ ปิงเอ๋อร์เสียไป ในมุมมองของเขา ไม่มีอะไรเป็นเหตุในการอยู่ต่อแล้ว ให้ทุกคนนึกว่าเขาตายแล้วยังดีกว่า

เขาเลยหมดสติไปซ้ำๆ ทุกครั้งที่ตื่นมาก็ต้องเผชิญกับความเจ็บปวด ราวกับซากศพ

วันนี้ทุกอย่างล้วนต้องจบสิ้นแล้ว

"ปกป้องตัวเองให้ดี!"ฉีเทียนเห้าพูดกับซ่งฉงปิงด้วยเสียงเบา จากนั้นโจมตีไปทางปารีย่าอย่างรวดเร็ว

ปารีย่าตกใจ ปฏิกิริยาแรกไม่ใช่โจมตีกลับ แต่เป็นการวิ่งหนี

แต่ฉีเทียนเห้าไม่ได้คิดจะปล่อยปารีย่าเลย

ถึงแม้ฉีเทียนเห้าอยู่ในสภาพแบบนี้ติดต่อกันห้าปี แต่เขาก็ยังว่องไวอยู่

สักครู่เดียวเองปารีย่าก็ถูกฉีเทียนเห้าบีบคอไว้

ปารีย่ารู้สึกหวาดกลัว

ถึงแม้ความสูงของนางเกือบเมตรแปด แต่พอเผชิญกับฉีเทียนเห้าที่สูงเมตรเก้ากว่าๆ ยังเตี้ยกว่าเยอะ

และถึงแม้ฉีเทียนเห้าผอมมาก แต่มีแรงเยอะ

ปารีย่าถูกฉีเทียนเห้าบีบคอและยกขึ้นมาอย่างง่ายดาย

ความหวาดกลัวในสายตาของปารีย่ามีแต่จะขยายมากขึ้นเรื่อยๆ

"เจ้า ปล่อยข้าสิ"

ปารีย่ากลัวตายอยู่แล้ว

แต่ดวงตาของฉีเทียนเห้ามืดทึบ ไม่มีความใจอ่อนแม้แต่นิด มีแต่ความอาฆาตอย่างเดียว

"ถึงแม้ตอนนั้นข้าไม่ใช่คนช่วยเจ้าขึ้นมาจากแม่น้ำ แต่หลายปีนี้หากไม่มีข้า เจ้าตายไปนานแล้ว"ปารีย่าพูดต่อ

ในวินาทีที่ถูกยกขึ้นมา นางก็รู้จักกลัวแล้ว รู้ว่าความน่ากลัวของความตาย

"เจ้าไม่ควรเกิดความคิดจะฆ่าพระชายาข้าเลย"หากไม่ใช่เช่นนี้ อาจจะให้นางมีชีวิตอยู่ได้

แน่นอนว่า ก็คือมีชีวิตอยู่แบบทรมาน

แต่ตอนนี้เขารู้สึกยุ่งยากเกินไป

ปารีย่าเบิกตากว้าง ความหวาดกลัวในสายตาถูกความรู้สึกเหลือเชื่อทดแทนหมด

เขา......เป็นอ๋องหรือ?

เขาเป็นใคร?

อ๋องประเทศไหน?

อยู่ๆปารีย่าก็นึกถึงเรื่องเรื่องหนึ่ง

ได้ข่าวมาว่าห้าปีก่อน อ๋องเซ่อเจิ้งของต้าชิ่งตกลงไปในแม่น้ำสายหลักของซีหรง...

หรือว่า...

"เจ้าคือฉีเทียนเห้า!"ปารีย่าไม่มีเวลาคำนึงถึงความเจ็บปวดที่ส่งมาจากคอ

นางรู้สึกเหลือเชื่อมากที่เฝิงซิวของนางเป็นอ๋องเซ่อเจิ้งของต้าชิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง