ณ ตระกูลเหยา
“เพี๊ยะ ๆ ๆ ”
เสียงไม้กระดานกระทบผิวหนังและเสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาดังขึ้นผสมปนเปทั่วทั้งตระกูลเหยา นี่เป็นโทษโบยที่หมิงซุ่นตี้ประทานให้!
ในขณะที่เหยาติ่งและเกาซื่อถูกกดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ใบหน้าของพวกเขาฟกช้ำจากการถูกทุบตีอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะเหยาติ่งที่เพิ่งกระดูกซี่โครงหักไปสองซี่ในครั้งงานล่าสัตว์วสันตฤดู และยังไม่ทันรักษาจนหายดี ตอนนี้ยังถูกทำร้ายอีกครั้ง ทำให้เขาคิดว่าอีกไม่นานคงถึงขั้นพิการอย่างแน่นอน
คนรับใช้ตระกูลเหยาทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่ในความมืด พลางชี้ไม้ชี้มือดูเรื่องที่เกิดขึ้นราวกับเป็นเรื่องขบขันทั่วๆ ไป
“หลังจากเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น คุณหนูรองไม่ถูกจับไปใส่กรงไม้ไผ่ถ่วงน้ำกับชายชู้ แต่ฮ่องเต้กลับประทานพิธีอภิเษกให้อีกด้วย”
“นั่นน่ะสิ ช่างเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อนจริงๆ”
เมื่อเหยาชิงหลีและคนอื่นๆ ออกจากพระราชวัง หมิงซุ่นตี้จึงรีบออกประกาศไปยังภายนอกทันที
กล่าวว่าองค์รัชทายาทมิได้ถูกสวมเขาแต่อย่างใด! หมิงซุ่นตี้เองก็ไม่ได้เสียสติจนแต่งตั้งเหยาอิ๋งอิ๋งเป็นเช่อเฟย
ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งสิ้น!
และกล่าวว่าเหยาอิ๋งอิ่งกับเหออี้จือมีใจตรงกัน ทั้งสองครอบครัวนัดพบกันและกำหนดงานหมั้นหมายเอาไว้
ในเพลานั้นเองที่องค์รัชทายาทตกหลุมรักนาง และยืนกรานว่าจะแต่งงานกับนางให้ได้
ฮ่องเต้ที่ยุ่งอยู่กับงานชุมนุมหมอสวรรค์และไม่มีเวลาสนใจ เมื่อเห็นเจตนาขององค์รัชทายาทจึงตอบตกลงประทานงานอภิเษกสมรสให้
ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น…
ไม่ใช่เพราะองค์รัชทายาทถูกสวมเขาหรือเล่นชู้กันสามคน แต่เป็นองค์รัชทายาทเองที่มีใจคิดแย่งสตรีมาครอบครอง จึงต้องเจ็บช้ำเพราะการกระทำของตนเอง
เพราะอย่างไรการแย่งชิงสตรีไม่ใช่เรื่องแปลกแม้เป็นถึงชายในตระกูลสูงศักดิ์ ย่อมดีกว่าการถูกสวมเขาเป็นไหนๆ
นี่เป็นข้อความที่ทางการเสนอให้
ไม่รู้ว่าคนภายนอกเล่าต่อกันว่าอย่างไร แต่คนรับใช้ของตระกูลเหยาไม่คิดเชื่ออย่างเด็ดขาด
“มีใจตรงกันมาเนิ่นนานอะไร คุณหนูใหญ่เพิ่งถูกไล่ออกจากบ้านเมื่อเดือนสิบเอ็ดของปีก่อน บัดนี้เดือนหก เพิ่งผ่านมาเพียงครึ่งปีเท่านั้น มีใจรักกันและพูดคุยเรื่องงานแต่งเอาไว้แล้ว? ตอนนั้นนางเพิ่งจะยั่วยวนพี่เขยไปไม่ใช่หรือ”
“ชู่ ทำไมเจ้าถึงจริงจังนักเล่า พวกเขาก็แค่ปิดบังเรื่องน่าอายเท่านั้น! มีข่าวลือว่านางขายหน้าในงานล่าสัตว์วันตฤดู รัชทายาทจึงไม่ชอบนาง นางเกรงว่าจะสูญเสียชื่อเสียง ดังนั้นจึงวางยาองค์รัชทายาทเพื่อบีบบังคับให้แต่งงานกัน ไม่อย่างนั้นฮูหยินคงไม่รีบพาคนไปที่นั่นหรอก”
“แต่เมื่อก่อนเหออี้จือจะมาที่นี่ทุกๆ สองสามวัน เสี่ยวหวังที่เฝ้าประตูเห็นเขาทีไรก็รู้สึกเบื่อเหลือเกิน เขาน่ะมาหาคุณหนูรองทุกวัน ต่อให้เป็นคางคกอยากกินเนื้อหงส์ ก็ต้องรอหงส์ร่อนลงมาบนพื้นดินเท่านั้นแหละ!”
“พวกเราเองก็เคยเห็นพวกเขาเกี้ยวพาราสีกันในศาลาอยู่บ่อยๆ เพียงแต่ไม่กล้าพูดอะไร คิดหรือว่าทุกคนจะดูพฤติกรรมคลุมเครือเช่นนั้นไม่ออก”
“นางจึงเป็นหญิงแพศยาอย่างไรเล่า นางอยากเป็นไท่จื่อเฟย แต่กลับยังผูกสัมพันธ์กับเหออี้จือ หากมีโอกาสนางคงอยากเหยียบเรือมากกว่าสองแคมอีกกระมัง”
“สมควรแล้วที่ใต้หล้าได้เห็น! ข้าได้ยินมาว่าเรือนร่างขาวบางนั้นเย้ายวนไม่น้อย เพลานั้นคนกลุ่มใหญ่ยังเข้าไปกระทำ... ต่อเชียวนะ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงข้ามภพ