แพทย์หญิงข้ามภพ นิยาย บท 319

“มันเปิดได้จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่กลอุบาย?”

เหยาชิงหลีหรี่ตาลงเล็กน้อย

“พวกเขาอาจสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อรักษาชื่อเสียงและตำแหน่งของหุบเขาเทียนอี อ้างว่ามียาอายุวัฒนะอยู่ในนั้นและของให้ใต้หล้าจัดงานชุมนุมหมอสวรรค์ขึ้นมา เพียงเพื่อรักษาชื่อเสียงและความรุ่งโรจน์ของหุบเขาเทียนอี ต่อไป”

“เป็นไปได้” อวี๋อ๋องยิ้มเบาๆ “ไม่ใช่แค่เจ้าหรอกนะ หลายคนก็คาดเดาเช่นนี้ หลายปีที่ผ่านมาไม่มีฮ่องเต้องค์ใดที่ไม่หวั่นไหวเลยสักองค์ แต่มีสองสิ่งที่เป็นจริง ทักษะทางการแพทย์ที่เหนือกว่าของพวกเขา เช่นเดียวกับเส้นเลือดวิญญาณของราชาหย่งซานและตระกูลเยี่ย ดังนั้นการชนะได้เข้าร่วมงานชุมนุมหมอสวรรค์ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญยิ่ง”

เขากล่าวพลางมองไปที่เสียวเป่า

ในขณะที่เหยาชิงหลีนั่งตัวตรงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

พิษบนร่างกายของเสียวเป่าเปรียบเสมือนมีดคมที่ห้อยอยู่เหนือศีรษะของนาง! นางจะต้องเข้ามร่วมงานชุมนุมหมอสวรรค์ให้ได้ เพื่อตัวของเสียวเป่าเอง

“โอ้ จู่ๆ ข้าก็รู้สึกตื่นเต้นเหลือเกิน!” ซย่าเอ๋อร์รู้สึกประหม่าจนต้องปลอบตนเองด้วยการลูบหน้าอกเบา ๆ “งานชุมนุมหมอสวรรค์... มันยากหรือไม่เจ้าคะ”

“ยากแน่นอนอยู่แล้ว!” ชิวอวิ๋นหันไปมอง “ท่านอ๋อง ท่านคิดอย่างไรเจ้าคะ”

“อันที่จริง ไม่ควรประมาท” อวี๋อ๋องกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “” ว่ากันว่าหุบเขาเทียนอีรับสมัครหมอที่เก่งที่สุดในใต้หล้า ทว่าหมอมีฝีมือหลายคนไม่เต็มใจเข้าร่วมหุบเขาเทียนอี แม้ว่าพวกเขาจะเข้าร่วม แต่จะทำหน้าที่เป็นลูกศิษย์สายนอกเท่านั้น เพราะเมื่อกลายเป็นศิษย์สายในแล้ว จะไม่สามารถออกจากเมืองเทียนอีซึ่งเป็นที่ตั้งของหุบเขาเทียนอีได้"

“นอกจากนี้ ราชวงศ์ต้าฉู่ของเรายังอยู่อันดับท้ายสุดของสี่แคว้นในแง่ของทักษะทางการแพทย์ ดังนั้นฝีมือทางการแพทย์ของท่านหมอจึงไม่สามารถเป็นตัวแทนความแข็งแกร่งของอีกสามแคว้นได้เลย”

เหยาชิงหลีเลิกคิ้วทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น อืม ก็จริง เมื่อก่อนข้าเคยดูหมิ่นทักษะทางการแพทย์ของโลกใบนี้เพราะท่านหมอจริงๆ

แต่หลังจากได้ยินอวี๋อ๋องพูดถึงเส้นเลือดวิญญาณของหุบเขาเทียนอี นางจึงตระหนักอะไรบางอย่างได้

นางมาจากยุคปัจจุบัน มีทักษะทางการแพทย์ที่ทันสมัย แต่บางอย่างในโลกใบนี้ที่ไม่มีอยู่ในยุคปัจจุบัน และนั่นคือสิ่งอัศจรรย์ ตัวอย่างเช่น เส้นเลือดวิญญาณ

ทักษะทางการแพทย์สมัยใหม่ไม่อาจเอาชนะได้

แต่นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงน่าสนใจใช่ไหมล่ะ

เมื่อคิดดังนั้น เหยาชิงหลีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ไม่รู้ว่ากี่ปีแล้วที่นางไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ตั้งแต่เป็นผู้นำด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน