บทที่ 139 ง่ายดาย
“นั่นคือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับมัน.”
หลังจากลั่วอู๋พูดจบเขาก็พบว่าทั่วทั้งศาลาไป่หยู่เต็มไปด้วยความเงียบงัน ทุกคนมองเขาราวกับว่าพวกเขากำลังฟังสารจากสวรรค์
ใช่แล้ว
พวกเขาไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับมันมาก่อน
ซึ่งที่ลั่วอู๋พูดมาก็ดูฟังขึ้นอยู่ และบางทีมันอาจจะเป็นเรื่องจริง
เฉินหมิงหยู่จ้องไปที่ลั่วอู๋เป็นเวลานานแล้วก็พูดขึ้น “ท่านลุงหลงได้โปรดตรวจสอบอายุของเขาอีกครั้ง ข้าสงสัยว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดชราที่มีใบหน้าของเด็กหนุ่ม”
หลงเซี่ยเดินเข้ามาเพื่อตรวจสอบลั่วอู๋อีกครั้ง แต่เขาก็พยักหน้าให้เฉินหมิงหยู่พร้อมบอกว่าก็ไม่มีปัญหาอะไร เด็กหนุ่มคนนี้อายุ 18 ปี
ดูจากท่าทางของอีกฝ่ายแล้วฝูงชนต่างก็เข้าใจ
เจ้าของร้านลั่วน่าจะพูดถูก
ชิงเฟิงช่างเป็นสัตว์วิญญาณที่วิเศษจริงๆ
เฉินหมิงหยู่โกรธมากจนเกือบดึงผมตัวเองออกมา “เจ้ารู้ได้อย่างไร ข้าต้องตรวจสอบบันทึกโบราณมานับไม่ถ้วน เพื่อทราบที่มาและข้อมูลของมัน”
“ปกติข้าชอบอ่านหนังสือ” ลั่วอู๋กล่าวด้วยสีหน้านิ่ง
หลี่หยินมองไปที่ลั่วอู๋ด้วยความสับสน นางคิดไม่ออกว่าปกติแล้วนายน้อยของนางไปอ่านหนังสือที่ไหนมา
ตั้งแต่ยังเด็กจนถึงตอนนี้ลั่วอู๋ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะได้กลายผู้ใช้พลังวิญญาณ เขาจึงไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะอ่านบันทึกอันล้ำค่าของตระกูลลั่วด้วย
แต่
ในฐานะสาวใช้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมหลี่หยิน ต้องปฏิบัติตามกฎสองข้ออย่างแน่วแน่
ประการแรกนายน้อยถูกเสมอ
ประการที่สองถ้าเริ่มคิดว่าเขาผิดให้กลับไปที่ข้อแรก
หลี่หยินสะกดจิตตัวเองให้คิดว่านายน้อยนั้นชอบอ่านหนังสือมาก
“เป็นพวกรักการอ่าน …งั้นเหรอ ” เฉินหมิงหยู่แทบรับไม่ได้ที่ตนพ่ายแพ้ด้วยเหตุผลแบบนี้ นางกัดฟันแล้วพูดว่า “เป็นโชคดีของเจ้าล่ะนะ”
แน่นอนว่ามันเป็นเพียงเพราะโชคช่วย
โดยไม่ได้ตั้งใจเขาเห็นมันในหนังสือ ถ้าไม่ใช่โชคจะเรียกว่าอะไร
ลั่วอู๋ยักไหล่และไม่ปฏิเสธ
“เดี๋ยวก่อน!” เฉินหมิงหยู่รู้สึกขัดใจแปลก ๆ จึงถามออกไปว่า “วิหคกระจกเงาอมตะมีทักษะบางอย่างของนกอมตะ แต่วิหคกระจกเงาอมตะแต่ละตัวก็มีทักษะที่แตกต่างกัน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่านกของข้ามีทักษะอะไร?”
โอ้ เขารู้สึกลำบากใจ นั่นก็เพราะลั่วอู๋ใช้วิธีลับของตัวเอง
แน่นอนว่าเขาอ่านข้อมูลของสัตว์วิญญาณผ่านทางไหปีศาจ ดังนั้นเขาจึงบังเอิญอ่านทักษะทั้งหมดที่สัตว์วิญญาณตัวนั้นมีออกมาด้วย
“ข้าแค่เดาว่าแต่ข้าเดามันถูกได้อย่างไรเนี่ย ?” ลั่วอู๋ถาม
เฉินหมิงหยู่จ้องมองที่ลั่วอู๋อย่างสงสัย
“อย่าได้ใจไปน่า นี่แค่สัตว์วิญญาณตัวแรก” เฉินหมิงหยู่ใช้งานแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ระดับจักรพรรดิอีกครั้ง
โดยคราวนี้มันเปล่งแสงสีม่วงสว่างวาบออกมา
สัตว์วิญญาณในคราวนี้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ เหมือนเด็กอายุเจ็ดหรือแปดขวบ แต่มันไม่น่ารักเพราะมันไม่มีเท้าและท่อนล่างของร่างกายเป็นกลุ่มควันสีดำลอยอยู่ ทั้งตัวเป็นสีม่วงพร้อมกับห่วงสีขาวบนหน้าผาก มันมีใบหน้าอันน่ากลัวและคมเขี้ยวอันดุร้าย
“วิญญาณร้าย!” เสียงของใครบางคนสั่นและตะโกนออกมา
สัตว์วิญญาณตัวนี้สอดคล้องกับนิยามของวิญญาณร้ายในจิตใจของผู้คน
“ไม่ต้องกลัวน่า ถึงมันจะดูน่ากลัว แต่มันเป็นสัตว์วิญญาณที่มีจิตใจดีมาก” เฉินหมิงหยู่กล่าวด้วยเสียงดัง
เมื่อได้ยินเฉินหมิงหยู่พูดออกมาเช่นนั้นผู้คนก็โล่งใจขึ้น
เฉินหมิงหยู่กล่าวต่อไปว่า “ข้าพบสัตว์วิญญาณตัวนี้ในเขตเกาหยาง ตอนนั้นข้าบังเอิญตกลงไปในบ่อน้ำที่แห้งแล้ง จากนั้นก็เข้าสู่มิติลึกลับซึ่งทำให้ข้าพบกับหนูน้อยคนนี้ เจ้าลองบอกมาสิว่ามันคือสัตว์วิญญาณแบบไหน”
ลั่วอู๋มองไปที่สัตว์วิญญาณที่ลักษณะดูเหมือนเด็กน้อย
เขาอ่านข้อมูลของมันอย่างรวดเร็ว
“สัตว์วิญญาณตัวนี้เรียกกันว่าเด็กผี ว่ากันว่าเป็นสัตว์วิญญาณที่เกิดจากความอาลัยของเด็กทารกที่ตายไปแล้ว จากนั้นมันก็ถูกผ่าด้วยสายฟ้าฟาดในวันที่ฟ้าร้อง เกิดขึ้นเป็นตัวมัน”
“ แต่เพราะสายฟ้าที่ผ่าลงมา ความแค้นของมันจึงได้เหือดหายไป มันกลับมาเป็นจิตบริสุทธิ์ จนสามารถบอกว่ามันเป็นสัตว์วิญญาณที่มีจิตใจดี เด็กผีเป็นสัตว์วิญญาณที่หายากมาก โดยมีอีกรูปแบบหนึ่งที่คล้ายกัน ซึ่งเกิดขึ้นจากความอาลัยของทารกที่ตายไปแล้ว แต่ได้ดูดซับอารมณ์เชิงลบของสัตว์วิญญาณต่างๆ จนกลายเป็นสัตว์วิญญาณชั่วร้ายอย่างแท้จริง ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ