ไหปีศาจ นิยาย บท 140

บทที่ 140 ลูกศิษย์

เฉินหมิงหยู่กล่าวอย่างเย่อหยิ่งว่า “หึ เจ้าก็แค่ระดับเทียบเท่ากับข้าเท่านั้น ข้าเองก็รู้จักสัตว์วิญญาณพวกนี้ทั้งหมดมาก่อนอยู่แล้ว”

“แล้วมันยังไงล่ะ ข้าผ่านการทดสอบของเจ้าแล้ว ดังนั้นเจ้าต้องเรียกข้าว่าอาจารย์เดี๋ยวนี้” ลั่วอู๋หัวเราะ

“เจ้า … ” เฉินหมิงหยู่โกรธ “ข้าไม่ยอมรับหรอกน่า”

“ไม่พอใจงั้นเหรอ ? งั้นทำไมเจ้าไม่ให้ข้าได้ทดสอบเจ้าบ้างล่ะ” ลั่วอู๋พูดสวนไปในทันที

เฉินหมิงหยู่เม้มริมฝีปากของนาง “เจ้าจะทดสอบอะไร”

“ เนื่องจากเจ้าคิดว่าเจ้าได้เห็นสัตว์วิญญาณมามากแล้ว ข้าเองก็จะเรียกสัตว์วิญญาณออกมาหลายแบบ เพื่อให้เจ้าระบุชื่อและที่มาของมันบ้าง” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเจ้าผ่านการทดสอบ เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเรียกข้าว่าอาจารย์ และการทดสอบที่ผ่านมาของวันนี้ถือเป็นโมฆะ”

เฉินหมิงหยู่ใจชื้นขึ้นมาในทันที นางตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “ไม่มีปัญหา”

หึ

เจ้าคิดว่าเรื่องข้อมูลเชิงลึกสัตว์วิญญาณ ข้าคนนี้จะสู้เจ้าไม่ได้หรือ?

“อย่างไรก็ตาม หากเจ้าไม่ผ่านการทดสอบ เจ้าไม่เพียงแต่ต้องบูชาข้าในฐานะอาจารย์ แต่ยังรวมถึงเจ้าต้องยกวิหคกระจกเงาอมตะของเจ้าให้ข้าด้วย” ลั่วอู๋ กล่าว

เฉินหมิงหยู่รู้สึกประหลาดใจ “ข้าทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ชิงเฟิงเป็นสัตว์วิญญาณที่ข้ากำลังจะทำพันธสัญญาด้วย เพียงแต่ตอนนี้ระดับมิติวิญญาณของข้านั้นยังสูงไม่พอ”

“ก็นะ” ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “เจ้าปล่อยให้วิหคกระจกเงาอมตะ อยู่ที่นี่สักระยะนึงก็ยังดี ข้ามีแผนจะใช้ประโยชน์จากมันนิดหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะคืนมันกลับไปให้อย่างสมบูรณ์แบบ”

เฉินหมิงหยู่ลังเลไปพักใหญ่ จากนั้นก็พยักหน้า

“ไปที่ลานหลังร้านกันก่อนดีกว่า” ลั่วอู๋กล่าว

เขาพาเฉินหมิงหยู่, เฉินซังเทียน และหลงเซี่ย ไปที่ลานหลังร้านโดยไม่ได้ให้ฝูงชนที่มาออกันหน้าร้านตามมา จากนั้นลั่วอู๋ก็เริ่มเรียกสัตว์วิญญาณของเขาออกมา

ขั้นแรกลั่วอู๋ได้นำหนอนอมรณาออกมาจากไหปีศาจ

ตอนนี้หนอนอมรณาได้ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว ร่างกายที่ใหญ่โตของมันบิดเบี้ยว ดูเหมือนพร้อมที่จะเจาะลงไปในดิน มันช่างดูน่ารังเกียจ

เฉินหมิงหยู่คิดสักครู่และลังเล “หนอนอมรณา?”

“ถูกต้องแล้ว” ลั่วอู๋หัวเราะ

เฉินหมิงหยู่ยิ้มอย่างมีชัย

เจ้าคิดว่าความรู้ของข้าเป็นเรื่องตลกนักเหรอ? ข้าเคยเห็นสัตว์วิญญาณแบบนี้ในบันทึกมาแล้ว

แต่ก็ไม่นึกว่าตัวจริงจะน่าขยะแขยงยิ่งกว่าที่บันทึกไว้ในหนังสือได้ขนาดนี้เหมือนกัน

“งั้นไปที่ตัวที่สองกันเลย”

ลั่วอู๋ปล่อยนกหน้าโง่ออกมา

นกหน้าโง่เชิดคออย่างดูหยิ่งผยอง พร้อมมองทุกคนด้วยสายตาดูถูกยกเว้นลั่วอู๋

“จิงหลวน!” เฉินหมิงหยู่รู้สึกประหลาดใจมากจนนางเกือบจะตะโกนออกมา แต่ในไม่ช้านางก็สงบลง

“ไม่ ไม่น่าใช่ จิงหลวน นี่เป็นนกที่มีสายพันธ์ใกล้ ๆ กับนกฟีนิกซ์ สัตว์วิญญาณตัวนี้เป็นหนึ่งในสายเลือดของจิงหลวน แต่มันเป็นสัตว์วิญญาณแบบไหน ขนมันเป็นสีขาวทั้งตัว แต่ทำไมที่แผงคอกลับมีขนหลากสี … ”

“มันขนสีขาว แต่ก็อาจจะไม่ได้หมายความว่ามันมีสายเลือดของจิงหลวน” เฉินหมิงหยู่ลังเลอยู่นานก่อนที่นางจะพูดออกมาว่า “มันคือห่านเล้งกงรึเปล่า แม้ว่ามันจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่มันก็น่าจะเป็นห่านเล้งกง ไม่ก็เป็นห่านกลายพันธุ์”

ห่านเล้งกงเป็นนกที่มีสายเลือดของหงส์มันจึงมีขนสีขาว

“ถูกต้องแล้วมันเป็นสัตว์วิญญาณกลายพันธุ์ แต่มันไม่ใช่ห่านเล้งกง” ลั่วอู๋ กล่าว

แน่นอนว่าตอนนี้ลั่วอู๋ยังไม่ได้ตั้งชื่อสายพันธุ์ของนกหน้าโง่

เขาจึงตอบไปว่า “มันคือแร้งทรายกลายพันธุ์”

ข้าไม่เชื่อหรอก

แร้งทรายเนี่ยนะ?

อย่ามาล้อเล่นน่า นกหน้าโง่ตัวนี้ดูไม่เหมือนแร้งทรายเลยสักนิด

เฉินหมิงหยู่หงุดหงิดพูดเร่งต่อ “เอาตัวต่อไปออกมาเถอะ”

ลั่วอู๋เรียกฉูจงฉวนและหยู่เฮาออกมา เพื่อให้พวกเขาเรียกภูตทะเลทรายของพวกเขาออกมา

สัตว์วิญญาณทรายขนาดใหญ่และภูตทะเลทรายตัวเล็กตัวน้อยแสนน่ารัก ทั้งคู่ปรากฏตัวขึ้นที่ลานหลังร้าน

“ข้าจะลดความยากลงให้เล็กน้อย ระหว่างสัตว์วิญญาณสองตัวนี้ ตราบใดที่เจ้าสามารถเดาได้ว่าตัวไหนไม่ใช่ภูตทะเลทรายในตำนาน ข้าจะถือว่าเจ้าชนะ” ลั่วอู๋ กล่าว

ตัวไหนไม่ใช่?

มันเป็นคำถามที่แปลกประหลาด

เฉินหมิงหยู่มองไปที่สัตว์วิญญาณทั้งสองที่อยู่ตรงหน้านาง

ไม่มีใครเคยเห็นพวกมันมาก่อนแน่ ๆ

แม้ว่านางจะเคยเห็นข้อมูลของภูตทะเลทรายในบันทึกโบราณ แต่นางก็ไม่ได้ประทับใจในตัวมันมากนัก นอกจากนี้คำอธิบายของภูตทะเลทรายในบันทึกโบราณยังค่อนข้างคลุมเครือ

ต้องเดาอย่างใดอย่างหนึ่ง

ดวงตาของ เฉินหมิงหยู่กระพริบและลังเลที่จะตอบว่า “เจ้าตัวเล็กตัวนี้ไม่ใช่ ภูติทะเลทราย”

“ยินดีด้วย เจ้าตอบผิด” ลั่วอู๋ยิ้ม

ปากของเฉินหมิงหยู่ปูด

มีเพียงฉูจงฉวนและหยู่เฮาเท่านั้นที่มองไปที่ เฉินหมิงหยู่ด้วยความสงสาร

เจ้าเดาไปเถอะ

ใครจะคิดว่าสัตว์วิญญาณทั้งสองตัวนี้คือภูติทะเลทราย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ