บทที่ 155 ปีศาจไม้แห่งความตาย
ลั่วอู๋ตรวจสอบความเสียหายของฝูงแร้งทรายและเหยี่ยวหยกขาวคร่าว ๆ
ฝูงแร้งทรายนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง สัดส่วนความสูญเสียจึงค่อนข้างน้อยประมาณ 2 ใน 5 ของฝูง เหยี่ยวหยกขาว
ฝูงเหยี่ยวหยกขาวนั้นค่อนข้างน่าสงสาร เนื่องจากพวกมันมีจำนวนมาก แต่กลับมีพลังในการต่อสู้เพียงเล็กน้อย ทักษะการโจมตีส่วนใหญ่เองก็เป็นแบบกลุ่ม การที่จะสามารถจัดการกับผู้ใช้พลังวิญญาณหรือปั่นป่วนได้เป็นเรื่องยาก ทำให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งฝูง
ความเป็นจริงนี้ทำให้นกโง่ปวดใจ
ลั่วอู๋พาพวกมันกลับไปในมิติไห พร้อมหวังว่าพวกมันจะสามารถขยายพันธุ์และกลับไปเป็นฝูงใหญ่ได้ดังเดิม
“แกว๊ก!”
นกหน้าโง่กระพือปีก มันดูจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ลั่วอู๋พูดขอโทษอย่างช่วยไม่ได้ “ข้ารู้ว่าเจ้าสูญเสียไปมาก ข้าสัญญาว่าข้าจะช่วยเจ้าฝึกฝนแร้งทรายชั้นยอดและเหยี่ยวหยกขาวชั้นยอดออกมามากขึ้น ตกลงไหม?”
แน่นอนว่าด้วยวิธีเดียวกับที่ให้กำเนิดนกโง่ขึ้นมา
ลั่วอู๋พานกโง่กลับไปในไหปีศาจและเห็นคงฉินเดินเข้ามาจากระยะไกลพร้อมกับลูกน้องของเขา
“ขอบคุณมาก เจ้าของร้านลั่ว” คงฉินมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าแบบเดียวกับเหล่าผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าที่ใช้ในการตรวจสอบสถานการณ์ของผู้คนใต้อาณัติ
นั่นทำให้ลั่วอู๋รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจนักว่าต้นตอของความไม่สบายใจนี้มาจากไหน
ลั่วอู๋ส่ายหัว “ ไม่เป็นไร ยังไง ๆ พวกเราก็มีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันอยู่แล้ว พวกเราต้องมีส่วนร่วมสิถึงจะถูก”
คงฉินมองไปที่ฉูจงฉวนและหยู่เฮา “พวกเจ้าทั้งสองมีทักษะที่ดีจริงๆ สนใจจะมาเข้าร่วม พรรคหวงชาของพวกเราหรือไม่?”
“ไม่สนใจล่ะ” ฉูจงฉวนกลอกตาของเขา
ล้อเล่นใช่ไหม? ให้ข้าคนนี้ไปเป็นสมาชิกขององค์กรที่ขาดความสุขของเจ้าเนี่ยนะ?
แต่ถ้าเจ้าขอให้ข้าไปเป็นหัวหน้าก็ยังพอถูไถได้แหละ
ส่วนหยู่เฮานั้นไม่มีคิดอะไรมากและเกาหัว “ข้าทำแบบนั้นไม่ได้”
สักวันหนึ่งหยู่เฮาจะต้องกลับไปที่ภูเขาแห้งแล้ง เขาไม่มีแผนที่จะอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน การเข้าร่วม พรรคหวงชานั้นจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี
แต่คงฉินไม่รู้เรื่องเหล่านี้ ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ดูไม่พอใจเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็ปรับอารมณ์ได้ “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”
ลั่วอู๋ถามเขาไปว่า “ท่านคงฉิน ลูหยางพิงยังไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเลยหรือ?”
“ไม่เลย ข้าเองก็สงสัยเหมือนกัน” คงฉินกล่าว “เขาไม่ได้ปรากฏตัวเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ดูเหมือนเพื่อที่จะยกระดับมิติวิญญาณของเขา เขาไม่ได้สนใจชีวิตของลูกน้องด้วยซ้ำเลยละมั้ง?”
หากลูหยางพิงปรากฏตัวขึ้น มันก็ยากที่ฝ่ายของเขาจะได้รับความพ่ายแพ้เช่นนี้
ด้วยความแข็งแกร่งของลูหยางพิงที่เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองคำมิติ 6 ในปัจจุบัน ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงธรรมดา ๆ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย คงมีเพียงคงฉินเท่านั้นที่พอจะสูสีกันได้
ตอนนี้ฝ่ายของเขาได้พักผ่อนบ้างแล้ว
กองทัพฝ่ายคงฉินจึงกำลังเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของพรรคหวงชา ฐานที่ตั้งของฝ่ายลูหยางพิง
คงฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ลั่วอู๋เจ้ายืนจะอยู่ข้างหลังแบบนี้ได้อย่างไร ในเมื่อพี่น้องบางคนในศาลาไป่หยู่ของเจ้ายืนอยู่ข้างหน้า”
“ไม่เป็นไร ข้าไม่ชอบที่จะออกหน้าออกตามากจนเกินไป” ลั่วอู๋ปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
แต่ด้วยที่คงฉินยังไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงปฏิเสธ เขาจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกลั่วอู๋ไปร่วมยืนอยู่ทางแถวหน้าของกองทัพ
เมื่อไม่สามารถคำเชิญอันอบอุ่นของอีกฝ่ายได้ ลั่วอู๋และพรรคพวกจึงได้เดินไปอยู่แถวหน้า
“ข้างหน้านี้คือสำนักงานใหญ่ของพรรคหวงชา” คงฉินเริ่มอธิบายให้พรรคพวกฟัง
มันเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์
“สัตว์วิญญาณที่ทรงพลังที่สุดของลูหยางพิง คือปีศาจไม้แห่งความตายระดับทองที่มีศักยภาพสามารถไปถึงระดับเพชรได้ ร่างกายที่แท้จริงของมันใหญ่โตและมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก”
ลั่วอู๋ประหลาดใจปีศาจไม้แห่งความตาย
นี่คือสัตว์วิญญาณประเภทหนึ่งที่หาได้ยาก
ปีศาจไม้แห่งความตายเป็นสัตว์วิญญาณประเภทปีศาจ แต่ปีศาจไม้นั้นยากมากที่จะพัฒนาและสร้างภูมิปัญญาให้กับตนเองได้ มีเพียงปีศาจไม้อายุเพียงพันปีขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถมีภูมิปัญญาได้
ดังนั้นปีศาจไม้แห่งความตาย จึงถือว่ามีพลังมากในหมู่ปีศาจไม้ทั้งหมด
ลั่วอู๋ถามอย่างสงสัย “ข้าได้ยินมาว่าปีศาจไม้แห่งความตายนั้นมีพลังที่แข็งแกร่ง มันมีความสามารถในการควบคุมพลังวิญญาณและสถานการณ์อันยอดเยี่ยม แต่ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของมันไม่ได้สูงนัก”
“นั่นก็จริงอยู่ มันเป็นเรื่องที่ทำให้ข้างงงวยเช่นกันว่าทำไมปีศาจไม้แห่งความตายของเขา ถึงทรงพลังอย่างหาคำอธิบายไม่ได้” คงฉินกล่าวอย่างหมดหนทาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ