บทที่ 156 เดินหน้า
“เจ้าพูดแบบนี้ เจ้าหมายความว่ายังไง” ฉูจงฉวนเข้าใจถึงความหมายของคำพูดที่อีกฝ่ายกำลังจะสื่อ คนที่พูดแบบนี้ออกมาไม่ใช่คนที่ดีแน่ เขาจับจ้องไปที่คงฉินในทันที
คงฉินตอบอย่างแผ่วเบา “ฉูจงฉวน เจ้าอย่าวางท่าเป็นนายน้อยต่อหน้าข้า ที่นี่ไม่ใช่มณฑลหมิงหนานในทางใต้ ที่นี่คือเขตหวงชา”
ปลายนิ้วของฉูจงฉวนมีไฟสีเขียวแล่บขึ้นมาราวกับว่าพร้อมจะต่อสู้
แม้แต่หยู่เฮาก็ยังเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและยกขวานขึ้นมาพร้อมที่จะต่อสู้เช่นกัน
ด้านหลังของคงฉินเหล่าผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงแปดคนได้ก้าวขึ้นมาข้างหน้า
พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาก็เลือกที่จะหนุนหลังให้คงฉิน หากฉูจงฉวน กล้าที่จะทำเปิดศึกก่อน พวกเขาก็พร้อมที่จะต่อสู้เช่นกัน
ลั่วอู๋หยุด ฉูจงฉวน ใบหน้าของเขาดูมืดมนมาก “ท่านคงฉินก็กังวลมากเกินไป ท่านก็น่าจะรู้ว่าถ้าพวกเราต่อสู้กันที่นี่คนของท่านอาจจะไม่อยู่ในสภาพที่ดีนัก”
คงฉินหรี่ตาลงเล็กน้อยจากนั้นเขาก็หัวเราะ “เจ้าของร้านลั่วกำลังพูดถึงอะไร พวกเราเป็นพันธมิตรกันนะ ข้าจะโจมตีเจ้าได้อย่างไร”
“ท่านต้องการอะไร?” ลั่วอู๋กระซิบ
คงฉินกล่าวขึ้นมาอย่างช้าๆ “ถ้าพวกเจ้าฆ่าปีศาจไม้แห่งความตายตัวนั้นได้ ข้าจะไม่เจ้ากี้เจ้าการอะไรกับเจ้ามาก เพราะพวกเราเป็นพันธมิตรกัน”
เขายังคงต้องการรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองอยู่
หากทะเลาะกันตรงนี้มันจะเสียชื่อเสียง
สิ่งที่ดีที่สุดคือ ถ้าคนของทางศาลาไป่หยู่ถูกฆ่าคนไปหลายคนในการต่อสู้กับปีศาจไม้แห่งความตาย เพื่อให้เขามั่นใจได้ว่าศาลาไป่หยู่จะไม่เป็นภัยอีก เขาก็ไม่มีความคิดจะเปลี่ยนข้อตกลงพันธมิตรไปจากเดิม
“ เจ้าจริงจังใช่ไหม ?” ลั่วอู๋พยายามระงับไฟที่กำลังปะทุอยู่ในใจ
คงฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนสิ พวกเจ้าเป็นกำลังรบที่แข็งแกร่งมาก”
ลั่วอู๋หายใจเข้าลึก ๆ และหันไปมองที่ปีศาจไม้แห่งความตายขนาดยักษ์ตัวนั้น
หยู่เฮาเกาหัว “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เขายังคงสับสนเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ลั่วอู๋กล่าวขอโทษ “ข้าขอโทษจริงๆเป็นความผิดของข้าเอง ที่พวกเราต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าในศึกก่อนหน้านี้ข้ายั้งมือให้มากกว่านี้ละก็”
ถ้าเขาไม่ลงมือปล่อยฝูงนกออกมา ผู้ใต้บังคับบัญชาของคงฉินก็คงจะถูกฆ่าและได้รับบาดเจ็บกันมากกว่านี้ และเขาก็คงจะไม่มีความคิดที่จะระแวงว่าพวกลั่วอู๋จะมีอำนาจถ่วงดุลอะไรในอนาคตรึเปล่า
“แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดีล่ะ ?” ฉูจงฉวนถามด้วยเสียงต่ำ
ลั่วอู๋ลดเสียงลง “พวกเราจะเข้าต่อสู้กับปีศาจไม้แห่งความตาย จากนั้นพวกเราก็จะหาโอกาสหนีออกจากสนามรบในทันที”
พวกเขาสบตากันและพยักหน้าให้กันเป็นการตกลง
ลั่วอู๋, หลิวหู, หยู่เฮา และ ฉูจงฉวน จะเข้าต่อสู้ปีศาจไม้แห่งความตายขนาดยักษ์
ขณะเดียวกัน
พลังชีวิตอันแข็งแกร่งลอยออกมาจากทางสำนักงานใหญ่
ปีศาจไม้แห่งความตายที่รู้สึกได้ถึงพลังที่เอ่อล้นก็เริ่มโกรธ ทั้งร่างของมันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
จากนั้นผืนดินโดยรอบเองก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“นี่มันกลิ่นตอไม้ศักดิ์สิทธิ์” คงฉินตกใจมาก
อย่างที่รู้ ๆ กันว่ามีตอไม้อันน่ากลัวตั้งอยู่ที่ใจกลางเมือง โดยตอไม้นั้นมีพลังวิญญาณอันแข็งแกร่ง พลังอันน่ากลัวที่มีไอของความตาย
นี่คือเหตุผลที่เมืองนี้มีชื่อว่าไมมู่
แต่ตอนนี้กลิ่นตอไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ลอยออกมาจากสำนักงานใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของลูหยางพิง!
เขาดึงผนึกออกมาอย่างงั้นหรือ?
เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่!
ต่อมาพลังวิญญาณมหาศาลก็พุ่งเข้าสู่ร่างของปีศาจไม้แห่งความตาย ลมปราณของมันเริ่มแข็งตัวรวมเป็นก้อนเดียวและทรงพลังขึ้น
“อา…”
ปีศาจไม้แห่งความตายเปล่งเสียงอันหนักหน่วงและเจ็บปวด
เปลือกของมันเริ่มแตกออก ร่างกายของมันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น กิ่งก้านตามตัวของปีศาจไม้แห่งความตายเริ่มเรืองแสงและใบก็เริ่มเจริญเบ่งบานขึ้นเรื่อย ๆ
แกร๊ก
เสียงเหมือนมีบางอย่างแตกหัก
ทันใดนั้นระดับวิญญาณของปีศาจไม้แห่งความตายก็ขึ้นสู่ระดับใหม่
ผู้คนต่างมองไปที่ปีศาจไม้แห่งความตายด้วยความกลัว
มันคือสัญญาณของความก้าวหน้า!
สัตว์วิญญาณระดับเพชร!
แม้ว่ามันจะเพิ่งเลื่อนขั้นเป็นระดับเพชร แต่ระดับเพชรก็คือระดับเพชร สัตว์วิญญาณระดับเพชรในเขตหวงชาหมายถึงความโดดเด่นแข็งแกร่งที่ไม่มีใครอาจเทียบได้
ไม่มีใครคิดว่าปีศาจไม้แห่งความตายบุกทะลวงระดับได้ด้วยพลังของตอไม้ศักดิ์สิทธิ์
ปีศาจไม้แห่งความตายที่มีความแข็งแกร่งระดับเพชร หากรวมเข้ากับ ลูหยางพิงที่เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองมิติ 6 ก็คงสามารถกวาดล้างพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
นอกเสียจากฝั่งของคงฉินจะมีพลังในต่อสู้ระดับเพชรเพิ่มมาด้วยเช่นกัน
น่าเสียดายที่พวกเขายังไม่มีสิ่งนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ