เขาไม่แปลกใจเลยที่ผลจะจบลงแบบนี้
หลังจากที่ได้ดูดซับแก่นของวิญญาณมาจากพระราชวังวิญญาณแล้ว ความแข็งแกร่งของภูตไฟก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ภูตทะเลทรายเองก็ได้รับทักษะใหม่ ๆ มากมายจากการปรับแต่งของลั่วอู๋ ทำให้ฉูจงฉวนแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้มู่เฉิงเองก็ได้รับบาดเจ็บมาก่อน และต้องคอยใช้พลังวิญญาณส่วนหนึ่งในการยับยั้งแมลงกินวิญญาณอยู่ตลอดเวลา มันจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้
ท้ายที่สุดมู่เฉิงก็ล้มลงไปบนพื้นความบาดหมางของตระกูลควบคู่ไปกับการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง พวกเขาเติบโตขึ้นจากความขัดแย้งของพวกเขา และไม่สามารถสมานฉันท์กันได้
อย่างไรก็ตามเมื่อมู่เฉิงตายลงต่อหน้าต่อตาเขา ฉูจงฉวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหงาและเศร้าโศก
“เส้นทางของอัจฉริยะ มันช่างเงียบเหงาเหมือนวันที่หิมะตกจริง ๆ” ฉูจงฉวนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า น้ำเสียงของเขาดูเศร้าโศก
ลั่วอู๋กลอกตาของเขา “อย่ามาน้ำเน่าอะไรตอนนี้น่า สงครามที่นั่นกำลังจะจบลงแล้ว พวกเราควรจะรีบไปดูผล”
“อืม ”ลั่วอู๋นับจำนวนคนแล้วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ทั้งสองฝ่ายน่าจะเหลือเพียงฝ่ายล่ะ 40 คน นี่มันน่าเศร้าจริงๆ”
จากตอนแรกสุดที่มีผู้เข้าร่วมการทดสอบรอบที่สองมากกว่า 700 คน พวกเขารอดชีวิตมาได้ในที่สุด แม้ว่าจะยังไม่ได้นับคนที่รวบรวมแผ่นหยกได้เพียงพอจึงไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ แต่อัตราการรอดชีวิตนั้นก็ยังถือว่าน่ากลัว
ที่ผ่านมาอัตราการเสียชีวิตมากกว่าครึ่งนั้นถือว่าสูงเกินจริงไปมาก
เพราะตามหลักแล้วไม่จำเป็นต้องฆ่าอีกฝ่ายก็ได้ และการต่อสู้ส่วนใหญ่ก็ทำไปเพื่อชิงแผ่นหยก หลังจากที่สละแผ่นหยกไปแล้วพวกเขาก็ไม่สมควรโดนโจมตีอีก
แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีกลุ่มแบบพันธมิตรล่าสังหารปรากฏขึ้นมา
ผู้ที่ต้องการผ่านรอบสองด้วยวิธีการอันไร้สามัญสำนึก รบกวนความเป็นปกติของการทดสอบทำให้คนเสียเลือดเสียเนื้อกันไปมาก
“ตอนนี้เราไม่มีแผ่นหยกกันแล้ว พวกเราจะทำยังไงดี?” ฉูจงฉวนถาม
ลั่วอู๋ครุ่นคิดสักครู่ “คงทำได้แค่ภาวนาให้มีคนตายมากพอล่ะมั้ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ