ไหปีศาจ นิยาย บท 220

บทที่ 220
ทัวป๋าเจียฉี

เขาไม่แปลกใจเลยที่ผลจะจบลงแบบนี้

หลังจากที่ได้ดูดซับแก่นของวิญญาณมาจากพระราชวังวิญญาณแล้ว ความแข็งแกร่งของภูตไฟก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ภูตทะเลทรายเองก็ได้รับทักษะใหม่ ๆ มากมายจากการปรับแต่งของลั่วอู๋ ทำให้ฉูจงฉวนแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้มู่เฉิงเองก็ได้รับบาดเจ็บมาก่อน และต้องคอยใช้พลังวิญญาณส่วนหนึ่งในการยับยั้งแมลงกินวิญญาณอยู่ตลอดเวลา มันจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้

ท้ายที่สุดมู่เฉิงก็ล้มลงไปบนพื้น
ฉูจงฉวนสงบลมหายใจและมองไปที่ศพของมู่เฉิง
พวกเขาสองคนนั้นเป็นคู่ปรับกันมานานนับตั้งแต่ในวันที่พวกเขาเกิดจากตระกูลที่เป็นคู่ปรับกัน ทั้งคู่ต่างก็ได้กลายมาเป็นผู้นำตระกูลตั้งแต่ยังหนุ่ม พวกเขาต่างถูกกำหนดให้เป็นคู่แข่งกันเสมอในทุกโอกาส

ความบาดหมางของตระกูลควบคู่ไปกับการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง พวกเขาเติบโตขึ้นจากความขัดแย้งของพวกเขา และไม่สามารถสมานฉันท์กันได้

อย่างไรก็ตามเมื่อมู่เฉิงตายลงต่อหน้าต่อตาเขา ฉูจงฉวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหงาและเศร้าโศก

“เส้นทางของอัจฉริยะ มันช่างเงียบเหงาเหมือนวันที่หิมะตกจริง ๆ” ฉูจงฉวนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า น้ำเสียงของเขาดูเศร้าโศก

ลั่วอู๋กลอกตาของเขา “อย่ามาน้ำเน่าอะไรตอนนี้น่า สงครามที่นั่นกำลังจะจบลงแล้ว พวกเราควรจะรีบไปดูผล”

“อืม ”
ลั่วอู๋และพรรคพวกรีบกลับไปที่สนามรบ
การต่อสู้นั้นได้จบลงแล้ว
กลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหารแตกแยก มีศพถูกทิ้งเรียงรายอยู่มากมาย หลายคนที่ยังรอดก็ได้รับบาดเจ็บหมดสภาพและเลือกที่จะไม่สู้ต่ออีก

ลั่วอู๋นับจำนวนคนแล้วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ทั้งสองฝ่ายน่าจะเหลือเพียงฝ่ายล่ะ 40 คน นี่มันน่าเศร้าจริงๆ”

จากตอนแรกสุดที่มีผู้เข้าร่วมการทดสอบรอบที่สองมากกว่า 700 คน พวกเขารอดชีวิตมาได้ในที่สุด แม้ว่าจะยังไม่ได้นับคนที่รวบรวมแผ่นหยกได้เพียงพอจึงไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ แต่อัตราการรอดชีวิตนั้นก็ยังถือว่าน่ากลัว

ที่ผ่านมาอัตราการเสียชีวิตมากกว่าครึ่งนั้นถือว่าสูงเกินจริงไปมาก

เพราะตามหลักแล้วไม่จำเป็นต้องฆ่าอีกฝ่ายก็ได้ และการต่อสู้ส่วนใหญ่ก็ทำไปเพื่อชิงแผ่นหยก หลังจากที่สละแผ่นหยกไปแล้วพวกเขาก็ไม่สมควรโดนโจมตีอีก

แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีกลุ่มแบบพันธมิตรล่าสังหารปรากฏขึ้นมา

ผู้ที่ต้องการผ่านรอบสองด้วยวิธีการอันไร้สามัญสำนึก รบกวนความเป็นปกติของการทดสอบทำให้คนเสียเลือดเสียเนื้อกันไปมาก

“ตอนนี้เราไม่มีแผ่นหยกกันแล้ว พวกเราจะทำยังไงดี?” ฉูจงฉวนถาม

ลั่วอู๋ครุ่นคิดสักครู่ “คงทำได้แค่ภาวนาให้มีคนตายมากพอล่ะมั้ง”
……
……
เวลาสองวันผ่านไปในพริบตา
ทางตะวันออกของพื้นที่ล่าสัตว์
ผู้เข้าร่วมการทดสอบหลายคนได้มาดักรอที่นี่ ต่างฝ่ายต่างก็เฝ้าระวังซึ่งกันและกัน เพราะบางคนอาจจะมีแผนที่จะปล้นชิงแผ่นหยกในเวลาแบบนี้

เหวินเสี่ยวเองก็ปรากฏตัวขึ้นและกล่าวทักทายกับลั่วอู๋
หลังจากแยกกันเมื่อสองวันที่แล้ว ลั่วอู๋ก็ไม่รู้เลยว่าเขาไปทำอะไรมา

ประโยคนี้สร้างความมั่นใจให้กับลั่วอู๋มาก
หากเขาจำนวนคนได้มากกว่า 50 ละก็ เขาจะเริ่มเป็นฝ่ายจู่โจมและปล้นชิงแผ่นหยกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในทันที“เจ้า แน่ใจแล้วใช่ไหม?” ลั่วอู๋ถาม
เหวินเสี่ยวพยักหน้า “ตอนนี้มีผู้เหลือรอดมีเพียง 49 คนเท่านั้น”

เพราะเขาเดินมาพร้อมกับแมงมุมยักษ์หลากสี
ชายร่างใหญ่คนนี้มีเป็นคนของพันธมิตรล่าสังหารที่จับพวกลั่วอู๋เอาไว้ได้และเกือบจะฆ่าพวกลั่วอู๋ได้สำเร็จแม้ว่าตอนนั้นเขาจะสวมหน้ากาก แต่ด้วยสัตว์วิญญาณตัวนี้ เขาก็ไม่สามารถปิดบังตัวตนจากผู้คนได้อีก
“ ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าจะเหลือคนน้อยขนาดนี้ แล้วข้าจะไปชิงแผ่นหยกมาทำไมตั้งมากมาย ข้าก็หลงคิดว่าแผนการล่าสังหารล้มเหลวไปแล้วอยู่ตั้งนาน ที่ไหนได้มันสำเร็จแล้วซะอย่างนั้น” ชายร่างใหญ่หงุดหงิดมาก เขามีแผ่นหยกจำนวนมากอยู่ในครอบครองประมาณสี่สิบถึงห้าสิบแผ่นได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ