บทที่ 221
ความขัดแย้งภายในมิติไหทูตเฉียนหลงชี้นิ้วขึ้น
จากนั้นพลังวิญญาณของเขาก็ควบแน่นกันกลายเป็นใบมีดหลายใบพุ่งเข้าตัดเชือก ให้กับคนเหล่านั้นในทันทีและช่วยพวกเขาเอาไว้
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส และสภาพจิตใจของพวกเขาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ใครมีทักษะในการรักษาบ้าง ?” ทูตเฉียนหลงมองไปทางฝูงชน
เหวินเสี่ยวเดินออกมา “ข้าเอง ข้ามีทักษะในการรักษา”ทักษะแสงศักดิ์สิทธิ์ถูกใช้งาน
แสงศักดิ์สิทธิ์สาดส่องลงมา จากนั้นพลังงานอันอ่อนโยนก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของพวกเขาเหล่านั้น บาดแผลต่าง ๆ เริ่มฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองและพลังวิญญาณของพวกเขาก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมา
เฉียนหลงมองไปที่เหวินเสี่ยวอย่างประหลาดใจ “โฮ่ นั่นมัน ภูตปีกแสงอย่างนั้นเรอะ เจ้ามีชื่อว่าอะไร?”
เหวินเสี่ยวพูดชื่อของเขาออกไป
“ไม่เลวเลยนะเจ้าเนี่ย” ทูตเฉียนหลงกล่าว
มันเป็นเรื่องหายากมากที่สัตว์วิญญาณจะครอบครองทักษะในการรักษาที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ผู้มีพรสวรรค์เช่นนี้ต้องได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษ
ทูตเฉียนหลงมองไปที่คนเหล่านั้นและพูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา“ ทำไมพวกเจ้าถึงตกอยู่ในสภาพนี้ได้กัน?”
ชายหนุ่มหน้าซีดคนหนึ่งที่พึ่งขยับขาได้ ลุกขึ้นมาตอบด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “ข้าถูกโจมตีจนบาดเจ็บ จากนั้นก็ถูกโยนทิ้งไว้ที่นี่”
“ข้าด้วย”
“ข้าก็ด้วย…”
คนที่เหลือนั้นพูดเหมือนกันหมด
“ใครเป็นคนทำร้ายพวกเจ้ากัน?” ทูตเฉียนหลงถามต่อ
ชายหนุ่มตอบอย่างอับอาย “ข้าไม่รู้ ข้าไม่เห็นหน้าเขา”
คนอื่น ๆ เองก็ส่ายหัวเช่นกัน
ทูตเฉียนหลงบ่นพึมพำ “เสียเวลาเปล่าเสียจริง ข้ายังอยู่ที่นี่เพื่อตรวจสอบ พวกที่พ่ายแพ้ต่อคู่แข่ง โดยที่ไม่แม้แต่จะเห็นหน้าของอีกฝ่ายด้วยซ้ำเนี่ยนะ”
ใบหน้าของเหล่าคนที่ถูกต่อว่าเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความอับอาย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหักล้างคำพูดนั้นได้ พวกเขาไม่กล้าที่จะหักล้างด้วยซ้ำ
ลั่วอู๋ไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ
ปรากฎว่ามีผู้รอดชีวิตอยู่มากกว่า 49 คน ซึ่งพวกเขาถูกจับและโยนทิ้งไว้ที่นี่ ด้วยวิธีนี้พวกเขาก็ไม่ได้ต่างจากถูกกำจัดออกจากการทดสอบไปแล้วแต่นี่ไม่ใช่เวลามาขอบคุณผู้ชายที่ทิ้งคนเหล่านี้ไว้ที่นี่
ทูตเฉียนหลงกวาดสายตามองไปที่เหล่าผู้ผ่านการทดสอบทั้งหมด “ใครเป็นคนทำยืนขึ้นมาแสดงตัวหน่อยสิ”ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ
“ไม่ต้องห่วงข้าให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถเท่านั้น ข้าจะไม่ลงโทษเจ้าสำหรับพวกของเสียเหล่านี้” ทูตเฉียนหลงกล่าวแต่ก็ยังคงไม่มีใครออกมาตอบรับเขา
ทูตเฉียนหลงเริ่มรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ในเมื่อผู้ที่ลงมือทำไม่อยากยอมรับก็ปล่อยเขาไป
ชายหนุ่มผู้ได้รับการช่วยเหลือถามด้วยเสียงต่ำ “ท่านทูตเฉียนหลง ข้าได้ยินมาว่ามีคนเพียง 49 คนเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบ แสดงว่า1ในพวกเรายังมีโอกาสอยู่ใช่ไหม?”
“พวกเจ้าต้องการที่จะแข่งขันกันแย่งที่สุดท้ายงั้นเหรอ?” ทูตเฉียนหลงเหลือบมองไปที่พวกเขา
เหล่าผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ทูตเฉียนหลงส่งเสียงกร้าวออกมา “กลับไปเสีย! สำนักเฉียนหลงไม่รับขยะเยี่ยงพวกเจ้า”ทันใดนั้นใบหน้าของคนเหล่านั้นก็แตกสลาย
ทูตเฉียนหลงสะบัดแขนเสื้อ และกล่าวทิ้งท้ายไว้เพียงประโยคเดียวกับคนที่ผ่านการทดสอบว่าให้พวกเขาอดทนรอ จากนั้นพวกเขาจะได้รับแจ้งเมื่อเปิดการทดสอบรอบที่สามเริ่มขึ้นฝูงชนค่อยๆแยกย้ายกันกลับไป
“พวกเราช่างโชคดีจริง ๆ ในเมื่อข้าผ่านการทดสอบ ข้าก็พร้อมที่จะต่อสู้อีกครั้งแล้ว” ฉูจงฉวนกล่าวด้วยสีหน้าที่พึงพอใจลั่วอู๋รำพึง”ข้าไม่รู้ว่า ใครเป็นคนทำเรื่องแบบนี้”
“แต่ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำ พวกเราก็ได้รับประโยชน์ เต็ม ๆ”
ลั่วอู๋พอคิดได้ว่าเป็นฝีมือใคร แต่เอาก็เลือกจะทิ้งมันไว้ข้างหลัง
ทั้งสามได้เดินทางกลับไปที่มณฑลหมิงหนาน
เมื่อฉูจงฉวนกลับไปถึงคฤหาสน์ตระกูลฉู ข่าวการตายของมู่เฉิงก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งตระกูลฉู ทั่วทั้งคฤหาสน์ตระกูลฉูถูกตกแต่งไปด้วยโคมไฟและของประดับตกแต่ง ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสุขราวกับว่าวันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า
ฉูจานเทียนผู้อาวุโสของตระกูลฉู ถึงกับออกมาต้อนรับเขาด้วยตนเอง เขาไม่เพียงแต่ยกย่องฉูจงฉวนอย่างมาก แต่ยังไปที่คฤหาสน์ตระกูลมู่เพื่อเยาะเย้ยพวกเขาอีกด้วย
ผู้อาวุโสของตระกูลมู่ เมื่อเห็นดังนั้นก็ออกมาต่อสู้กับเขาอย่างดุเดือดในทันที
แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่ามู่เฉิงนั้นได้พ่ายแพ้ให้กับฉูจงฉวน ในการแข่งขันระหว่างคนรุ่นใหม่แล้ว
ลั่วอู๋กลับไปที่สำนักโล่พิทักษ์เหมือนเดิม และคนงานทุกคนก็ตื่นเต้นกันมากที่เขากลับมา
“เรียกไร้หน้าออกมาให้ข้าหน่อยสิ” ลั่วอู๋กล่าว
เนื่องจากผู้คุมสอบไม่อนุญาตไร้หน้าให้เข้าร่วมการทดสอบเฉียนหลง ลั่วอู๋จึงต้องปล่อยไร้หน้าทิ้งไว้ที่นี่ เขาจึงได้แต่รออยู่ในสำนักโล่พิทักษ์เพื่อสอนเหล่าเด็กชายที่เข้ามาสมัครเป็นพันธมิตรผู้ล้างแค้นไม่นานนักไร้หน้าก็ปรากฏตัวขึ้น
ร่างของเขายังคงเหมือนกับผี
“เหล่าเด็กผู้ชายที่สมัครเข้ามาตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง” ลั่วอู๋ถาม
ไร้หน้ากระซิบ “ดีมากเลยขอรับ โดยเฉพาะเด็กชายคนหนึ่งที่มีชื่อกู่ฉวน เขามีพื้นฐานกระดูกและมีทักษะอันยอดเยี่ยมสำหรับการฝึกศิลปะการต่อสู้ ตอนนี้เขาได้เสร็จสิ้นขั้นแรกของการฝึกฝนกระบวนท่า วิชาผีเสริมกระดูก และน่าจะมีประสิทธิภาพการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองแดง มิติ 10 ”
ฉูจงฉวนเคยกล่าวไว้ว่าราชาผีในสุสานนั้นไม่สามารถถูกโค่นลงได้ ส่วนผีนอกสุสานนั้นล้วนอ่อนแอกว่าและไม่คณามือไร้หน้า
“รับทราบขอรับ นายน้อย”
ไร้หน้าเดินทางออกไปจากสำนักโล่พิทักษ์ โดยลงเหลือไว้เพียงออร่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ