บทที่ 90
ผลของการประลองรอบแรก
กระต่ายแห่งแดนสาบสูญที่ปรับแต่งโดยอาจารย์หง อยู่ในช่วงใกล้วิวัฒนาการ มันอาจเป็นตัวแรกที่ได้วิวัฒนาการตัวแรกในประวัติศาสตร์
เพราะอย่างไรก็ตามสัตว์วิญญาณชนิดนี้ก็อ่อนแอมาก จนไม่มีใครเต็มใจจะใช้ความพยายามใด ๆ ในการปรับแต่งมัน
แต่กระต่ายแห่งแดนสาบสูญของลั่วอู๋นั้นได้รับการส่งเสริมปรับแต่งโดยตรงสู่ระดับเดียวกับสัตว์วิญญาณระดับทอง
ระดับความหายากของกระต่ายตัวใหญ่ที่น่ากลัวตัวนี้เองก็เป็นตัวแรกในประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน
“กระต่ายแห่งแดนสาบสูญตัวนี้ใหญ่จนสามารถใช้เป็นที่พาหนะขี่ได้เลยนะเนี่ย” มีเสียงบ่นต่ำ
ผู้คนเริ่มจินตนาการไปต่าง ๆ นานา
นั่งบนกระต่ายตัวใหญ่เดินทางในทะเลทรายในยามพระอาทิตย์ตกดิน
ช่างเป็นภาพที่สวยงาม
สัตว์วิญญาณขนาดใหญ่นั้นมีมูลค่าทางตลาดที่ดี
เพราะพวกมันสามารถใช้เป็นพาหนะได้
ส่วนใหญ่แล้วพวกมันต่อให้ตัวใหญ่ก็ใช่ว่าจะใช้เป็นพาหนะได้ เช่นปีศาจยาหลง พวกมันมีเกล็ดที่คมเหมือนใบมีดเหล็กกล้า ใครกล้าที่จะนั่งบนมัน? ถึงทำได้มันก็มีหน้าตาที่น่าเกลียดมากจนไม่มีใครอยากลองอยู่ดี
แต่นี่มันไม่เหมือนกัน
ข้อแรกเลยคือมันมีรูปร่างที่น่ารัก
ข้อที่สองขนของมันเองก็นุ่มมาก การได้นอนบนมันก็เหมือนนอนบนผ้าห่มกำมะหยี่
และมันมีขาที่สั้น ในช่วงที่มันวิ่งจึงค่อนข้างเล็ก ทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านบนไม่ต้องกลัวว่าจะตกลงมา
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ ดวงตาของผู้คนที่จับจ้องกระต่ายแห่งแดนสาบสูญตัวโตนั้นก็สว่างไสวขึ้น
หากไม่นับเรื่องการต่อสู้แล้วล่ะก็ มันเป็นสัตว์วิญญาณที่ยอดเยี่ยมที่สุดในแง่ของพาหนะ
“โอ้ เจ้านี่มันได้เรียนรู้ทักษะใหม่บางอย่างมาด้วยนะ” ลั่วอู๋หักนิ้วและกระซิบ “บินสิ!”
กระต่ายแห่งแดนสาบสูญกะพริบตาสีแดงของมัน ลมเริ่มพัดมารวมที่เท้าของมันอย่างลึกลับ จากนั้นเท้าของมันก็สั่นไหวสองครั้งและร่างของมันก็ลอยขึ้นไปในอากาศอย่างช้าๆ
ฝูงชนเริ่มคลั่งในทันที
กระต่ายบิน!
มันบินได้!
ทั้ง ๆ ที่มันไม่มีปีก แต่มันกลับมีทักษะการบิน!
สัตว์วิญญาณที่สามารถใช้เป็นพาหนะและยังสามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ ไม่มีทางที่มันจะไม่เป็นที่นิยมในตลาด ผู้คนคงพร้อมที่โยนเงินหลายหมื่นหลายพัน เพื่อให้พวกเขาได้ครอบครองสัตว์วิญญาณที่สามารถทำได้เช่นนี้ได้
ได้นั่งอยู่บนร่างของสัตว์วิญญาณ บินกลับไปกลับมาระหว่างหมู่เมฆหมอกมองเห็นระยะทางบนท้องฟ้า มองเห็นพื้นโลกได้อย่างห้าวหาญ
ไม่ใช่สัตว์วิญญาณทุกชนิดที่มีทักษะบินจะสามารถทำแบบนี้ได้
งูทมิฬปีกกระดูก เองก็สามารถบินได้ด้วยทักษะ แต่ด้วยขนาดของมัน มันจึงไม่เหมาะสำหรับการขี่เป็นพาหนะ ดังนั้นหลิวหูจะต้องจับลำตัวของมันให้แน่นในท่าที่ค่อนข้างจะอึดอัดและเสี่ยงที่จะร่วงลง หากเขาพลาด มันเหมือนฝืนธรรมชาติและไม่มีความเป็นอิสระ
ยิ่งไปกว่านั้นกระต่ายแห่งแดนสาบสูญนั้นน่ารักมาก
เมื่อมันเข้าในตลาดการค้าขาย คาดว่าคงจะทำให้เหล่าผู้ใช้พลังวิญญาณหญิงทุกคนเป็นบ้า
หากนำไปประมูลที่โรงประมูล แน่นอนว่าราคาตั้งต้นคงสูงลิบลิ่วและราคาซื้อขายก็คงไม่ต่ำไปกว่าภูตดอกไม้เป็นแน่
“เจ้าของร้านลั่ว ท่านจะขายกระต่ายแห่งแดนสาบสูญตัวนี้หรือไม่ ?” มีคนตะโกนถาม
ผู้คนต้องการคำตอบกลับ
ที่นี่คือศาลาไป่หยู่ มันเป็นสถานที่สำหรับทำธุรกิจ
ผู้คนจำนวนมากร้องอยากให้เขาขายมัน แต่เมื่อลั่วอู๋เปิดปากพูด ทุกคนก็ต้องเงียบลง
“พวกเจ้าคิดว่าตัวเองซื้อไหวรึเปล่าล่ะ ?”
ฝูงชนเงียบงันในทันที
ใช่แล้ว พวกเขาไม่สามารถจ่ายมันได้
มูลค่าของมันไม่มากเกินไปเลยที่จะขายในราคามากกว่า 1ล้านหินวิญญาณ
มีคนเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถจ่ายราคานี้ได้ในพื้นที่เขตหวงชา
ริมฝีปากของท่านอาจารย์หงสั่นและเขาพูดได้ไม่ปะติดปะต่อ
นี่มันเหนือกว่าขอบเขตวิธีการพื้นฐานไปไกลมาก
แม้จะเข้าใจว่ามันตัวใหญ่ขึ้น แต่ตัวมันเป็นกระต่ายแห่งแดนสาบสูญและมันใหญ่กว่าเดิมเกือบร้อยเท่า นี่มันมากเกินไปที่จะเข้าใจ
ลั่วอู๋ หันมามองอาจารย์หง “อาจารย์หง เจ้าคิดยังไงกับราชากระต่ายแห่งแดนสาบสูญของข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ