ไหปีศาจ นิยาย บท 91

บทที่ 91

หลิวหู

วันต่อมา

พรรคหวงชาได้ส่งรถม้าไปรับลั่วอู๋

อย่างไรก็ตามผู้คนของพรรคหวงชาที่มารับนั้นมีสายตาอันไม่เป็นมิตร พวกเขามีผู้นำเป็นชายตาเดียวที่มีออร่ารุนแรงมาก เขามองหลิวหูด้วยสายตาที่มีความขุ่นเคืองแฝงอยู่ของเขา

“เจ้ามีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?” หลิวหูมองเหล่

“นามสกุลของข้าคือหัน ชื่อของข้าคือหันไคเฉียง ข้ามีน้องชายชื่อหันเชียว เขาถูกฆ่าตายและทิ้งไว้ที่ริมถนนเมื่อไม่นานมานี้ ผลชันสูตรของเขาคือถูกสุนัขป่ากัด”

“โอ้ ข้าเสียใจด้วย” หลิวหูตอบอย่างใจเย็น “ว่าแต่มันเกี่ยวอะไรกับข้าเหรอ?”

เขาเหล่ชายตามองไปที่หลิวหู โดยไม่พูดอะไรอีก

แต่เห็นได้ชัดว่าเขาจำหลิวหูได้ อย่างไรก็ตามหลิวหูได้กลายเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง ซึ่งพลังห่างไกลจากความสามารถในการต่อสู้ของเขา เขาจึงเลือกยอมแพ้ไปก่อนชั่วคราว

ลั่วอู๋ไม่สนใจ

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกแกหอคอยหวงชาเป็นคนเริ่มก่อน หลิวหูจะไปแก้แค้นทำไม

“ไปกันเถอะ” ลั่วอู๋กล่าว

ครั้งนี้เขาเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ของพรรคหวงชา ลั่วอู๋เดินทางมาพร้อมกับไร้หน้าและหลิวหู เท่านั้น เขาไม่ได้เอาคนอื่นมาด้วย

แม้ว่าพรรคหวงชาคงจะไม่กล้าฆ่าผู้คนภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แต่เขาก็ยังต้องระวังตัวอยู่ดี

หลังจากที่พวกเขาขึ้นรถม้า

รถม้าก็แล่นออกจากเมืองแห่งความพินาศ

หลังจากนั้นประมาณสองชั่วโมงพวกเขาก็มาถึงจุดหมาย – เมืองไมมู่

เมืองไมมู่เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดใน 23 มณฑลของเขตหวงชา ที่นี่มีการตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรคหวงชาอยู่

มีตอไม้อันน่ากลัวตั้งอยู่ใจกลางเมือง

วงความกว้างของตอไม้นั้นดูหนาแน่น แสดงให้เห็นว่าตอนี้สูงและแข็งแรงแค่ไหน คาดว่าต่อให้นำคนมาสิบคน ก็ไม่สามารถวัดความหนาของตอไม้นี้ได้

อย่างไรก็ตามตอไม้ ที่เหี่ยวแห้งมาเป็นเวลานานนี้ มีส่วนผสมที่แปลกประหลาดของพลังวิญญาณและจิตสังหารแฝงอยู่

มันคือที่มาของชื่อเมืองไมมู่

เนื่องจากข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันหลักของลั่วอู๋และอาจารย์หง เมืองไมมู่จึงมีชีวิตชีวามากกว่าปกติ มีผู้คนมากมายเดินทางมาจากเมืองอื่นๆ

เมื่อเขามาถึงประตูสำนักงานใหญ่ของพรรคหวงชา ลั่วอู๋ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน

ตามที่เขาคาดไว้สำนักงานใหญ่ของพรรคหวงชา นั้นงดงามยิ่งกว่าสาขาอื่น ๆ รูปร่างของมันดูงดงามและสง่างาม จนสามารถเห็นความงดงามของมันได้จากที่ไกล ๆ

ซึ่งอาจารย์หงก็ยืนรอเขาอยู่หน้าประตู

“ในเมื่อเจ้าได้มาถึงที่นี่แล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า”ชายในชุดเสื้อเขียวพูดอย่างใจเย็นจากอีกด้านหนึ่ง

ร่างกายของเขาสูงยาวเรียวและผิวของเขาไม่หยาบกร้านเหมือนกับผู้ชายทั่วไป แต่เป็นสีขาวอันละเอียดอ่อน

มันเป็นลักษณะที่ดูเป็นเหมือนผู้อ่อนแอในพื้นที่เขตป่าหวงชา

อย่างไรก็ตามไม่มีใครกล้าดูถูกชายเสื้อเขียวคนนี้ ทุกคนปฏิบัติตนอย่างสุภาพต่อหน้าเขา นั่นก็เพราะเขาคนนี้คือลูหยางพิง ผู้เป็นดั่งพระเจ้าแห่งเมืองไมมู่

ลูหยางพิงไม่เพียงเป็นเจ้าเมืองไมมู่เท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้นำของพรรคหวงชาอีกด้วย เขาเป็นดั่งเจ้านายที่แท้จริงผู้อยู่เบื้องหลังฉากของหอคอยหวงชา เขามีอิทธิพลอันยิ่งใหญ่

ลั่วอู๋เหลือบมองไปที่ลูหยางพิง เขารู้สึกเย็นไปทั่วทั้งร่างกายราวกับว่าเขาได้พบกับงูเขียวพิษร้ายแรงที่สุดตัวหนึ่งที่พร้อมจะกินคน

“หลิวหูถ้าท่านต้องสู้กับลูหยางพิง ท่านมีโอกาสที่จะชนะไหม” ลั่วอู๋กระซิบ

หลิวหูไตร่ตรองสักครู่จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครในพื้นที่นี้ที่จะเทียบเขาได้ ข้าเป็นแค่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงหน้าใหม่ แต่เขาเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงมานานมากแล้ว อีกอย่างข้าไม่ได้มีเวลาหาสัตว์วิญญาณตัวที่สามมาทำพันธสัญญาด้วยเลย หากข้าต้องต่อสู้กับเขา ข้าคงจะตกที่นั่งลำบากมากแน่ ๆ”

ลั่วอู๋มองว่ามันเริ่มเป็นเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าขุมกำลังของพวกเขายังคงอ่อนแอเกินไป

แต่ในสักวันหนึ่งพวกเขาจะต้องพร้อมและจะต้องเป็นฝ่ายชนะ

“ไหน ๆ ท่านลูหยางพิงก็ออกคำสั่งแล้ว มาเริ่มกันเลยดีกว่า” ลั่วอู๋กล่าว

ผู้คนจำนวนมากได้มาล้อมรอบสำนักงานใหญ่ของพรรคหวงชา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ