บทที่ 134 ไป๋ชิงหลิงตอบโต้กลับ – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 134 ไป๋ชิงหลิงตอบโต้กลับ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หรงฉี่ตัวแข็งทื่อ เขาก้มมองเชือกแส้ที่อยู่บนร่างกายของเขาด้วยสีหน้าอันซีดเผือด
เขากล่าวขึ้นอย่างยากลำบากว่า “พวกเจ้า……กล้า….หรงเยี่ย….ข้า….ไม่มีทาง…..ปล่อยเจ้า……”
ไป๋ชิงหลิงหยิบขวดยาออกมาจากห้วงมิติเวลา นางบีบที่ปากของหรงฉี่ แล้วพยายามกรอกลงไป:“ท่านอ๋อง ท่านวางใจ ค่ำคืนนี้ท่านสามารถระบายอารมณ์ออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่ใช่ระบายบนตัวข้านะ ข้าจะส่งท่านไปสถานที่หนึ่ง”
“อือ!”หรงฉี่ดิ้นรน
แต่โดยพื้นฐานแล้วใช้แรงไม่ได้เลย
และสิ่งที่อยู่ในมือของไป๋ชิงหลิงสรรพคุณมันพอกันกับกู่จื่อฮวนที่ทำให้เกิดภาพลวงตาจิตวิปลาส
จุดของความเก่งกาจคือหลังจากเสร็จภารกิจยาที่อยู่ในร่างกายของเขาจะไหลออกมาเป็นน้ำกาม หมอหลวงไม่สามารถตรวจสอบยานี้เจอได้
หรงเยี่ยคว้าเชือกแส้ที่อยู่บนร่างกายเขา ทำให้เขาลุกขึ้น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งโอวเอวไป๋ชิงหลิง ทันใดนั้นได้ลอยออกไปจากหน้าต่างด้านหลัง
องครักษ์ลับจวนอ๋อง เห็นเพียงบานหน้าต่างมีลมพัดผ่าน
จากนั้นก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวผิดปกติอะไร
เมื่อหรงเยี่ยพาไป๋ชิงหลิงออกมาจากจวนท่านอ๋องต้วนแล้ว ก็ได้เอาหรงฉี่มอบแก่อิงซากับอิงอู๋
เมื่อบอกแผนการของไป๋ชิงหลิงทั้งหมดแล้ว ก็ได้สั่งอิงซาจุดไฟเผาที่จวนท่านอ๋องต้วน
อิงซากับอิงอู๋กระตุกมุมปากพร้อมกัน
ท่านอ๋องต้วนผู้นี้น่าสงสารเสียจริง เกรงว่าจะต้องสูญสิ้นตั๋วเงินซ่อมแซมจวนแล้ว
เวลานี้ ไป๋ชิงหลิงถูกทิ้งไปบนรถม้า หรงเยี่ยตามเข้ามา กดคร่อมนางไว้ใต้ร่างอย่างดุดัน และนิ้วมือไล้สัมผัสผ่านใบหน้าของนาง
นางรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่นางยังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ
“สามารถเอารถม้าให้ข้ายืมได้หรือไม่”ไป๋ชิงหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ไม่แข็งกล่าวอย่างวันปกติ
มือทั้งสองข้างกอบกุมที่ชุดของเขาแน่น กล่าวอ้อนวอนว่า“ให้ข้ายืมใช้ รอข้ากลับมาก็คืนให้ท่าน ชีวิตคนสำคัญดุจฟ้า”
เขาคิ้วขมวด กล่าวขึ้นด้วยความหงุดหงิดว่า“จะไปที่ไหนหรือ?”
“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของข้า ท่านเอารถม้าให้ข้ายืม ก่อนฟ้าสางข้าจะกลับมา”
“ไปที่ไหนหรือ?”
ไป๋ชิงหลิงกล่าวว่า :“หมู่บ้านจางซู่”
“เจ้าจะไปทำอะไรที่นั่น?”หรงเยี่ยลุกขึ้นทันที แล้วแหวกชุดนางออก
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกว่าบริเวณหน้าอกเย็นวาบ ด้วยสัญชาตญาณเลยเอามือโอบร่างกายของตนเองไว้ กล่าวด้วยความตกใจว่า“ท่านอ๋องหรง ท่านจะให้ข้ายืมหรือไม่ หากไม่ให้ยืมก็ปล่อยข้า ข้าจะกลับไปจวนติ้งเป่ยโหวหาท่านพ่อข้า”
“เจ้าหายไปกี่วัน หรงฉี่จอมโง่เขลานั่นมันแตะต้องเจ้าตรงไหน”
ไป๋ชิงหลิงได้ยินคำนี้ มีปฏิกิริยาตอบสนองมาทันที
เขาต้องการตรวจร่างกายนาง
“ไม่ ท่านอย่าแตะต้องข้านะ”
มือของหรงเยี่ยสัมผัสถึงกางเกงในของนางแล้ว ไป๋ชิงหลิงรีบหวีดร้องขึ้น ส่วนมือรีบกดข้อมือเขาไว้ จากนั้นกล่าวอธิบายขึ้นว่า “เขายังไม่มีโอกาสแตะต้องข้า ท่านก็มาแล้ว ก่อนหน้าพวกเขาขังข้าไว้ในคุก โดยพื้นฐานแล้วไร้หนทางวิธีการที่จะเข้าใกล้ตัวข้า ก็โชคดีที่ท่านมาทันเวลา ยาพิษของข้าล้วนใช้ในคุก”
“จริงหรือ?”
“จริงๆๆๆๆๆ!”นางตกใจจนรีบพยักหน้า น้ำตาคลอเล็กน้อย
แต่เขาไม่ได้ปล่อยนาง
มือที่อยู่บนชุดของนาง ออกแรงฉีกกระชากชุดขาดสะบั้น
“ แคว่ก!”
“อา ——”
“หรงเยี่ย ท่านมันคนบ้านั่นชุดของข้า…..”
“ชุด เขาเคยสัมผัส!”
ชุดบนตัวของนางถูกเขาฉีกขาดย่อยยับ จนไม่สามารถสวมใส่ได้อีกแล้ว
ไป๋ชิงหลิงขดตัว กัดริมฝีปากแน่น มองชายที่อยู่ด้านบนด้วยความเดือดดาล เวลานี้ ชุดคลุมตัวใหญ่ตัวหนึ่งได้ยัดเข้ามาในอ้อมแขนนาง “ใส่ของข้าก่อน”
“ข้าไม่ใส่!”นางหยิบชุดของเขาขึ้นมา และฟาดไปบนหน้าของเขาอย่างแรง
จากนั้นลุกขึ้น เดินออกไปด้านนอก
ไป๋ชิงหลิงเดินตามหลังหรงเยี่ย เข้าไปในท้ายหมู่บ้านจางซู่
มีเรือนชำรุดเก่าๆอยู่ท้ายหมู่บ้านซึ่งอยู่ไกลจากหมู่บ้านเกือบออกนอกหมู่บ้านเลย
มีเสียงร้องของเด็ก“แง๊ๆ”ดังออกมาจากเล้าหมูที่อยู่ด้านข้างห้อง
เวลานี้ ประตูห้องเก่าๆชำรุดมีคนเปิดประตูออก ชายคนหนึ่งสวมใส่ชุดโทรมซอมซ่อมอซอ เดินออกมาเปิดเล้าหมูแล้วหิ้วเอาเด็กคนหนึ่งประมาณห้าขวบออกมา
“เจ้านี่มันตัวซวย เช้ายันเย็นรู้จักแต่ร้องไห้ เจ้าไม่อยากให้ข้านอนใช่ไหม ข้าจะให้เจ้าร้อง ให้เจ้าร้อง!”
“ฮู!”ชายคนนั้นกดเด็กน้อยลงในโอ่งน้ำ
ไป๋ชิงหลิงที่ยืนอยู่ที่ลับ กำลังจะเดินไป แต่ทว่าถูกหรงเยี่ยดึงไว้
“ท่านปล่อยนะ เขาสามารถสังหารเด็กได้เลยนะ”ไป๋ชิงหลิงหัวใจบีบรัดแน่น
แม้จะยังไม่ได้มั่นใจกับฐานะของเด็ก แต่ต่อให้คนอื่นเห็นฉากนี้ ก็อดทนไม่ไหวหรอก
หัวของเด็กคนนั้นดูแล้วไม่ได้สูงเท่าเซิงเอ๋อร์
ผอมแห้ง แล้วยังอาศัยอยู่ในเล้าหมูด้วย แม่งเย็ดเลวทรามต่ำช้ามากเลย
หรงเยี่ยดึงนางไว้ไม่ยอมปล่อย
อิงเหลียนที่อยู่ด้านหลังรีบไปด้านหน้า โดยใช้ขาข้างเดียวถีบชายคนนั้นลอยเข้าไปในเล้าหมู จนเป็นลมสลบไป
ส่วนเด็กได้ถูกอิงเหลียนอุ้มขึ้นมาจากโอ่งน้ำ เด็กน้อยไอหอบแฮ่กอย่างรุนแรงอยู่ในอ้อมแขนของอิงเหลียนด้วย
เวลานี้ไป๋ชิงหลิงสะบัดแขนของหรงเยี่ยออก แล้ววิ่งเข้าหาอิงเหลียน กล่าวว่า “เอาเด็กมาให้ข้า”
ตอนที่นางรับเด็กมา หรงเยี่ยก็เดินมาถึงคอกหมู สายตาอันเยือกเย็นกวาดมองชายที่นอนอยู่ในกองขี้หมู
ไป๋ชิงหลิงมองเขา แล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋องหรง เด็กไข้สูงมาก ข้าจะต้องพาเขากลับไป”
นางพิสูจน์แล้ว เด็กน้อยมีรอยแผลเป็นจางๆที่ฝ่ามือด้านซ้าย เหมือนกับที่แม่นมอันขีดไว้ในตอนนั้นเลย
อีกอย่างจากนิสัยดุร้ายของไป๋จิ่น การหาผู้ชายให้นางจะต้องหาที่แย่ที่สุด
ผู้ชายคนนี้แย่เพียงพอแล้ว….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...