ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 183

"แล้วถ้าข้าใช้ยาพิษควบคุมเขาล่ะ?" ไป๋ชิงหลิงหยิบยาพิษสีแดงออกมาจากห้วงมิติเวลา

นายกองเฉิงขมวดคิ้วอีกครั้ง ยกมือขึ้นโบก ทหารเสนารักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขารีบหยิบยาจากมือของไป๋ชิงหลิงแล้วดมอย่างระมัดระวัง"มันเป็น...ยาลูกกลอนที่มีพิษร้ายแรงและมีสรรพคุณทางยาที่รุนแรง"

"ให้เขากินลงไป"นายกองเฉิงพูด

ทหารเสนารักษ์รีบเดินมาอยู่ตรงหน้าเสิ่นหรูเหลียนจากนั้นจึงบีบปากเขาแล้วยัดยาลงไป

เสิ่นหรูเหลียนกลืนมันอย่างให้ความร่วมมือ ทหารเสนารักษ์ตรวจภายในช่องปากเขาอย่างละเอียดอีกครั้งจึงเดินกลับไปหานายกองเฉิงแล้วรายงานว่า"แม่ทัพเสิ่นกินยาพิษลงไปแล้วขอรับ"

นายกองเฉิงพูด"ข้าขอให้พระชายาฮุ่ยนำยาแก้พิษออกมาด้วย"

หลังจากพูดจบ นายกองเฉิงได้ทหารหญิงหลายคนให้ค้นตัว

พวกเขาพบขวดยาสองขวดจากตัวไป๋ชิงหลิง แล้วนำไปให้ทหารเสนารักษ์ตรวจเพื่อพิสูจน์ ทหารเสนารักษ์ยืนยันว่ายาสองขวดนี้เป็นยาแก้พิษ นายกองเฉิงวางใจแล้วจึงพาเสิ่นหรูเหลียนเข้าเมืองไปด้วยกัน

เขานำกองทหารไปด้วยครึ่งหนึ่ง ส่วนทหารที่เหลือก็ให้อยู่นอกเมือง

หนึ่งคือขัดขวางท่านอ๋องหรง สองคือเพื่อป้องกันไม่ให้ท่านอ๋องหรงหลบหนีออกจากเมืองไป

นี่เป็นทางตันสำหรับหรงเยี่ย ท่านอ๋องฮุ่ยได้คิดไว้อย่างรอบคอบแล้ว

ยังไม่รุ่งสาง ชาวเมืองยังไม่รู้ว่าภายในวังกำลังเกิดวิกฤต พวกเขาต่างกำลังนอนหลับฝันอยู่

หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงเข้าเมืองมากับกองทัพขนาดใหญ่แล้ว นางก็มองไปที่เสิ่นหรูเหลียน

นายกองเฉิงนั้นเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาได้แยกนางออกจากเสิ่นหรูเหลียน

นายกองเฉิงคนนี้ พอมาถึงก็ขอนางกับเสิ่นหรูเหลียน คงคิดว่าท่านอ๋องฮุ่ยจะคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว นางไม่ได้ติดตามเขา หลังจากเหตุการณ์นี้นางจะไปหากองทัพที่ใกล้ที่สุดในหมู่บ้านเส้าหยางอย่างแน่นอน

จิ้งจอกเฒ่า

ในเวลานี้ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเสิ่นหรูเหลียน

เขาล้มลงกับพื้น ขดตัวและคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด

ทหารที่คุมตัวเสิ่นหรูเหลียนพูดว่า"นายกองเฉิง พิษของแม่ทัพเสิ่นออกฤทธิ์แล้ว"

"ทหารเสนารักษ์ ไปดูซิ"

"ขอรับ"ทหารเสนารักษ์เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่เขาย่อตัวลง เสิ่นหรูเหลียนก็ดึงดาบของทหารคนนั้นออกมาและตัดหลอดลมของทหารเสนารักษ์อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

เมื่อทหารเสนารักษ์ล้มลง สถานการณ์ก็เข้าสู่ช่วงการต่อสู้อย่างรวดเร็ว ทหารที่อยู่รอบๆก็รีบปิดล้อมเอาไว้อย่างรวดเร็ว

ก่อนที่จะถูกล้อมรอบอย่างสมบูรณ์เสิ่นหรูเหลียนก็รีบวิ่งไปที่ไป๋ชิงหลิง

เมื่อเขามาถึงตรงหน้านาง เขาก็จับแขนของไป๋ชิงหลิงและพูดเสียงเบาว่า"วิ่งเร็ว ข้าจะอยู่ข้างหลัง"

เขาผลักนางเข้าไปในตรอก

ไป๋ชิงหลิงถอยหลังไปสองสามก้าว เห็นเสิ่นหรูเหลียนตัดหัวศัตรูด้วยความเร็วปานสายฟ้า จากนั้นก็วิ่งหนีโดยไม่หันกลับมามอง

นางต้องจากไปอย่างรวดเร็ว เพื่อที่เสิ่นหรูเหลียนจะได้หนีไปเร็วกว่านี้ มิฉะนั้นเมื่อทหารของนายกองเฉิงโจมตีตอบโต้กลับมา เสิ่นหรูเหลียนจะถูกฝูงชนรุมล้อม ถึงเวลานั้นถึงมีปีกก็บินไปไม่รอด

นางไม่กล้าที่จะหยุด นางรีบวิ่งไปหลายร้อยเมตรในลมหายใจเดียว เดินผ่านตรอกซอยแล้วตรอกซอยเล่าโดยที่ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน รู้แค่ว่าต้องวิ่งเท่านั้น

แต่ในขณะที่นางกำลังจะเลี้ยวเข้าตรอกอีกตรอกหนึ่ง จู่ๆก็มีร่างสีม่วงเข้มก็กระโดดออกมาแล้วอุ้มนางไว้บนบ่าของเขา

แล้วจู่ๆไป๋ชิงหลิงก็กรีดร้อง

นางรู้สึกเวียนหัวและเมื่อนางถูกวางลงบนพื้นนางก็อาเจียนออกมาแล้ว

นางเกลียดการถูกอุ้มซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เมื่อนางอ้วกจนท้องเกร็ง จู่ๆก็มีถุงน้ำยื่นมา ไป๋ชิงหลิงตกตะลึง และหันศีรษะไปมองข้างหลัง

ร่างที่คุ้นเคยก็ยืนอยู่ข้างหลังนาง

เมื่อไป๋ชิงหลิงเห็นหรงเยี่ย นางทั้งตื่นเต้นและประหลาดใจ

หลังจากนั้นนางก็โผเข้ากอดเขา.....

ตัวของหรงเยี่ยแข็งทื่อ มือของเขาที่ถือถุงน้ำลอยอยู่กลางอากาศ เขามองลงไปที่ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา แล้วยกมือขึ้นกอดนางแน่น.....

นี่เป็นครั้งแรกที่นางเริ่มกอดเขาก่อน

ความรู้สึกนี้หวานยิ่งกว่ากินผลไม้เชื่อมเสียอีก

เขากดนางไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างหุนหันพลันแล่น แล้วอุ้มร่างของนางขึ้นโดยใช้มือไพล่หลังนาง

เขากดริมฝีปากบางของเขาลงบนปากนางอย่างแรง

ไป๋ชิงหลิงพูดเสียงต่ำ"อือ"วางมือบนไหล่ของเขาและประกบริมฝีปากของเขา

จูบของเขารุนแรงและเร่าร้อน และในเวลาเพียงชั่วครู่เดียวไป๋ชิงหลิงก็เกลือบจะหายใจไม่ทัน

ไป๋ชิงหลิงรีบผลักเขาออกไปและหยุดเขา"หรงเยี่ย เรากำลังทำเรื่องจริงจังอยู่ หยุดจูบได้แล้ว!

"เจ้าเริ่มกอดข้าก่อน"ขณะที่นางกำลังดิ้นริมฝีปากของชายคนนั้นก็กดที่หูของนางและเขาก็พูดเบาๆ

ทันใดนั้นใบหน้าของไป๋ชิงหลิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดง หลังจากนั้นนางจึงรู้ตัวว่านางตื่นเต้นมากเกินไปตอนที่เห็นหรงเยี่ย

นางอดไม่ได้ที่จะกอดเขา

นางแค่รู้สึกว่าเมื่อตอนที่เห็นหรงเยี่ยนางรู้สึกปลอดภัยมากและเหมือนนางไม่ได้กำลังต่อสู้คนเดียวอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของนาง ไป๋ชิงหลิงก็ต้องตกตะลึง

นางเริ่มพึ่งพาผู้ชายคนนี้โดยไม่รู้ตัว

ไป่ชิงหลิงวางหน้าผากของนางเข้ากับหน้าอกของเขา นางไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว นางพูดด้วยเสียงอู้อี้ว่า "เซิงเอ๋อร์อยู่ที่ไหน?"

"นางอยู่กับข้า นางสบายดี"

"ถ้าเช่นนั้นเจ้ากลับไปพาแม่ทัพเสิ่นออกมาได้หรือไม่ เขาเข้ามาในเมืองพร้อมกับข้า"

"เสิ่นหรูเหลียน?" ดวงตาของหรงเยี่ยหรี่ลง

ไป๋ชิงหลิงไม่รู้ถึงความคับข้องใจระหว่างหรงเยี่ยกับเสิ่นหรูเหลียน นางรู้เพียงว่าเสิ่นหรูเหลียนอยู่ใกล้นางที่สุด

นางเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพูดว่า"ท่านอ๋องหรง ท่านอ๋องฮุ่ยรู้ว่าข้าคือสายลับที่จักรพรรดิส่งไปให้อยู่ข้างเขา และเขารู้ด้วยว่าข้าจะมาช่วยทหารและปิดประตูเมืองล่วงหน้า ทหารเกราะเงินที่ทำร้านแม่ทัพเสิ่นหนึ่งหมื่นนายติดอยู่นอกเมือง ข้าก็ถูกนายกองเฉิงจับไว้เป็นตัวประกัน"

"เสิ่นหรูเหลียนมีกลยุทธ์ที่เก่งกาจ เขามาจากทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ เขาไม่ได้อ่อนแออย่างที่เจ้าคิด"

ถ้าเช่นนั้น?

"มาจากทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ?"ไป๋ชิงหลิงมองเขาด้วยความประหลาดใจ

หรงเยี่ยคว้ามือของนางไว้ เขาไม่อยากพูดถึงเสิ่นหรูเหลียนอีก"ข้าจะพาเจ้าไปหาเซิงเอ๋อร์!"

ก่อนที่ไป๋ชิงหลิงจะทันได้โต้ตอบ หรงเยี่ยก็พานางข้ามชายคาและข้ามกำแพงไปยังตรอกที่เงียบสงบในเมือง เขาเปิดฝาท่อ กอดนางแน่นแล้วกระโดดลงไปพร้อมกัน

ขณะที่ตัวของนางกำลังลงมา ไป๋ชิงหลิงกอดหรงเยี่ยแน่นอีกครั้ง

เมื่อทั้งสองกำลังจะถึงพื้นความเร็วก็ลดลง จากนั้นพวกเขาก็ยืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคง

เมื่อนางลืมตา นางถูกล้อมรอบไปด้วยวังใต้ดินที่เหมือนยกพระราชวังลงมาอยู่ใต้ดิน

"พวกเราอยู่ใต้ดิน?"นางถามด้วยความไม่เชื่อ

วังแห่งนี้เหมือนพระราชวัง ทั้งหรูหราและสง่างาม เหมือนพระราชวังจำลองเลย

หรงเยี่ยพนักหน้า

ในเวลานี้ไป๋ชิงหลิงรู้สึกว่ามีบางอย่างถูกับเท้าของนาง นางมองลงไป และเห็นว่านั่นคือเป่าลี่ว์

ในเวลาเดียวกัน เสียงของไป๋ชงเซิงและหรงจิ่งหลินก็ดังมาจากด้านหลัง"ท่านแม่!"

ไป๋ชิงหลิงหันกลับมาอย่างรวดเร็วและเห็นหรงจิ่งหลินกับไป๋ชงเซิงวิ่งออกมาจากอีกทาง

ทั้งสองคนมีสีหน้าที่ดีใจ พวกเขารีบวิ่งเข้ามากอดขาของไป๋ชิงหลิงไว้

เมื่อไป๋ชิงหลิงถูกทั้งสองชนเข้านางก็ถอยหลังไปสองสามก้าว หรงเยี่ยที่ยืนอยู่ข้างหลังนางก้ยกมือขึ้นเพื่อประคองนางไว้

เด็กสองคนกลับไม่รู้

ทั้งหัวใจและดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยการกลับมาอย่างปลอดภัยของไป๋ชิงหลิง

หรงเยี่ยโอบแขนข้างหนึ่งรอบเอวของนางและกอดนางจากด้านหลัง ในขณะที่เด็กสองคนกอดต้นขาของไป๋ชิงหลิงไว้คนละข้าง

ภาพแบบนี้ทำให้เป่าลี่ว์ตกใจอย่างมาก

ไป๋ชิงหลิงเป็นคนแรกที่นึกได้ นางกระซิบว่า"เอ้อร์ซือล่ะ? เซิงเอ๋อร์ พี่ชายเจ้าล่ะ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น