"แล้วถ้าข้าใช้ยาพิษควบคุมเขาล่ะ?" ไป๋ชิงหลิงหยิบยาพิษสีแดงออกมาจากห้วงมิติเวลา
นายกองเฉิงขมวดคิ้วอีกครั้ง ยกมือขึ้นโบก ทหารเสนารักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขารีบหยิบยาจากมือของไป๋ชิงหลิงแล้วดมอย่างระมัดระวัง"มันเป็น...ยาลูกกลอนที่มีพิษร้ายแรงและมีสรรพคุณทางยาที่รุนแรง"
"ให้เขากินลงไป"นายกองเฉิงพูด
ทหารเสนารักษ์รีบเดินมาอยู่ตรงหน้าเสิ่นหรูเหลียนจากนั้นจึงบีบปากเขาแล้วยัดยาลงไป
เสิ่นหรูเหลียนกลืนมันอย่างให้ความร่วมมือ ทหารเสนารักษ์ตรวจภายในช่องปากเขาอย่างละเอียดอีกครั้งจึงเดินกลับไปหานายกองเฉิงแล้วรายงานว่า"แม่ทัพเสิ่นกินยาพิษลงไปแล้วขอรับ"
นายกองเฉิงพูด"ข้าขอให้พระชายาฮุ่ยนำยาแก้พิษออกมาด้วย"
หลังจากพูดจบ นายกองเฉิงได้ทหารหญิงหลายคนให้ค้นตัว
พวกเขาพบขวดยาสองขวดจากตัวไป๋ชิงหลิง แล้วนำไปให้ทหารเสนารักษ์ตรวจเพื่อพิสูจน์ ทหารเสนารักษ์ยืนยันว่ายาสองขวดนี้เป็นยาแก้พิษ นายกองเฉิงวางใจแล้วจึงพาเสิ่นหรูเหลียนเข้าเมืองไปด้วยกัน
เขานำกองทหารไปด้วยครึ่งหนึ่ง ส่วนทหารที่เหลือก็ให้อยู่นอกเมือง
หนึ่งคือขัดขวางท่านอ๋องหรง สองคือเพื่อป้องกันไม่ให้ท่านอ๋องหรงหลบหนีออกจากเมืองไป
นี่เป็นทางตันสำหรับหรงเยี่ย ท่านอ๋องฮุ่ยได้คิดไว้อย่างรอบคอบแล้ว
ยังไม่รุ่งสาง ชาวเมืองยังไม่รู้ว่าภายในวังกำลังเกิดวิกฤต พวกเขาต่างกำลังนอนหลับฝันอยู่
หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงเข้าเมืองมากับกองทัพขนาดใหญ่แล้ว นางก็มองไปที่เสิ่นหรูเหลียน
นายกองเฉิงนั้นเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาได้แยกนางออกจากเสิ่นหรูเหลียน
นายกองเฉิงคนนี้ พอมาถึงก็ขอนางกับเสิ่นหรูเหลียน คงคิดว่าท่านอ๋องฮุ่ยจะคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว นางไม่ได้ติดตามเขา หลังจากเหตุการณ์นี้นางจะไปหากองทัพที่ใกล้ที่สุดในหมู่บ้านเส้าหยางอย่างแน่นอน
จิ้งจอกเฒ่า
ในเวลานี้ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเสิ่นหรูเหลียน
เขาล้มลงกับพื้น ขดตัวและคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
ทหารที่คุมตัวเสิ่นหรูเหลียนพูดว่า"นายกองเฉิง พิษของแม่ทัพเสิ่นออกฤทธิ์แล้ว"
"ทหารเสนารักษ์ ไปดูซิ"
"ขอรับ"ทหารเสนารักษ์เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่เขาย่อตัวลง เสิ่นหรูเหลียนก็ดึงดาบของทหารคนนั้นออกมาและตัดหลอดลมของทหารเสนารักษ์อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
เมื่อทหารเสนารักษ์ล้มลง สถานการณ์ก็เข้าสู่ช่วงการต่อสู้อย่างรวดเร็ว ทหารที่อยู่รอบๆก็รีบปิดล้อมเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จะถูกล้อมรอบอย่างสมบูรณ์เสิ่นหรูเหลียนก็รีบวิ่งไปที่ไป๋ชิงหลิง
เมื่อเขามาถึงตรงหน้านาง เขาก็จับแขนของไป๋ชิงหลิงและพูดเสียงเบาว่า"วิ่งเร็ว ข้าจะอยู่ข้างหลัง"
เขาผลักนางเข้าไปในตรอก
ไป๋ชิงหลิงถอยหลังไปสองสามก้าว เห็นเสิ่นหรูเหลียนตัดหัวศัตรูด้วยความเร็วปานสายฟ้า จากนั้นก็วิ่งหนีโดยไม่หันกลับมามอง
นางต้องจากไปอย่างรวดเร็ว เพื่อที่เสิ่นหรูเหลียนจะได้หนีไปเร็วกว่านี้ มิฉะนั้นเมื่อทหารของนายกองเฉิงโจมตีตอบโต้กลับมา เสิ่นหรูเหลียนจะถูกฝูงชนรุมล้อม ถึงเวลานั้นถึงมีปีกก็บินไปไม่รอด
นางไม่กล้าที่จะหยุด นางรีบวิ่งไปหลายร้อยเมตรในลมหายใจเดียว เดินผ่านตรอกซอยแล้วตรอกซอยเล่าโดยที่ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน รู้แค่ว่าต้องวิ่งเท่านั้น
แต่ในขณะที่นางกำลังจะเลี้ยวเข้าตรอกอีกตรอกหนึ่ง จู่ๆก็มีร่างสีม่วงเข้มก็กระโดดออกมาแล้วอุ้มนางไว้บนบ่าของเขา
แล้วจู่ๆไป๋ชิงหลิงก็กรีดร้อง
นางรู้สึกเวียนหัวและเมื่อนางถูกวางลงบนพื้นนางก็อาเจียนออกมาแล้ว
นางเกลียดการถูกอุ้มซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อนางอ้วกจนท้องเกร็ง จู่ๆก็มีถุงน้ำยื่นมา ไป๋ชิงหลิงตกตะลึง และหันศีรษะไปมองข้างหลัง
ร่างที่คุ้นเคยก็ยืนอยู่ข้างหลังนาง
เมื่อไป๋ชิงหลิงเห็นหรงเยี่ย นางทั้งตื่นเต้นและประหลาดใจ
หลังจากนั้นนางก็โผเข้ากอดเขา.....
ตัวของหรงเยี่ยแข็งทื่อ มือของเขาที่ถือถุงน้ำลอยอยู่กลางอากาศ เขามองลงไปที่ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา แล้วยกมือขึ้นกอดนางแน่น.....
นี่เป็นครั้งแรกที่นางเริ่มกอดเขาก่อน
ความรู้สึกนี้หวานยิ่งกว่ากินผลไม้เชื่อมเสียอีก
เขากดนางไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างหุนหันพลันแล่น แล้วอุ้มร่างของนางขึ้นโดยใช้มือไพล่หลังนาง
เขากดริมฝีปากบางของเขาลงบนปากนางอย่างแรง
ไป๋ชิงหลิงพูดเสียงต่ำ"อือ"วางมือบนไหล่ของเขาและประกบริมฝีปากของเขา
จูบของเขารุนแรงและเร่าร้อน และในเวลาเพียงชั่วครู่เดียวไป๋ชิงหลิงก็เกลือบจะหายใจไม่ทัน
ไป๋ชิงหลิงรีบผลักเขาออกไปและหยุดเขา"หรงเยี่ย เรากำลังทำเรื่องจริงจังอยู่ หยุดจูบได้แล้ว!
"เจ้าเริ่มกอดข้าก่อน"ขณะที่นางกำลังดิ้นริมฝีปากของชายคนนั้นก็กดที่หูของนางและเขาก็พูดเบาๆ
ทันใดนั้นใบหน้าของไป๋ชิงหลิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดง หลังจากนั้นนางจึงรู้ตัวว่านางตื่นเต้นมากเกินไปตอนที่เห็นหรงเยี่ย
นางอดไม่ได้ที่จะกอดเขา
นางแค่รู้สึกว่าเมื่อตอนที่เห็นหรงเยี่ยนางรู้สึกปลอดภัยมากและเหมือนนางไม่ได้กำลังต่อสู้คนเดียวอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของนาง ไป๋ชิงหลิงก็ต้องตกตะลึง
นางเริ่มพึ่งพาผู้ชายคนนี้โดยไม่รู้ตัว
ไป่ชิงหลิงวางหน้าผากของนางเข้ากับหน้าอกของเขา นางไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว นางพูดด้วยเสียงอู้อี้ว่า "เซิงเอ๋อร์อยู่ที่ไหน?"
"นางอยู่กับข้า นางสบายดี"
"ถ้าเช่นนั้นเจ้ากลับไปพาแม่ทัพเสิ่นออกมาได้หรือไม่ เขาเข้ามาในเมืองพร้อมกับข้า"
"เสิ่นหรูเหลียน?" ดวงตาของหรงเยี่ยหรี่ลง
ไป๋ชิงหลิงไม่รู้ถึงความคับข้องใจระหว่างหรงเยี่ยกับเสิ่นหรูเหลียน นางรู้เพียงว่าเสิ่นหรูเหลียนอยู่ใกล้นางที่สุด
นางเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพูดว่า"ท่านอ๋องหรง ท่านอ๋องฮุ่ยรู้ว่าข้าคือสายลับที่จักรพรรดิส่งไปให้อยู่ข้างเขา และเขารู้ด้วยว่าข้าจะมาช่วยทหารและปิดประตูเมืองล่วงหน้า ทหารเกราะเงินที่ทำร้านแม่ทัพเสิ่นหนึ่งหมื่นนายติดอยู่นอกเมือง ข้าก็ถูกนายกองเฉิงจับไว้เป็นตัวประกัน"
"เสิ่นหรูเหลียนมีกลยุทธ์ที่เก่งกาจ เขามาจากทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ เขาไม่ได้อ่อนแออย่างที่เจ้าคิด"
ถ้าเช่นนั้น?
"มาจากทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ?"ไป๋ชิงหลิงมองเขาด้วยความประหลาดใจ
หรงเยี่ยคว้ามือของนางไว้ เขาไม่อยากพูดถึงเสิ่นหรูเหลียนอีก"ข้าจะพาเจ้าไปหาเซิงเอ๋อร์!"
ก่อนที่ไป๋ชิงหลิงจะทันได้โต้ตอบ หรงเยี่ยก็พานางข้ามชายคาและข้ามกำแพงไปยังตรอกที่เงียบสงบในเมือง เขาเปิดฝาท่อ กอดนางแน่นแล้วกระโดดลงไปพร้อมกัน
ขณะที่ตัวของนางกำลังลงมา ไป๋ชิงหลิงกอดหรงเยี่ยแน่นอีกครั้ง
เมื่อทั้งสองกำลังจะถึงพื้นความเร็วก็ลดลง จากนั้นพวกเขาก็ยืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคง
เมื่อนางลืมตา นางถูกล้อมรอบไปด้วยวังใต้ดินที่เหมือนยกพระราชวังลงมาอยู่ใต้ดิน
"พวกเราอยู่ใต้ดิน?"นางถามด้วยความไม่เชื่อ
วังแห่งนี้เหมือนพระราชวัง ทั้งหรูหราและสง่างาม เหมือนพระราชวังจำลองเลย
หรงเยี่ยพนักหน้า
ในเวลานี้ไป๋ชิงหลิงรู้สึกว่ามีบางอย่างถูกับเท้าของนาง นางมองลงไป และเห็นว่านั่นคือเป่าลี่ว์
ในเวลาเดียวกัน เสียงของไป๋ชงเซิงและหรงจิ่งหลินก็ดังมาจากด้านหลัง"ท่านแม่!"
ไป๋ชิงหลิงหันกลับมาอย่างรวดเร็วและเห็นหรงจิ่งหลินกับไป๋ชงเซิงวิ่งออกมาจากอีกทาง
ทั้งสองคนมีสีหน้าที่ดีใจ พวกเขารีบวิ่งเข้ามากอดขาของไป๋ชิงหลิงไว้
เมื่อไป๋ชิงหลิงถูกทั้งสองชนเข้านางก็ถอยหลังไปสองสามก้าว หรงเยี่ยที่ยืนอยู่ข้างหลังนางก้ยกมือขึ้นเพื่อประคองนางไว้
เด็กสองคนกลับไม่รู้
ทั้งหัวใจและดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยการกลับมาอย่างปลอดภัยของไป๋ชิงหลิง
หรงเยี่ยโอบแขนข้างหนึ่งรอบเอวของนางและกอดนางจากด้านหลัง ในขณะที่เด็กสองคนกอดต้นขาของไป๋ชิงหลิงไว้คนละข้าง
ภาพแบบนี้ทำให้เป่าลี่ว์ตกใจอย่างมาก
ไป๋ชิงหลิงเป็นคนแรกที่นึกได้ นางกระซิบว่า"เอ้อร์ซือล่ะ? เซิงเอ๋อร์ พี่ชายเจ้าล่ะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...
อ่านถึงตรงนี้แล้วยอมรับเลยว่าเหนื่อยแทนไป่ชิงหลิงจริงๆ...มีเรื่องตลอด...ช่วงดีๆแทบจะไม่มีเลย..แอดขาาาาตามอ่านจนจะทันแล้วนะคะลงต่อเถอะค่ะเข้ามาส่องทุกวันว่าขยับจาก 460ไปบ้างรึยังพรีสสสสส😽😽😽...
เจอแล้ว..เจอแล้ว..เป็นเรื่องที่อยากอ่านมากๆอีกเรื่องนึง..กรี๊ดลั่นรถจนลูกผัวตกอกตกใจ55555....แอดขาาา..อัพต่อไปเรื่อยๆนะคะจะตามอ่านให้ทันแน่นอนค่ะ😄🤗😊...
ตอนนี้ชื่อหรงฉี่กับอ๋องต้วนสลับกันอยู่นะอย่าทำให้สับสนสิคะ...
บท 433 แล้วมีต่อใช่มั้ยคะ...
อ่านแล้ว ยังไม่จบ แต่สถานะทำไมเสร็จสิ้นแล้ว น่าจะยังอีกหลายตอน ทำไมไม่มีการลงต่อคะ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...