“เรื่องนี้ต้องมีการหารือกันในระยะยาว” หลังจากจักรพรรดิเหยาพูดจบ เขาก็ไม่ต้องการพูดอีกต่อไป
ไป๋ชิงหลิงเองก็ไม่รีบร้อน “เพคะ อย่างไรแล้วนี่เป็นเรื่องใหญ่”
“ถ้าฮ่องเต้สามารถฝึกฝนหมอหญิงที่โดดเด่นแบบหมอเจาเสวี่ยนี้ เช่นนั้นมันจะเป็นพรของแคว้นเรา” ทันใดนั้นไทเฮาก็พูดขึ้น
จักรพรรดิเหยาผงะเล็กน้อย เหลือบมองไทเฮาและตรัสด้วยรอยยิ้ม “สิ่งที่เสด็จแม่ตรัสก็ใช่ ข้าเองก็หวังว่าจะมีคนเช่นนางมากขึ้น เพื่อให้ทักษะการรักษานี้สืบทอดตลอดไป”
ไทเฮามองไปที่ไป๋ชิงหลิง ด้วยใบหน้าที่ใจดี
อ๋องเฉินและพระชายาเฉินเข้ามา หลังจากทำความเคารพผู้อาวุโสแล้ว พวกเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ถัดจากไป๋ชิงหลิง
ไทเฮาเหลือบมองที่เสิ่นโหรวเม่ยอย่างไม่แยแส จากนั้นก็มองไปทางอื่น
ในเวลานี้ เสียงหัวเราะของไป๋ชงเซิงดังมาจากข้างนอก และมีว่าวสองตัวบินอยู่บนท้องฟ้าสีคราม ตัวหนึ่งเป็นผีเสื้อและอีกตัวหนึ่งเป็นนกอินทรี
เมื่อหลงจิ่งหลินเห็นว่าวทั้งสองอยู่บนท้องฟ้า เขาก็ลุกขึ้นทันทีและพูดว่า “เสด็จแม่ ข้าจะออกไปหาเสด็จพ่อกับน้องสาว ”
“ข้ก็จะไป ข้าก็จะไปด้วย” หลวนอี๋ยืนขึ้น ดึงหรงจิ่งหลินและวิ่งออกจากกระโจม
มีสนามหญ้าอยู่ข้างนอก และมีสตรีผู้สูงศักดิ์มากมายกำลังเล่นสนุกสนาน
หลังจากที่หลวนอี๋และหรงจิ่งหลินวิ่งไปข้างกายไป๋ชงเซิน พวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว
เหล่าองค์ชายที่อยู่ในกระโจมก็ออกไปไปทีละคน และไปที่คอกม้าเพื่อเลือกม้า หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มผู้เล่นแข่งม้าตีคลีก็เพิ่มขึ้นมาอีกกลุ่มหนึ่ง และเหล่าองค์ชายก็อยู่ในนั้น
ฟางกงกงเข้ามาทูลว่า “ฝ่าบาท องค์ชายหลายพระองค์จะเสด็จไปทรงแข่งม้าตีคลีแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ออกไปดูเถอะ” จักรพรรดิเหยาลุกขึ้น และพาฮองเฮาอู่ออกจากที่ประทับไปด้วยกัน
ไป๋ชิงหลิงรอให้ทุกคนออกไปหมดแล้ว ถึงลุกขึ้นเดินออกมา ในเวลานี้ เสียงของหวู่ซือหลิงก็ดังมาจากข้างกาย “น้องเจ็ด ไม่ได้เจอกันสองเดือน เจ้าผู้ผอมลงนะ”
ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และหันไปมองร่างสีฟ้าอ่อนข้างกายนาง
สีฟ้า !
นางหันศีรษะไปมองเสื้อผ้าที่หวู่ซือหลิงสวมใส่ในวันนี้โดยไม่รู้ตัว สีฟ้าลายดอกแดฟโฟดิล
ด้วยการปรากฏตัวของเสิ่นโหรวเม่ยในตอนนั้น ตอนนี้ไป๋ชิงหลิง ระวังคนที่สวมชุดสีฟ้า โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ต่อหน้านางซึ่งครั้งหนึ่งเคยต้องการใช้นางเพื่อกลั่นแกล้งทำร้ายพระชายารองหวู่
จะเห็นได้ว่าใจนางกำลังพยายามต่อสู้
นางไม่สนใจหวู่ซือหลิง เพียงแค่มองนาง แล้วรีบเดินออกจากกระโจมไปอย่างรวดเร็ว
หวู่ซือหลิงจ้องมองที่ด้านหลังของนาง มีร่องรอยความเย็นชาอยู่ในตาของนาง
ได้ยินมาว่านางทะเลาะกับพระชายาเฉินอย่างไม่เป็นที่พอใจเมื่อเร็ว ๆ นี้ และบังเอิญให้นางมีโอกาสลงมือพอดี
ถ้าสุนัขกัดสุนัข เช่นนั้นก็ปล่อยให้สุนัขกัดให้แย่ลงอีกหน่อยแล้วกัน
นางจงใจชะลอฝีเท้า และถามสาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ ว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยหรือยัง?”
“พระชายาโปรดวางใจเพคะ ทุกอย่างถูกจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว”
“อืม!” หวู่ซือหลิงพยักหน้า และเดินตามรอยเท้าของกองทหารไปที่สนามแข่งม้าตีคลี
ผู้แข่งม้าตีคลีถูกแบ่งออกเป็นสองทีม อ๋องเฉินและอ๋องหรงก็กลายเป็นคู่แข่งกัน
ในหมู่พวกเขา อ๋องหรงและอ๋องต้วนติดตามทีมของอ๋องเฉิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...